ตรัง–คุมตัวอดีตผจก.ชุมนุมสหกรณ์ยางตรัง ส่งศาล จ.ตรัง คอตกเข้าเรือนจำ หลังถูกตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมตัวได้ ระหว่างการหลบหนีคดีระหว่างการพิจารณาคดีของศาล พบมีหมายจับรวมประมาณ 4 คดี ประกอบด้วย หมายจับรับของโจร และฉ้อโกงนายประกันจำนวน 2 คดี และคดีร่วมกับพวกทุจริตขายยาง – คดียักยอกยาง มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท โดยที่หน่วยงานสหกรณ์จังหวัดตรัง และฝ่ายตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ จ.ตรัง แต่ละปี ไม่พบการทุจริต ด้านเจ้าตัวให้การปฏิเสธ โดยล่าสุด ตำรวจกองปราบปรามรับเป็นคดีเตรียมเข้ามาสะสางขยายผลแกะรอยเส้นทางการเงิน เชื่อทำเป็นขบวนการ
ที่ สภ.เมืองตรัง จ.ตรัง ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สารวัตรกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัวนางนิตรดา อาจเส็ม อายุ 47 ปี อดีตผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ออกมาจากห้องควบคุมตัว สภ.เมืองตรัง จากนั้นพาเดินเท้านำตัวไปส่งศาลจังหวัดตรัง คอตกเดินเข้าเรือนจำ จ.ตรัง หลังจากตำรวจกองปราบปราม ติดตามจับกุมตัวได้ภายในขนำไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังหลบหนีเข้าไปอยู่ในพื้นที่ได้ประมาณ 2-3 เดือน ตามหมายจับศาลจ.ตรัง รวมจำนวน 2 หมาย ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ซึ่งได้รับการประสานจากนายประกันประจำศาลจังหวัดตรังให้ติดตามจับกุมตัวนางนิตรดา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาหลบหนีตามหมายจับระหว่างพิจารณาศาลจังหวัดตรัง ทั้งนี้ ระหว่างนำตัวออกจากห้องควบคุมตัวได้มีเพื่อน ญาติพี่น้อง จำนวน 2 คนเดินทางมาให้กำลังใจ
ขณะเดียวกันได้มีนายประกัน จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางเข้าเขียนคำร้อง เพื่อยื่นต่อศาลด้วย โดย 1 ในนายประกัน กล่าวว่า ตนเองเสียเงินสด เนื่องจากถูกศาลริบเงินประกัน ในการยื่นประกันตัวอดีตผู้จัดการ จำนวน 300,000 บาท ในคดี “รับของโจร และคดีฉ้อโกง” ในคดีตั๋วสัญญาใช้เงินปลอม จำนวน 10 ฉบับๆละ 5 ล้านบาท รวมจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งตนยื่นเงินสดประกันตัวจำนวน 300,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเงินประกันในคดีนี้ต้องใช้ทั้งหมดรวมจำนวน 750,000 บาท โดยอดีตผู้จัดการใช้เงินส่วนตัวยื่นประกันอีกจำนวน 450,000 บาท แต่มาทราบมาหลังจากหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่ระหว่างการพิจารณาคดี ปรากฏว่าอดีตผู้จัดการหลบหนี ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2562 รวมเป็นเวลากว่า 3 ปี ตนจึงเดือดร้อนถูกริบเงินประกัน จึงได้ตั้งรางวัลนำจับด้วยจำนวน 30,000 บาท และเดินทางมายื่นเรื่องร้องต่อศาลในวันนี้ นอกจากนั้นทางชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ได้ตั้งรางวัลด้วยจำนวน 1 แสนบาท ทั้งนี้ ระหว่างที่ตำรวจกองปราบปราบคุมตัวนางนิตรดาไปส่งศาลจ.ตรัง บอกเพียงสั้นๆปฏิเสธไม่ได้กระทำความผิด โดยล่าสุด ตำรวจกองปราบปรามรับเป็นคดีเตรียมเข้าสะสางขยายผลแกะรอยเส้นทางการเงิน เชื่อทำเป็นขบวนการ โดยยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับนางนิตรดา อาจเส็ม อดีตผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ จ.ตรัง ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการรวบรวมยางแผ่นรมควันจากสหกรณ์สมาชิก เพื่อส่งขายในตลาดกลางยางพารา แต่ปรากฏว่า มีพฤติกรรมร่วมกับพวกทุจริตยางของชุมนุมสหกรณ์ นำไปขายให้กับบริษัทเอกชน รวมทั้งมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเองประมาณ 5 บริษัท เพื่อยักยอกยางไปขาย และหมุนเวียนนำยางจากบริษัทดังกล่าวเข้ามาสำแดงเท็จกับชุมนุมแล้วนำออกไปขาย รวมทั้งมีการลักทรัพย์นายจ้าง (ชุมนุมสหกรณ์) ไปขายให้กับบริษัทส่งออกยางเอกชนรายใหญ่ในจ.ตรัง รวมความเสียหายของชุมนุมสหกรณ์ทั้งหมดกว่า 300 ล้านบาท และมีการออกตั๋วสัญญาใช้เงินปลอม จำนวน 10 ฉบับๆละ 5 ล้านบาท รวมจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนำเงินเข้ากระเป๋าตนเองและพวกพ้อง ซึ่งใช้เวลาในการทุจริตทั้งหมดประมาณ 5 ปี แต่ความแตกเมื่อประมาณปี 2561หลังปรากฏว่าอยู่ๆชุมนุมสหกรณ์จ.ตรัง ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ยางในชุมนุมสหกรณ์หายไปทั้งหมด ไม่มียางหมุนเวียนในสต๊อก และไม่มีเงินในบัญชี สร้างความเสียหายต่อเนื่องไปถึงสหกรณ์สมาชิกด้วย
ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งสหกรณ์จังหวัดตรัง และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ จ.ตรัง ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์แต่ละปี ไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด หลังจากนั้นทางตัวแทนชุมนุมสหกรณ์จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง รวมทั้งกองปราบปราม ทั้งนี้ สำหรับอดีตผู้จัดการซึ่งหลบหนีระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ถูกออกหมายจับรวม 4 คดี ที่ จ.ตรัง 3 คดี ประกอบด้วย 1.หมายจับคดีรับของโจร ,ฉ้อโกง ตั๋วสัญญาใช้เงินปลอมดังกล่าว ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน เมื่อปี 2562 2.คดีลักทรัพย์นายจ้าง (ชุมนุมฯ) ไปขายให้กับบริษัท ศรีตรังฯ มูลค่าความเสียหาย 3.5 ล้านบาท ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี เมื่อปี 2564 และ3.คดีที่ชุมนุมสหกรณ์เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ สภ.เมืองตรัง มูลค่าความเสียหาย 146 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ขณะนี้สำนวนคดีอยู่ในความพิจารณาของอัยการ แต่อดีตผู้จัดการหลบหนี ไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามนัดส่งอัยการ จึงถูกศาลจังหวัดตรัง ออกหมายจับ วันที่ 10 เม.ย.2563 และคดีที่ จ.พัทลุง อีก 1 คดี
