ตรัง สลดหนุ่มใหญ่ถูกแทงดับ คาดปมปัญหาผิดใจกันในวงเหล้า ร่างนอนจมกองเลือดกลางที่ทำการชุมชนโคกหล่อ
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 04.20 น. ร.ต.อ.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ ร้อยเวรฯ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุแทงกันตาย ที่ทำการชุมชนเทศบาลโคกหล่อ ม.3 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้งได้ประสานแพทย์เวรฯรพ.ตรัง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง แล้วจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง
ไปถึงที่เกิดเหตุพบศพชายนอนจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายอนุชา กึ่งเลื่อน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/5 ม.3 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเขียว จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ของแพทย์เวรฯ โรงพยาบาลตรัง พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1 แผล และต้นแขนซ้าย 1 แผล เสียชีวิตคาที่ ข้างศพพบมีอาวุธมีด 1 เล่ม ตกอยู่และมีแกงอีก 1 ถุงแตกอยู่บนพื้น และยังมีรถจักรยานยนต์ป้ายทะเบียน 1กด 4274 ตรัง จอดอยู่ซึ่งเป็นของเพื่อนผู้ตายจอดออยู่
จากการสอบถาม นายประยงค์ กึ่งเลี่ยน ประธานชุมชนเทศบาลโคกหล่อ ม.3 ต.โคกหล่อ ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ตาย บอกว่า ตนเองเข้ามาที่เกิดเหตุกัน 3 คน ช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่า ก็เห็นว่าพี่ชายก็นอนอยู่แบบนี้แล้ว จึงได้รีบโทรแจ้ง 1669 และ 191 เพราะตนเองก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร พี่ชายตนเองก็จะอยู่แถวนี้เป็นประจำ และเรื่องที่จะไปรบราฆ่าฟันกับเพื่อนไม่มี แต่กินเหล้ายอมรับว่ากิน แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร แต่อาจจะเกิดจากอาการเมาและคนที่ก่อเหตุอาจไม่เข้าใจจนเกิดการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ขณะที่เพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้ตายจะเมาเป็นประจำ แต่จะไม่วุ่นวายกับใคร จะอยู่คนเดียวไม่ไปอันธพาลกับใคร คนแถวนี้จะรู้ดีว่าพอเขาเมาแล้วจะชอบสนุก ล่าสุดวันนี้ก็พบเจอที่งานโรงพระในพื้นที่เขาก็ยังเต้นรำอยู่ตามปกติ ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน อาจจะผิดใจกันเรื่องอะไรสักอย่างหนึ่ง เพราะสาเหตุอื่นไม่น่าจะมีอะไร ยืนยันว่าปัญหาอื่นไม่มีแน่นอน
เบื้องต้นสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากปัญหาผิดใจกันในวงเหล้า แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้งแต่อย่างใด หลังจากนี้จะส่งศพไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่ โรงพยาบาลตรัง พร้อมได้เชิญตัวน้องชายกับเพื่อน ๆ รวมถึงเพื่อนของผู้ตาย ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองตรัง ส่วนที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ได้เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน วัตถุพยาน พยานแวดล้อม ถ่ายภาพที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
