ตรัง ชาวสวนปาล์มยื่นนส.เรียกร้องรัฐ งัดกม.แก้ราคาปาล์มตก ละเว้นเตรียมแจ้ง 157
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 65 เวลา 13.00 น.ที่ศาลากลาง จ.ตรัง สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ร่วมกับสมาคมปาล์มน้ำมันพัฒนาอย่างยั่งยืน นำโดยนายชัยวัฒน์ โภคาวัฒนา และนายอภิชาติ พรหมปองสุข พร้อมด้วยตัวแทนกรรมการทั้ง 2 สมาคม และตัวแทนเกษตรกร เข้ายื่นหนังสือ 2 ฉบับ เพื่อเรียกร้องไปยังนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ“กจร.” และอีก 1 ฉบับ ยื่นผ่านไปถึงนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ “ กกร “ เพื่อเรียกร้องให้ทั้ง 2 คน ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลราคาและบริการในส่วนจังหวัดและส่วนกลาง เร่งบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยขณะนี้ราคาปาล์มตกต่ำเหลือกก.ละ 4.00 -4.10 บาท เท่านั้น ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่ต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยยังคงมีราคาแพงตกกระสอบละ 1,500 – 1,800 บาท โดยมีการแนบประกาศโครงสร้างการคำนวณราคาประมาณการของผลปาล์มน้ำมัน และหลักฐานใบชั่งน้ำหนัก และราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้จากลานเทเป็นหลักฐานสำคัญว่า ราคาผลผลิตที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิต และเป็นราคาที่ไม่เป็นธรรม เป็นราคาที่ไม่สะท้อนข้อเท็จจริง
โดยมีเนื้อหาหนังสือและข้อเรียกร้องต่างๆ รวม 4 ข้อ โดยระบุ ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ปาล์ม มีความไม่เป็นธรรมในทางการค้า คือ การรับซื้อผลปาล์มน้ำมันลดต่ำลงกว่าราคาที่ควรจะเป็น โดยไม่มีเหตุอันควรในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันไม่เป็นไปตามประกาศโครงสร้างการคำนวณราคาประมาณการของผลปาล์มน้ำมัน ซึ่งประกาศให้ราคาผลปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันขวดลิตร มีความสัมพันธ์กัน คำนวณได้ เช่น ปัจจุบันน้ำมันขวดลิตรราคา 40 -50 บาท ราคาผลปาล์มทะลายควรรับซื้อที่ราคา กก.ละ 6.05-6.30 บาท แต่ราคารับซื้อทั่วไปขณะนี้ในราคา 4 บาทกว่าๆ ไม่เป็นไปตามประกาศฯดังกล่าว ไม่ติดตั้งป้ายราคาในการรับซื้อตามแบบที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ “กกร.” กำหนดประกาศราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบของไทยทั้งระบบ ไม่ตรงกันกับราคาปาล์มน้ำมันที่สำนักงานพาณิชย์ภูมิภาครายงาน ไม่สามารถอ้างอิงเป็นแบบในการปฏิบัติได้ จงใจให้ข้อมูลการรายงานราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มของไทย อลวน สับสนจนไม่สามารถใช้อ้างอิงใดๆได้ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 12 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ “กกร.” และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ “กจร.” มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ในจังหวัด ด้วยเหตุดังกล่าว จึงขอให้ทั้ง 2 ท่าน สั่งการ ออกประกาศ เพื่อสั่งการ ควบคุม ทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.ตรวจสอบการปั่นป่วนราคาช่วงเดือนธันวาคม 2. ควบคุมการรับซื้อผลปาล์มให้เป็นไปตามประกาศโครงสร้างราคาฯ 3. ควบคุมการปิดป้ายราคารับซื้อ 4. ควบคุมให้รายงานราคาน้ำมันปาล์มให้สอดคล้องกับราคาปาล์มน้ำมันที่สำนักงานพาณิชย์ภูมิภาครายงาน และออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการให้ทุกปัญหาปาล์มน้ำมัน สามารถปฏิบัติได้ด้วยดีตามกรอบแห่งพระราชบัญญัตินี้ โดยทางทั้ง 2 สมาคมให้เวลาในการดำเนินการ 30 วัน หากไม่เป็นผลจะเดินทางมาติดตามทวงถาม และเตรียมแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 157 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานความผิดละวันการปฏิบัติหน้าที่ ไม่กำกับ ควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว
นายอภิชาติ พรหมปองสุข ตัวแทนสมาคมปาล์มน้ำมันพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ตอนนี้ปาล์มน้ำมันตกต่ำมาก จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังบังคับใช้กฎหมายกับสินค้าควบคุม เพราะตอนนี้อำนาจบังคับใช้กฎหมายอยู่กับผู้ว่าฯแล้ว โดยเรียกร้องราคาที่เป็นธรรมเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องราคาเกิน ไม่ต้องการให้โรงงานเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เพราะตอนนี้ราคาน้ำมันปาล์มขวดยังอยู่ที่ขวดละ 49 -50 บาท ถ้าใช้สูตรคำนวณราคาที่เป็นธรรม ราคาปาล์มน้ำมันก็ควรจะอยู่ที่กก.ละ 5.80 – 6.10 บาท แต่ขณะนี้ราคารับซื้ออยู่ที่กก.ละ 4 บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าราคาจริงมาก ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กกร.โดยตำแหน่ง แต่ไม่เคยบังคับใช้กฎหมายสินค้าควบคุมชนิดปาล์มเลย และตอนหลังอำนาจนี้อยู่กับผู้ว่าฯ แล้ว จึงอยากให้ผู้ว่าฯใช้อำนาจ โดยชาวสวนปาล์มนัดยื่นหนังสือพร้อมกันทุกจังหวัด ทั้งนี้ ให้เวลา 1 เดือน หากไม่ควบคุมราคาให้เป็นธรรม ก็เตรียมจะแจ้งความเอาผิดทั้งผู้ว่าฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฐานละเว้นมาตรา 157 และร้องกับปปช.ตรวจสอบต่อไป ขณะเดียวกันตัวแทนสมาคมฯเตรียมจะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซ้ำต่อไปภายในสัปดาห์นี้
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนมก้าวสู่ยุคดิจิทัลสุขภาพ! อบจ.นครพนม ผุดโครงการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการแพทย์ทางไกล
- ชาวไร่อ้อยสระแก้วรวมตัวทวงถามเงินตัดอ้อยสด ลดฝุ่น PM2.5 เตรียมเข้าทวงถามรัฐมนตรี 2 ธ.ค.นี้
- มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ 29 พฤศจิกายน ผนวก "มหกรรมสุขภาพเมืองเชียงใหม่
- งาน FD EXPO 2024" พบกันวันที่ 12-15 ธันวาคม นี้ จัดใหญ่ ไฟกระพริบ ปีละหน ที่ฮอลล์ 101 ไบเทค บางนา
ทางด้านนายชัยวัฒน์ โภคาวัฒนา (เสื้อยืดสีเหลือง) นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจ.ตรัง กล่าวว่า จะให้เวลา 1 เดือน เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ และทางจังหวัด ดูแลแก้ปัญหาให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกร หากไม่ดำเนินการจะมาติดตามต่อไป ส่วนราคาที่ตกต่ำเหลือกก.ละ 4 บาท ขณะนี้ ทุกคนงง เพราะราคาไม่น่าจะดิ่งลงมากมายขนาดนี้ลงพรวดเดียว แต่เมื่อดูข้อเท็จจริงแล้วไม่เป็นไปตามโครงสร้างราคาที่แท้จริง จึงมายื่นหนังสือถาม และเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาโดยด่วน ขณะนี้ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศมาเลเซีย เพื่อนบ้าน อยู่ที่กก.ละ 6.10 บาท ซึ่งเป็นราคาสะท้อนความเป็นจริง แต่ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มขวดอยู่ที่ขวดละ 50 บาท ราคาผลผลิตปาล์มก็ควรจะอยู่ที่กก.ละ 6 บาท แต่ตอนนี้ลงไปอยู่ที่กก.ละ 4 บาท ชาวสวนเดือดร้อนหนัก
ทางด้านนายอภิวัฒน์ โชติกมาศ (เสื้อลายเหลืองสวมแมสขาว) เกษตรกร กล่าวว่า จังหวัดอื่นๆ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะมีการขึ้นประกาศราคารับซื้อปาล์มน้ำมันของโรงสกัดต่างๆ รวมทั้งราคารับซื้อของลานเทด้วย เพื่อให้เกษตรกรได้มีทางเลือกในการขายผลผลิต แต่จังหวัดตรังไม่มี จึงอยากเรียกร้องให้มีการประกาศรับซื้อให้ชัดเจนทุกโรงงาน และทุกลานเท เพื่อความเป็นธรรม และเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกร
ทางด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา (ชุดกากี) ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวหลังรับหนังสือว่า ขอดูข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนในเบื้องต้น เพราะสิ่งที่เกษตรกรเรียกร้องเข้าใจว่าบางส่วนเป็นเรื่องของกลไกของตลาด ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จังหวัดพิจารณาได้ จะรับไปดูรายละเอียด แต่ถ้าสิ่งไหนเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวง ก็จะส่งต่อให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา เพื่อมอบนโยบายลงมาช่วยเหลือเกษตรกร ส่วนตัวคิดว่า เรื่องของราคาปาล์มน้ำมันที่ลดลงกระทบกับเกษตรกรในภาคใต้ที่มีผลผลิตปาล์มน้ำมันอยู่ รับปากว่าจะเร่งดำเนินการดูแลให้ในส่วนที่ทางจังหวัดจะทำได้ จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูในรายละเอียด และเร่งพิจารณาดูแลในส่วนที่จังหวัดทำได้ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: