ตรัง ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ห้องพักในจ.ตรัง วอนรัฐเห็นใจยกเลิก หรือชะลอการปรับขึ้นค่า FT รอบใหม่ เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายเดือดร้อนหนักแทบจะปิดโรงแรมมาก่อนหน้านี้ เพิ่งจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่กลับจะมาเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการซ้ำ โดยขณะนี้ธุรกิจโรงแรม รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องจ่ายค่าไฟโดยรวมจาก3 ส่วน ประกอบด้วย ค่าไฟ , ค่า FT และค่าพีค ซึ่งค่าพีคเป็นเงินกินเปล่าที่การไฟฟ้าเรียกเก็บจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ต้นทุนค่าไฟต่อเดือนสูงลิบควรจะยกเลิกค่าพีครวมทั้งยกเลิกการปรับขึ้นค่า FT หรือชะลอก่อน และเร่งผลักดันโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้
นาวสาวธิดารัตน์ เชียรวิชัย กรรมการผู้จัดการโรงแรมวัฒนา พาร์ค กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการปรับขึ้นค่าไฟนั้น ทางผู้ประกอบการก็รับทราบกันแล้ว และถือว่าเป็นการปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อภาคธุรกิจโรงแรมอย่างแน่นอน เพราะว่าในส่วนของค่าไฟถือว่าเป็นต้นทุนที่สูงที่สุดธุรกิจ รองจากค่าจ้างพนักงาน ซึ่งทางโรงแรมก็พยายามที่จะลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด แต่ว่าพอมีค่าเอฟทีเพิ่มสูงขึ้นมาอีก ก็จะทำให้ต้นทุนนั้นเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ก็จะเป็นปัญหาแน่นอนเพราะว่าโรงแรมแต่ละแห่งมีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นแน่นอนต่อเดือนหลายแสนบาท หากเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ต้องจ่ายค่าไฟนับล้านบาทต่อเดือน ส่วนของโรงแรมวัฒนาพาร์ค ปกติต้องจ่ายค่าไฟต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท แบ่งเป็นค่าไฟประมาณ 150,000 บาท , ค่าเอฟที 30,000 บาทนอกจากนั้นยังมีค่าพีคอีกจำนวนเดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งในที่นี้โรงแรมจะมีงานหรือไม่มีงาน ต้นทุนที่ต้องแบกรับอยู่แล้วทุกเดือน คือค่าไฟหลักหลายแสนบาท รวมทั้งโรงงานด้วยที่จะต้องจ่ายค่าไฟแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเหมือนกับโรงแรม คือ ค่าไฟ ค่าเอฟที และค่าพีค
ข่าวน่าสนใจ:
- นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู…
- คิดจะค้ายาฯ ขอให้..คิดถึงคุก!!
- ฉุนหนัก เพื่อนรักล้วงเล่นนกเขา คว้าขวดเบียร์ตีหัวแตก
- ตม.สระแก้ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จับกุมชาวจีน 2 ราย หลบหนีเข้าเมือง
ซึ่งค่าพีคที่ถูกการไฟฟ้าเรียกเก็บจากโรงแรมคือ การใช้ไฟสูงสุดในช่วงเวลาพีค คือ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น. สมมุติหากวันไหนโรงแรมมีงานประชุมสัมมนาพร้อมกันทั้ง 4 ห้อง ค่าพีคก็จะเกิดทันที ซึ่งจะต้องจ่ายหน่วยละ 100 กว่าบาท ซึ่งแพงมาก ต่อเดือนโรงแรมต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ในขณะนี้เวลาที่เหลืออีกกว่า 20 วัน ไม่มีงานเข้ามาเลย แต่โรงแรมก็ถูกเรียกเก็บเรียบร้อยแล้ว ซึ่งงานโรงแรมไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงเวลาการจัดงานในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ส่วนตัวมองว่าค่าพีคนั้นเหมือนกับเป็นเงินกินเปล่าที่ทางการไฟฟ้าเรียกเก็บจากผู้ประกอบการ ซึ่งในส่วนนี้อยากจะเรียกร้องให้มีการยกเลิก เพราะต้องจ่ายถึง 3 ส่วน ทั้งค่าไฟ ค่าเอฟที และค่าพีค คราวนี้เมื่อมีการเพิ่มค่าเอฟทีอีก ก็จะยิ่งเพิ่มภาระต้นทุนให้กับผู้ประกันเพิ่มมากขึ้นไปอีก อยากให้ชะลอการปรับขึ้นค่าเอฟทีออกไป และให้ยกเลิกการเรียกเก็บค่าพีค เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจก็ไม่ได้ดีประเภทเห็นผลแบบทันทีทันใด แต่ค่อยๆดีขึ้น ในฐานะผู้ประกอบการเพิ่งจะเริ่มมีงานเข้ามาเท่านั้น แต่รัฐกลับจะมาเพิ่มต้นทุนให้อีก แล้วผู้ประกอบการจะอยู่กันอย่างไร ผู้ประกอบการจะไปคิดบวกเพิ่มกับลูกค้า เขาก็ไม่มีเงินมาจ่าย คนก็ไม่ใช้บริการ
ทั้งนี้ สำหรับโรงแรมในจ.ตรัง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมือง ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ แม้จะมองว่านักท่องเที่ยวคึกคัก แต่นักท่องเที่ยวไม่ได้พักในตัวเมืองเหมือนในภาคเหนือ แต่คนจะไปเที่ยว ไปพักในส่วนของโรงแรมรีสอร์ทตามชายหาด หรือตามเกาะต่างๆมากกว่า ไม่มีใครเข้ามานอนในเมือง ตอนนี้รอคอยจีนเปิดประเทศ ซึ่งจะเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะที่ผ่านมาโรงแรมต่างๆจะได้นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก แต่ถึงแม้จีนจะเปิดประเทศ แต่กว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าก็ประมาณ 3 เดือนข้างหน้า หรือประมาณเดือนที่จะมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ นอกจากนั้นอยากจะเรียกร้องให้ทางรัฐบาลสานต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพราะที่ผ่านมานั้นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถช่วยกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวได้อย่างดี ประชาชนกล้าเดินทาง กล้าตัดสินใจที่จะเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งช่วยได้มาก เพราะรู้สึกว่ารัฐช่วยจ่าย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐเร่งสานต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
การคิดค่าไฟฟ้าในช่วงเวลา On Peak ค่าไฟจะแพง เพราะเป็นช่วงที่ระบบมีความต้องการใช้ไฟฟ้ามาก เนื่องจากการไฟฟ้าต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงทุกชนิด ทั้งที่มีราคาถูกและแพง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการ ช่วงเวลา On Peak จะอยู่ในช่วงระหว่างเวลา 09.00 – 22.00 น. ของวันจันทร์ – วันศุกร์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: