ตรัง – ชาวบ้าน 12 ครอบครัว บ้านเกาะบก ต.นาท่ามเหนือ เป็นหมู่บ้านหนึ่งเดียวในภาคใต้ ที่ยังคงยึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมากที่สืบทอดมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ส่งขายหลายจังหวัดทั่วภาคใต้ จนเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนหนังสือจนสำเร็จ
ที่บ้านเลขที่ 58/2 หมู่ 6 บ้านเกาะบก ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง นายมานบ ไกรเทพ 55 ปี และนางหนูนิตย์ ไกรเทพ 53 ปี สองสามีภรรยายึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมาก (กรรไกรคีบหมาก กรรไกรผ่าหมาก ) ขาย โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านยึดเป็นอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวมายาวนานกว่า 35 ปี จนสามารถส่งลูก 3 คนเรียนหนังสือจนจบ
นายมานบ บอกว่า ตนเองทำอาชีพตีกรรไกรปอกหมาก (หรือเรียกว่า กรรไกรคีบหมาก กรรไกรผ่าหมากก็ได้ตามถนัด ) ขาย มานานกว่า 35 ปี เดิมเรียนจบระดับชั้น ปวส.จากนั้นทำงานราชการ ต่อมาลาออกไปทำอาชีพรับเหมาเดินสายไฟในอาคาร แต่เบื่อหน่ายอยากอยู่กับบ้าน จึงหันมายึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมากขาย โดยได้วิชาความรู้มาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านที่สมัยก่อนตีกรรไกรปอกหมากขาย จากนั้นก็ยึดเป็นอาชีพเรื่อยมากับภรรยา จนส่งลูกจำนวน 3 คนเรียนหนังสือจนจบทั้งหมด โดยที่ครอบครัวตนเองไม่ได้มีอาชีพอื่นเลย ไม่มีสวนยางพารา ไม่มีสวนปาล์มน้ำมัน มีเพียงอาชีพตีกรรไกรปอกหมากขายเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น จากเดิมตีได้วันละ 20-30 อัน แต่ขณะนี้เรี่ยวแรงถดถอยและลูกก็เรียนหนังสือจบกันหมดแล้ว จึงทำกันสองคนตายาย ตั้งเป้าตีให้ได้วันละ 10 เล่ม เท่านั้น ซึ่งเป็นงานอิสระ จะทำเมื่อไรกลางวัน กลางคืน หรือตื่นมาทำตอนไหนก็ได้ แต่ตั้งเป้าต้องวันละ 10 เล่ม จึงจะไปไหนมาไหนได้ ราคาขายส่งเล่มละ 110 บาท ขายปลีกเล่มละ 180 บาท ทำให้มีรายได้ทุกวันๆละกว่า 1,000 บาท หรือรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ช่วยกันตีกับภรรยา ส่วนครอบครัวอื่นๆก็แล้วแต่ใครทำมาก เรี่ยวแรงมีก็ทำได้มาก วันละ 15-20 เล่ม ก็มีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ บ้านเกาะบกมีทั้งหมด 12 ครอบครัว ที่ยึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมาก ,คีบหมาก หรือผ่าหมากขาย ซึ่งบางครอบครัวก็สืบทอดมาจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ ซึ่งแต่ละคนก็มีแบรนด์สินค้าเป็นของตนเอง เช่น ของตนเองจะประทับตรา “ ดาว” เป็นแบรนด์ของครอบครัว ซึ่งครอบครัวอื่นก็จะก็ประทับตราอื่นๆ เช่น ตราปลา ตราดาวหลายดวงบ้าง แล้วแต่ละครอบครัว และถือเป็นหมู่บ้านเดียวของภาคใต้ที่มีการยึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมายขายใหญ่ที่สุดของภาคใต้ จนรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนกรรไกรปอกหมากบ้านเกาะบก โดยมีลูกค้าประจำส่งสั่งซื้อเข้ามาหลายจังหวัดของภาคใต้ ทั้งจากจ.นครศรีธรรมราช แถววัดพระธาตุ , จ.พัทลุง ,จ.สตูล ,จ.กระบี่,สุราษฎร์ธานี โดยลูกค้าก็ครอบครัวใครก็ขายกันเอง โดยแต่ละครอบครัวก็จะมีลูกค้าประจำ แต่ละวันบ้านเกาะบกสามารถตีกรรไกรปอกหมายขายได้วันละประมาณ 150 เล่ม มีรายได้เข้าชุมชนจำนวนมาก
ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำจากเหล็กจำนวน 4 ชนิด ประกอบด้วย แหนบรถยนต์กระบะ โดยไปซื้อเป็นเศษเหล็กมาจากร้านขายของเก่า แหนบเสียๆหักๆ ก็ไปหาซื้อมา ราคากก.ละ 32 บาท โดยมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมกก.ละ 20 กว่าบาท ทั้งนี้จะต้องใช้เหล็กแหนบของรถยนต์กระบะเท่านั้น ของรถที่ใหญ่กว่าไม่ได้ จะหนาเกินไป ทำไม่ได้ , เหล็กแบน, เหล็กเส้นกลม 2 หุนสำหรับทำด้าม ,เหล็กเส้นกลม 3 หุน ไว้สำหรับทำขากรรไกรล่าง
วิธีการทำ เริ่มต้นจากการนำเหล็กแหนบไปเผาไฟด้วยถ่านให้ร้อน ซึ่งถ่านก็ต้องเลือกถ่านไม้เนื้อแข็ง เพราะให้ความร้อนสูง เมื่อเหล็กแหนบร้อนจัดจากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 5-10 ชิ้น แล้วแต่แรงที่จะรีบตีและรีบตัดขณะที่เหล็กยังร้อนจัดเป็นสีแดง จากนั้นเมื่อได้ชิ้นเหล็กสำหรับตีกรรไกรส่วนที่จะเป็นมีดแล้ว ก็ตัดเหล็กเส้นขนาด 2 หุน ยาวประมาณ 2 นิ้ว สำหรับทำด้าม จากนั้นนำด้ามกับชิ้นเหล็กมาเชื่อมให้ติดกัน ให้ออกเป็นรูปคล้ายมีด และนำไปเผาไฟแปรรูปมาตีเป็นกรรไกรส่วนมีด ซึ่งอาจต้องเผาและตีหลายๆครั้ง จนได้รูปทรงที่พอใจ จากนั้นตีประทับตรา “ดาว” ลงไป เพื่อสัญลักษณ์ว่าเป็นกรรไกรปอกหมากจากของบ้านนี้ จากนั้นนำไปลับให้คม และสุดท้าย เพื่อรักษาความแข็งแรงของเหล็กและความคมของมีดก็นำไปเผาไฟอีกครั้ง แล้วนำไปจุ่มในน้ำ เพื่อให้เหล็กแข็งแรงคงทนรักษาสภาพของมีดให้สามารถใช้ได้ยาวนาน จากนั้นนำไปลับกับหินลับมีด เพื่อให้คมกริบเป็นอันเสร็จสิ้นส่วนของมีด จากนั้นตัดเหล็กแบน และเหล็กเส้นขนาด 3 หุน ยาว 4 นิ้ว เอาไปเชื่อมให้ติดกัน เพื่อทำกรรไกรล่าง ก็นำไปเผาไฟให้ร้อนแล้วมาทำตี 2 คน ต้องรีบตีขณะเหล็กร้อนเช่นกัน ทั้งส่วนด้าม และส่วนบนจะต้องทำให้คดงอที่มุมปลายสุด เพื่อจะเจาะรูนำทั้ง 2 ส่วนคือ ส่วนของมีด กับกรรไกรส่วนล่าง ไปสวมให้เข้ากันแล้วตอกตะปูจนแน่นหนา จนได้กรรไกรปอกหมาก หรือผ่าหมาก 1 เล่ม ที่ผ่านการลับคมมีดจนคมแล้ว พร้อมจำหน่าย ส่วนเครื่องมือสำหรับการทำ ส่วนตัวก็เชื่อม ตี เองทั้งหมด ทั้งค้อน มีดขวานจิ๋ว (สำหรับตัดเหล็ก) มีดเจาะ คีม ก็ทำเองหมด ได้ทั้งขนาดและน้ำหนักเหมาะมือ ไม่ต้องซื้อ เพราะไม่มีขาย ถ้ามีประเภทเครื่องตัด เครื่องเจาะจะแพงมาก นายมานบ จึงทำเองด้วยภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ เช่น ทั้งนี้ ต้นทุนของกรรไกร 1 เล่ม ค่าวัตถุดิบประมาณเล่มละ 15 บาท ไม่รวมค่าแรง ซึ่งต้นทุนน้อย ตนเองก็พยายามจะถ่ายทอดให้ลูก แต่ลูกไม่ค่อยสนใจ
นายมานบ ไกรเทพ กล่าวถึงที่มาที่ไปของกรรไกรปอกหมาก ว่า ต้นแบบจริงๆ มาจากคนจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ จากนั้นคนไทยก็ทำเป็น โดยในส่วนของกรรไกรปอกหมากบ้านเกาะบก ถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของภาคใต้ และเป็นแห่งเดียวของจ.ตรัง มีทั้งหมด 12 ครอบครัวที่สืบสานรักษาอาชีพการตีกรรไกรปอกหมากจำหน่าย จนรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนกรรไกรปอกหมากบ้านเกาะบก ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัวและลูกหลานได้ ส่วนตัวไม่มีทั้งสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน แต่ตนกับภรรยา ยึดอาชีพตีกรรไกรปอกหมากขายมาไม่ต่ำกว่า 35 ปี อาชีพเดียว ส่งลูกเรียนหนังสือและเลี้ยงครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม คนในจังหวัดยังไม่รู้ว่ากรรไกรปอกหมายที่ขายในภาคใต้แหล่งผลิตอยู่ที่บ้านเกาะบก ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง จำนวน 12 ครัวเรือนที่ยึดเป็นอาชีพ โดยมีเพียง 3 ครอบครัวที่มีอาชีพทำสวนยางด้วย แต่ที่เหลือรวมทั้งครอบครัวตนเองทำอาชีพเดียวเลี้ยงครอบครัวได้ อยากขอให้ภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมโดยเฉพาะด้านการตลาด เพราะทุกวันนี้ทุกครอบครัวขายกันเองทางเฟสบุ๊ค หรือลูกค้าเจ้าประจำที่เป็นลูกค้าอยู่เท่านั้น ตลาดไม่ได้หลากหลายมากนัก เพราะขาดการส่งเสริมจากภาครัฐ แต่ทุกคนก็อยู่ได้เลี้ยงดูลูกและครอบครัวได้ แต่หากภาครัฐเข้ามาส่งเสริม ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ และการตลาด เชื่อว่าจะทำให้การตลาดไปได้ดีกว่านี้ เพราะขณะนี้บางครั้งยังต้องผ่านพ่อค้าคนกลางด้วย ทำให้กำหนดราคาเองไม่ได้ เรียกว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่รัฐบาลมองไม่เห็น แต่เราเลี้ยงตัวเองได้ กรรไกรปอกหมากที่พบมีการทำขายของภาคอีสาน แต่ในภาคใต้น่าจะมีที่เกาะบกเป็นแหล่งใหญ่แหล่งเดียวในการผลิตและส่งขาย ซึ่งเป็นมีดที่คุณภาพดี ตีด้วยภูมิปัญญาไม่ได้ทำเป็นโรงงานเหมือนที่อื่น สินค้ามีคุณภาพ ใครสนใจอยากจะซื้อกรรไกรปอกหมาก /คีบหมาก หรือผ่าหมาก ติดต่อได้ที่คุณมานบ โทร 091-7905351
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: