ตรัง-ชายคลั่ง ยิงปืนเปิดทางหนีตร.รอบ 2 พร้อมอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันปิดล้อมบ้านบุกเข้าจับกุม หลังจากให้เพื่อนช่วยเจรจาต่อรองให้มอบตัวไม่สำเร็จ โดยทิ้งอาวุธปืนลูกซองยาวไว้ภายในบ้าน ทั้งนี้เจ้าตัวได้เขียนจม.ในลักษณะสั่งลา โดยเจ้าหน้าที่พบขณะเข้าตรวจค้นบ้านพักในรอบแรก หวั่นจะเกิดการต่อสู้เจ้าหน้าที่ ขณะชาวบ้านผวาหนักไม่กล้าออกกรีดยาง ด้านโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างน้อย 2 แห่ง ก็สั่งปิดการเรียนการสอน 1 วัน
เมื่อวันที่ 16 ก.พ.66 จากกรณีนายอุกฤษ พรมขวัญ (ติ๊ก) อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 6 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เกิดความเครียดและมีอาการคลุ้มคลั่ง พร้อมพกพาอาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก ซึ่งเป็นปืนที่มีทะเบียนทั้งหมด ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองยาวของพ่อ, อาวุธปืนขนาด 38 มม.ของพ่อ และอาวุธปืน 9 มม.ของตนเอง ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 กพ.ที่ผ่านมา พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า จำนวน 1 นัด และต่อมาวานนี้ (16 กพ.)ก็ยิงปืนขึ้นอีก 1 นัด รวม 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด , ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (ชุดอนุมาน) ตำรวนภูธรจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้วยยอด จึงร่วมกันปิดล้อมบ้าน และจู่โจมจะบุกเข้าจับกุมทั้งบริเวณเล้าหมู และที่บ้านพัก 2 ชั้น แต่เจ้าตัวหลบหนีไปได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ยึดจดหมายสั่งเสียของนายติ๊กไว้ได้ 1 ฉบับ ใจความลักษณะสั่งเสีย รายละเอียดว่า “ ถ้าชาติหน้ามีจริงโบ้เราอย่าได้พบเจอกันอีกเลย พอแค่ชาตินี้ กูมันเลว..กันอยากให้ผมตายบอกมาตรงๆ นิ ผมพร้อมที่จะตาย เติ้นให้ชีวิตผม ผมเอาชีวิตหลบให้โบ้เติ้ลแล้วนะ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ธุรกิจรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป ขอโทษกับเรื่องราวทุกๆสิ่ง ผมไม่มีอะไรให้โบ้เติน มีแต่ชีวิตผมนี่แหละ… รักทุกคนเหมือนเดิมตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง….. คำขอสุดท้าย…. (ไม่ต้องสวดให้เผาเลย เพราะชีวิตผมไม่ได้สำคัญไหร ) จาก…ลูกเลวระยำ… ติ๊ก นายอุกฤษ พรมขวัญ”
ข่าวน่าสนใจ:
จากจดหมายดังกล่าว ทำให้ญาติพี่น้องห่วงกังวล ขณะที่ชาวบ้านยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น จึงปิดประตูบ้าน หลบอยู่แต่ภายในบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นหลังทราบว่านายติ๊กย้อนกลับมาบ้าน ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ประเมินสถานการณ์สูงมากขึ้น เพราะหวั่นนายติ๊กจะคิดต่อสู้ ทำให้ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
โดยเมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน (16 กพ.) ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.อิสราพงษ์ จินา ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด พร้อมด้วยนายอำเภอห้วยยอด เร่งวางแผนส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปิดล้อมรอบบ้านพัก 2 ชั้นอีกครั้ง หลังทราบว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดอนุมานถอนกำลังออกไปในตอนบ่าย นายติ๊กได้ย้อนกลับเข้าบ้าน ขณะเดียวกันได้เร่งประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรังให้เข้าจับกุมนายติ๊กเป็นครั้งที่ 2 เหตุการณ์จนติดค่ำ เจ้าหน้าที่ได้ส่งเพื่อนของติ๊กจำนวน 2 คน ให้มาช่วยเจรจาต่อรอง โดยพบว่านายติ๊กยังกบดานอยู่ภายในบ้านอย่างเงียบเชียบ และไม่ยอมเปิดไฟภายในบ้าน โดยเพื่อนตะโกนเรียกอยู่ริมถนนหน้าบ้านนานประมาณ 20 นาที แต่ไร้ผลไม่มีเสียงตอบจากติ๊กแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดอนุมานก็ได้วางแผนจู่โจมเข้าไปภายในบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามจะพังประตูหลังบ้านเข้าไป ทำให้นายติ๊กรีบหนีออกจากบ้านทางประตูด้านข้าง พร้อมกับได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทราบว่านายติ๊กเป็นคนยิง เพื่อเปิดทางหนีเข้าไปในสวนปาล์มข้างบ้าน หลบหนีไปท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นภายในบ้าน สามารถยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ซึ่งเป็นของพ่อนายติ๊กได้ 1 กระบอก ส่วนปืนพกสั้นอีก 2 กระบอกทั้ง ขนาด 9 มม.และ 38 มม.นายติ๊กยังพกติดตัวไปด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ถอนกำลังมาวางแผนใหม่ โดยให้ชุดสายตรวจ สภ.ห้วยยอด ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอ และท้องถิ่น ร่วมกันเฝ้าระวัง รอกลับมาวางแผนติดตามตัวอีกครั้งในเช้าของวันที่ 17 กพ. ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงต่างหวาดผวาปิดประตูบ้านหลบอยู่ภายในบ้าน และไม่กล้าออกไปกรีดยางพารา ขณะที่โรงเรียนในเบื้องต้น 2 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านซา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลบางดี ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุต้องปิดโรงเรียนหนีอีก 1 วัน เพราะหวั่นความไม่ปลอดภัยกับครู และนักเรียน
ขณะที่นายระพี อินทรวิเศษ นายก อบต.บางดี อดีตกำนัน ต.บางดี กล่าวว่า หากตำรวจยังจับกุมนายติ๊กไม่ได้ ตนเองก็จะสั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่อไป เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กๆ และครู สำหรับนายติ๊กส่วนตัวก็ไม่รู้ค่อยรู้จัก รู้จักแต่พ่อแม่ครอบครัว จึงไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
ทางด้านพ.ต.อ.อิสราพงษ์ จินา ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า ถอนกำลังออกก่อน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนมืดมากไม่สามารถจะปฏิบัติงานได้ จะร่วมกันวางแผนใหม่ในเช้าของวันนี้ 17 กพ. โดยสาเหตุ คาดว่านายติ๊กเกิดความเครียด และมีปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ส่วนเรื่องยาเสพติดตนเองยังไม่ทราบ แต่ประวัติไม่เคยต้องคดีอาชญากรรม และล่าสุด ทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนให้เร่งจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: