ตรัง -ธุรกิจเลี้ยงกุ้งกระทบหนักจากราคาพลังงานปรับขึ้นราคา รวมทั้งปัจจัยการผลิตทั้งหมดราคาสูงขึ้น ในขณะที่ราคากุ้งตกต่ำ
นายธรรมรัศมิ์ คงหวาน กำนันตำบลบ่อหิน เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง บอกว่า พื้นที่บ่อกุ้งของตนยังไม่มีการปักเสาพาดสายไฟฟ้าฟ้า ทำให้ต้องซื้อก๊าซ LPG มาใช้สำหรับการตีน้ำเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้กุ้ง ทั้งนี้ ถ้าจะสามารถใช้ตีน้ำเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้จะต้องใช้ไฟฟ้าขนาด 3 เฟส ซึ่งหากกระแสไฟฟ้าผ่าน การใช้ไฟฟ้าปั่นตีน้ำจะประหยัดกว่าการใช้ก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าเป็นการจ่ายรายเดือน แต่การใช้ก๊าซจะต้องซื้อเงินสดจ่ายรายวัน ตนเองมีบ่อเลี้ยงกุ้งทั้งหมด 4 บ่อ แต่ละบ่อต้องมีถังก๊าซสำรองประมาณ 30 ถัง ทำให้ตนเองต้องมีถังก๊าซสำรองรวมประมาณ 200 ถัง แต่ละรอบของการเลี้ยงกุ้งซึ่งใช้เวลาประมาณ 60-70 วัน กว่าจะจับขายได้ ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าก๊าซหุงต้มรอบละประมาณ 1.5 แสนบาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมากสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้ง เพราะต้องใช้เยอะ จากเดิมในช่วงที่ค่าพลังงานเป็นปกติถังละ 700 กว่าบาท จากนั้นมาอยู่ที่ถังละ 931บาทอยู่ประมาณ 1 ปี จ่ายค่าก๊าซรอบละ 60,000 – 70,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็มีการปรับขึ้นกก.ละ 1 บาท หรือถังละ 48 บาทมาต่อเนื่องหลายรอบ จนวันนี้เฉพาะค่าพลังงานต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งนี้ ถังขนาด 48 กก. 1 ถัง ใช้ปั่นน้ำได้ประมาณ 23-25 ชม. ตอนนี้ถังก๊าซขนาด 48 กก. ราคา 1,260 กว่าบาท และเมื่อกระทรวงพลังงานประกาศราคาก๊าซหุงต้มขึ้นอีกกก.ละ 1 บาท ตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้ ก็เท่ากับว่าจะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนนี้ขึ้นมาเกือบเท่าตัวจากที่เป็นอยู่ขณะนี้
ทั้งนี้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฝนตกจะต้องเดินเครื่องตลอด ต้องใช้มากกว่าหน้าแล้ง ซึ่งตอนนี้พลังงานเป็นต้นทุนที่หนักสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งทุกราย ขณะที่ราคากุ้งก็ตกต่ำ ราคาไม่ดีเลย รัฐบาลไม่เคยคิดจะมาดูแลช่วยเหลือเกษตรกรเลย ราคาขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางที่จะกำหนดราคาเอาเองในแต่วัน เช่น กุ้งขนาด 50 ตัวต่อกก. จากราคาที่คุ้มทุน กก.ละ 200 บาทเหลือกก.ละ 100 กว่าบาทเท่านั้น ถ้าขนาด 70 ตัวต่อกก.อย่างน้อยต้องให้กก.ละ 180 บาท แต่ตอนนี้ไม่ถึงเหลือประมาณกก.ละ 150-160 บาท เฉลี่ยราคาหายไปกก.ละ 30-40 บาท และราคาก็จะลงเดินหน้าสำหรับราคากุ้ง เพราะตอนนี้กุ้งเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งกุ้งของตนเองตอนนี้กว่าจะจับได้อีกประมาณ 2 เดือน ต้องเผชิญกับค่าก๊าซที่เพิ่มขึ้น และราคากุ้งที่ไม่แน่นอนซ้ำ เช่นเดียวกับราคาอาหารกุ้งและปัจจัยอื่นๆ ก็แพงตามทั้งหมด โดยราคาอาหารกุ้งที่ใช้อยู่ตอนนี้กระสอบละ 1,100 บาท จากเดิมกระสอบละ 900 บาท ซึ่งราคาอาหารก็ปรับขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งหากราคากุ้งปรับขึ้นบ้าง ราคาอาหารก็จะปรับตามทันที แต่พอราคากุ้งลง ราคาอาหารไม่ได้ปรับลงเลย จากปัญหาทั้งหมดทำผู้เลี้ยงกุ้งทุกรายเดือดร้อนหนัก ส่วนตัวไม่คิดมาก หากทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็หยุด เมื่อก่อนตนเองทำอยู่ประมาณ 7-8 บ่อ แต่ขณะนี้เหลือเลี้ยงประมาณ 3-4 บ่อ ขณะที่หลายรายเลิกเลี้ยงไปแล้ว โดยเฉพาะรายเก่าๆ ที่มีใหม่ก็มีเข้ามาบ้างแต่รายเก่าๆหยุดไปเยอะหายประมาณ 50-60 % เพราะขาดทุน ซึ่งผู้เลี้ยงกุ้งหากขาดทุนติดต่อกัน 3-4 รอบ ก็ต้องหยุดเลี้ยงทุกราย ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: