ตรัง-โพสต์ขายลูกปูม้าว่อนโซเชียล เชื่อนำเข้าจากต่างจังหวัด จึงมีการโพสต์ขายเป็นล่ำเป็นสันแค่ตัวละ 5 บาท และในพื้นที่ก็พบมีการขายบ้างประปรายตามตลาดสดต่างๆ ด้านชาวประมงกลุ่มอนุรักษ์และร่วมกันจัดตั้งธนาคารปูม้าหวั่นปูม้าสูญพันธุ์ หากมีคนจับลูกปูขาย และมีคนซื้อ ขอให้ทุกจังหวัดที่ติดชายฝั่งทะเลกวดขันจับกุมคนทำประมงที่ใช้อวนขนาดเล็ก
เศร้าใจพบมีการโพสต์ขายลูกปูม้าสดว่อนโซเชียล ตัวละ 5 บาท ซึ่งเป็นไซซ์ขาด 30 กว่าตัวโล ซึ่งถือว่าเป็นลูกปูที่ขนาดตัวยังเล็กมาก เชื่อนำเข้าจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะจากแถวตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร จึงมีสินค้าให้สามารถโพสต์ขายเป็นล่ำเป็นสัน โดยบางคนแสดงความคิดเห็นว่าพบเห็นมีการวางขายตามตลาดสดในหลายจังหวัด เช่น จ.สงขลา ,จ.นครศรีธรรมราช และเชื่อว่าทุกจังหวัดที่อยู่ติดชายทะเล สำหรับในจ.ตรังมีการพบมีการจับลูกปูขายบ้างเช่นกัน เช่น ชาวบ้านที่ไม่ได้เป็นชาวประมงอาชีพ แต่ออกไปวางอวนจับปลา เพื่อนำไปทำอาหาร หรือขายบ้าง แต่เอาหมด หรือบางส่วนออกไปจับโดยใช้วิธีส่องด้วยตะเกียงจับในเวลากลางคืน ทำให้มีลูกปูม้าถูกนำไปวางขายบ้างประปราบตามตลาดสดต่างๆ เช่น ตลาดสดควนปริง ,ตลาดสดย่านตาขาว และตลาดสด ตลาดนัดในต่างอำเภอ แต่ที่มีการโพสต์ขายตามสื่อเฟสบุ๊คอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เชื่อว่านำเข้าจากตลาดมหาชัย เพราะสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และขายออนไลน์ครั้งละจำนวนมาก เนื่องจากคนที่เคยสั่งซื้อสอบถามแหล่งที่มากับผู้ขายระบุสั่งซื้อจากตลาดมหาชัย โดยชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัดที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลให้กวดขันจับกุมคนทำประมงที่ใช้เครื่องมือขนาดเล็กกว่าขนาดที่กฎหมายกำหนด และขอความร่วมมือให้ผู้บริโภคหยุดการสั่งซื้อ หยุดบริโภค เพื่อให้คนหาหยุดพฤติกรรม เพราะจะทำให้ปูม้าสูญพันธุ์ในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับชาวประมงพื้นบ้านที่มีอาชีพวางอวนจับปูในพื้นที่ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ซึ่งใช้อวนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปูม้าจะจับได้ชุกชุมในช่วงฤดูมรสุม แต่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งปูม้าลดจำนวนลง จึงทำปูม้าราคาดี มีเท่าไรไม่พอขาย
นายทวิน ฮันเย็ก ชาวประมง ( ผู้ชายจุดปลดปูจากอวน)ว่า ขณะนี้ปูราคาดี เพราะเป็นช่วงหน้าแล้งปูมีจำนวนน้อย ออกแต่ละครั้งได้ประมาณ 1,000 -2,000 บาท แต่น้ำมันก็แพง ซื้อที่บ้านลิตรละ 39 บาท หาดเดินทางไปซื้อที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งอยู่ไกลออกไปลิตรละ 37 บาท โดยตัวใหญ่ ราคาขาย กก.ละ 300 -350 บาท ตัวขนาดกลางกก.ละ 250 บาท ,ขนาดเล็กกก.ละ 170 บาท ตนเองใช้อวนขนาด 4 นิ้ว ออกไปวางแถวเกาะต่างๆ จะได้ปูตัวใหญ่ แต่หากใกล้ชายฝั่งจะได้ปูตัวเล็ก ส่วนลูกปูเกิดจากคนใช้อวนตาขนาดเล็กประมาณ 3 นิ้ว ซึ่งน่าเป็นห่วงหากมีคนจับลูกปูขาย กลัวปูจะสูญพันธุ์ ซึ่งชาวประมงชายฝั่งในพื้นที่ หมู่ 10 ต.หาดสำราญ ได้ร่วมกันอนุรักษ์ปูม้า หากได้แม่ปูม้ามีไข่นอกกระดอง ก็จะเอาไปให้ธนาคารปูม้านำไปอนุบาล เมื่อแม่ปูสลัดไข่ รอโตได้ระยะ ก็เอาไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป ส่วนตัวบางครั้งได้ประมาณ 3-4 ตัว ก็เอาไปส่งให้ธนาคารปูม้า ทั้งนี้ อยากให้มีการวางแนวเขตอนุรักษ์ห้ามทำประมงบริเวณชายฝั่งระยะกี่เมตรก็ว่าไป เพื่อห้ามไม่ให้จับปู จับปลา ตัวเล็กๆ เพื่อปูปลาได้เข้ามาวางไข่ แต่นี่คนจับจับหมดทั้งฤดูวางไข่ ไม่วางไข่ ก็จับหมดใกล้ชายฝั่ง นอกจากนั้นพบว่าในพื้นที่ยังมีการทำประมงผิดกฎหมาย เช่น โพงพาง และเรืออวนรุน
ส่วนที่ ธนาคารปูม้าบ้านนาชุมเห็ด หมู่ 2 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ ซึ่งมีนายชีวิน หลงกลาง เป็นประธานกลุ่มธนาคารปูม้าฯ ก็พบว่าสมาชิกธนาคารปูม้าที่ออกไปวางอวนจับปู ได้แม่ปูม้ามีไข่นอกกระดองนำมามอบให้ธนาคารปูม้า เพื่อนำมาอนุบาลเอาลูกม้าไปปล่อย
นายสุพัฒน์ อสสาภัย (คนที่นั่งบนจยย. กางเกงแดง ยกแม่ปูให้ดู) ชาวประมงพื้นบ้านชาวหาดสำราญ กล่าวว่า ได้นำมาแม่ปูไข่นอกกระดองที่ปลดจากอวนมาให้ 2-6 ตัว โดยขณะออกไปเก็บอวนได้นำถังน้ำใส่สายออกซิเจนไปจากบ้านด้วย โดยถ้าได้แม่ปูไข่นอกกระดองก็เอามาให้ธนาคารปูม้าทุกครั้ง เพื่อช่วยธนาคารปูได้นำไปปล่อย ซึ่งในฐานะเป็นชาวประมงออกวางอวนจับปูตลอด เห็นความเปลี่ยนแปลงว่า การมีธนาคารปูม้า ด้วยการเอาแม่ปูที่มีไข่นอกกระดองมามอบให้ธนาคารทำการอนุบาลจนแม่ปูสลัดไข่ แล้วนไปปล่อยคืนทำธรรมชาติ ทำให้ทรัพยากรปูม้าเพิ่มขึ้นได้จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้ามรสุมปูจะเข้ามามาก และช่วงหน้าแล้งก็ยังสามารถออกไปจับปูได้ ซึ่งจะใช้อวนขนาดใหญ่ เพื่อจับปูตัวใหญ่
นายชีวิน หลงกลาง ประธานกลุ่มธนาคารปูม้าบ้านนาชุมเห็ด และรับซื้อปูม้าจากสมาชิกด้วย บอกว่า ชาวประมงซึ่งเป็นสมาชิกธนาคารปูม้าบ้านนาชุมเห็ด รวมจำนวน 37 ราย ซึ่งตนรับซื้อปูม้าอยู่ด้วย มีข้อตกลงร่วมกันคือ เมื่อสมาชิกออกวางอวนปู หากได้แม่ปูม้าไข่นอกกระดองก็จะปลดจากในทะเล ใส่กะละมังที่มีออกซิเจนไว้ จากนั้นก็นำมาให้ที่ธนาคารปูม้า เพื่อมาอนุบาลต่อ แม่ปูม้าสลัดไข่ส่วนแม่ปูเจ้าของก็ไม่ได้เอาแม่ปูกลับ ให้ทางธนาคารขายเอาไว้ช่วยค่าน้ำค่าไฟกลุ่ม ส่วนลูกปูม้าก็นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แม่ปูแต่ละตัวได้ลูกปูม้าประมาณ 3 แสนตัว กลุ่มของตนมีแม่ปูม้าไข่นอกกระดองเข้ามาที่ธนาคารของตนเกือบทุกวัน เพราะว่าตนเองรับซื้อปูม้าจากชาวประมงสมาชิกด้วย ต่อเดือนได้ประมาณ 50-60 แม่ ส่วนราคาปูม้าขณะนี้ดีมาก ไซส์ใหญ่สุดอายุประมาณ 5-6 เดือน กก.ละ 300-350 บาท ไซส์ขนาดกลางกก.ละ 250 บาท ไซส์ขนาดเล็กกก.ละ 170 บาท แต่จะไม่มีการซื้อลูกปู เพราะทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ จึงวอนหากพื้นที่ใดหรือจังหวัดใดมีการจับลูกปูม้าขายขอให้หยุดพฤติกรรม มีจิตสำนึก เพราะหวั่นจะทำให้ปูม้าสูญพันธุ์ได้ ต่อให้ทุกจังหวัดที่ติดชายทะเล มีธนาคารปูม้าปล่อยคืนสู่ธรรมชาติมากเท่าใด ก็ยังจะสูญพันธุ์ได้ หากมีการจับลูกปูม้าตัวเล็กๆ ขาย และขอให้คนซื้อก็หยุดซื้อเช่นกัน
ส่วนนายจรัญ จงราบ เป็นชาวประมง ซึ่งนำปูมาขาย และนำแม่ปูไข่นอกกระดองที่ติดอวนมามอบให้ธนาคารปูม้าด้วย บอกว่า วันนี้ ตนเองขายปูม้าได้เป็นเงิน 2,800 กว่าบาท โดยจะนำปูเป็นมาขาย เพราะปลดจากในทะเลจากนั้นนำใส่ถังออกซิเจนเอาไว้ ขายปูเป็นได้ราคาดีกว่าปูที่ตายแล้ว เช่น หากเป็นไซส์ใหญ่ ถ้าเป็นปูที่ตายแล้วขายได้กก.ละ 280 บาท แต่หากปูเป็นขายได้กก.ละ 320 บาท ได้มากกว่ากก.ละ 40-50 บาท ปกติช่วงมรสุมจะได้มากกว่านี้ แต่หน้าแล้งก็ยังจับได้ทุกวัน โดยจะใช้อวนตาได้ขนาดมาตรฐาน ไม่ใช้ตาอวนเล็ก เพราะเอาแต่ปูตัวใหญ่ น้ำมันเรือยังแพงมากลิตรละ 40 -42 บาท แล้วแต่บางเจ้าที่นำมาขายในหมู่บ้าน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: