ตรัง รุมวิพากษ์ยับ! “งานวิวาห์ใต้สมุทรตรัง” ยิ่งจัดยิ่งกร่อย ไม่คุ้มงบประมาณกว่า 2.5 ล้านบาท ทุกปี จี้เลิก-คิดสิ่งใหม่ได้แล้ว อย่าดันทุรังจัดแค่พอผ่าน อย่าตั้งตนเป็นเจ้าของงาน ต้องระดมความคิด-การมีส่วนร่วม ชาวบ้าน งง ไม่รู้เรื่องปีนี้มีจัด จวกล้มเหลว-อายแทน ข่าวลุงแมวเดินเท้าหารักยังดังกว่า แตกย่อยงานอื่นมาพ่วงทั้งที่คนละเรื่องคนละแนวไม่เข้ากัน เผย ได้งบล่าช้า ฉุกละหุกประสานงบ
จากกรณีงานวิวาห์ใต้สมุทร 2023 สุดกร่อย ทั้งที่ใช้งบประมาณกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าทุกปี โดยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดงานวิวาห์ใต้สมุทรจังหวัดตรัง 2023 ซึ่งปีนี้มีคู่บ่าวสาวแต่งชุดวิวาห์ร่วมดำน้ำจดทะเบียนสมรสเพียง 5 คู่ และคู่ LGBT อีก 1 คู่ จัดขึ้นที่บริเวณหินก้อนเดียวเกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรัง ระดับความลึก 5 เมตร ก่อนกลับขึ้นมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเดียวที่คู่บ่าวสาวทำในปีนี้ และถือว่ามีคู่บ่าวสาวน้อยที่สุดตั้งแต่มีการจัดงานมา และยังมีแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงไม่กี่คน แม้กระทั่งสื่อมวลชนจำนวนมากยังไม่รู้ว่าจะมีการจัดงานดังกล่าวด้วยซ้ำ โดยก่อนหน้านี้ นายธีระวัฒน์ หวังศิริเลิศ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในปีนี้จะเลื่อนการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรที่ได้ดำเนินการมาอย่างยาวนานถึง 25 ปี ซึ่งปกติจะมีขึ้นในช่วงเทศกาลแห่งความรัก (วาเลนไทน์) ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ออกไปเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 เพราะติดขัดในเรื่องของขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการ และได้รับจัดสรรงบประมาณมาเพียง 1.5 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการจัดงาน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางจังหวัดตรังได้เรียกประชุมเตรียมจัดงาน โดยมีสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง หอการค้าจังหวัดตรัง และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ Yec Trang ซึ่งเป็นโต้โผออกแบบและจัดงานครั้งนี้ ก่อนผู้เกี่ยวข้อง อาทิ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายศิริพจน์ กลับขันธ์ ประธาน Yec Trang ได้ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีการงดหรือเลื่อนจัดงานแต่อย่างใด โดยได้เร่งผลักดันการประสานงบประมาณได้สำเร็จแล้ว รวมทั้งได้มีการคิดหารูปแบบการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร 2023 ให้แปลกใหม่ ตื่นเต้น ทันสมัย ยั่งยืนกว่ารูปแบบเดิม พร้อมยกระดับให้เป็นเทศกาลแห่งความรักตลอดทั้งเดือน แบ่งพื้นที่จัดงานหลายจุด โดยเป็นการจัดงาน “Love Trang 2023 by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2566 หลังถูกวิจารณ์เรื่องกระแสความนิยมที่เริ่มลดต่ำลงเรื่อย ๆ และยังต้องนำงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา งบประมาณของทางจังหวัดตรัง และหลายภาคส่วนซึ่งมาจากภาษีของประชาชนมาใช้จ่ายในการจัดงานปีละหลายล้านบาท แต่แล้วในที่สุดก็กลับมีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรแบบเงียบๆ ท่ามกลางความแปลกใจของคนตรังจำนวนมากว่ารูปแบบการจัดงานตอบโจทย์และตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงหรือไม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวจ.ตรังหรือไม่ ผลประโยชน์ที่แท้จริงตกอยู่ที่ใคร คนตรังได้อะไร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่คนตรังจำนวนมาก ถึงความคุ้มค่าคุ้มงบประมาณและขั้นตอนดำเนินการที่ค่อนข้างฉุกละหุก
จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นประชาชนชาวตรัง เกี่ยวกับการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรในครั้งนี้ ทั้งนักศึกษา นักธุรกิจ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว สื่อมวลชนที่เคยสัมผัสกับงานวิวาห์ใต้สมุทรมายาวนาน และประชาชนชาวตรัง โดยต่างได้ตั้งข้อสังเกตการจัดงาน “Love Trang 2023 by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร” ไม่น่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์และแก่นแท้ที่เป็นจุดขายของ เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร และค้านสายตาคนตรัง
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- สงขลา จัดใหญ่สุดในภาคใต้ Hatyai Coundown 2025 Happiness illumination ห้ามพลาด
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตตรัง กลุ่มนักศึกษา รุ่น Gen Y และ Gen Z โดยนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 3 บอกว่า ตนเองเคยได้ยินงานวิวาห์ใต้สมุทร และในปีนี้ที่การจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรลงดำน้ำเพียงแค่ 5 คู่น้อยมากกว่าปีก่อนๆ หรือก็ไม่ทราบข่าวมาก่อนว่ามีการจัดงาน สำหรับงานวิวาห์ใต้สมุทรนั้นถือเป็นงานที่ดี เป็นการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวให้จ.ตรังด้วย แต่ปีนี้ไม่ทราบเลยว่ามีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร ในส่วนของงาน Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรก็ยังพอได้ยินอยู่บ้าง แต่ไม่ทราบถึงกิจกรรมภายใน ก็อยากให้คนกลับมานิยมเหมือนเดิม ในส่วนของรูปแบบวิวาห์ใต้สมุทรตนก็ยังมองว่าเป็นกิจกรรมใต้น้ำเพราะเป็นรูปแบบที่แปลกดี พอพูดถึงวิวาห์ใต้สมุทร ก็ยังนึกถึงการจดทะเบียนใต้น้ำ
ขณะที่นักศึกษาชายชั้นปีที่ 1 บอกว่า หากถามถึงงานวิวาห์ใต้สมุทรก็จะนึกถึงเมืองบาดาล งานแต่งงานที่ต้องมีดำน้ำด้วย และที่มีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรในปีนี้ก็ไม่ได้ทราบข่าวแต่อย่างใด แต่เคยได้ยินวิวาห์ใต้สมุทรว่าเป็นที่นี่ที่เดียวที่จังหวัดตรัง ส่วนกิจกรรม Love Trang By เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรตนก็ยังไม่ทราบ ไม่เคยได้ยินข่าวคราวเลย แต่ก็อยากให้มีงานวิวาห์ใต้สมุทร เพราะเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่ง และอยากให้ชาวตรังได้อะไรบ้างและรู้สึกว่าการท่องเที่ยวตรังค่อนข้างซบเซา ไม่เหมือนกับจ.กระบี่และจังหวัดใกล้เคียง อยากฝากบอกทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เน้นเรื่องของการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ เงียบมากไม่มีใครรู้เรื่องเลย และการมาจัดในเดือนมีนาคมก็ไม่ตรงคอนเซปต์ ทั้งที่ควรจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์มากกว่า ให้ตรงวันที่ 14 กุมภาพันธ์วันวาเลนไทน์วันแห่งความรัก ในอดีตที่ผ่านมา คนตรังได้ชื่อเสียง คนในประเทศได้รู้จัก ส่วนงบประมาณจัดงานตนก็เพิ่งทราบว่าเยอะ แต่การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไม่ทั่วถึง
น.ส.กัญญามาศ คงกล้า นักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตตรัง(มอ.ตรัง) บอกว่า เมื่อพูดถึงวิวาห์ใต้สมุทร จะนึกถึงการจดทะเบียนใต้น้ำเป็นไฮไลท์ของงาน เพราะเมื่อตอนเด็ก ๆ โรงเรียนก็จะพาไปโปรยดอกไม้ข้างถนน มีขบวนพาเหรดในเมืองตรังตั้งแต่หอนาฬิกา เป็นการประชาสัมพันธ์งาน ซึ่งปีนี้ตนเองไม่ทราบเลยว่ามีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร เพราะในทุก ๆ ปีจะจัดในช่วงวันวาเลนไทน์ช่วงเทศกาลแห่งความรัก และไม่ทราบเลยว่าคู่ดำน้ำลดลงมากกว่าปีก่อนๆ โดยปกติในทุก ๆ ปีจะมีข่าวออกโด่งดังมาก หรืออาจจะเป็นเพราะเราจัดมาหลายปีแล้ว หรือเพราะไม่ค่อยมีกิมมิคพิเศษอะไร หรืออาจจะมีการจัดรูปแบบซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่ไม่มีความพิเศษเพิ่มขึ้น ทำให้การรับรู้ลดลงไป
น.ส.กัญญามาศ บอกว่า ในส่วนของงาน Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรนั้น ก็พอเห็นอยู่บ้างแต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นงานเดียวกันกับวิวาห์ใต้สมุทรได้ แต่ก็ไม่ทราบกิจกรรมภายในงาน ถ้าเป็นการเอาภาพคู่รัก ที่เคยจดทะเบียนใต้ท้องทะเลนำมาโชว์เป็นนิทรรศการภาพ มาอัพเดทชีวิตของคู่รักที่เคยร่วมแต่งงานไปในงานวิวาห์ใต้สมุทร ว่ารักกันดีไหม อยู่กันยังไง หากมีการจัดนิทรรศการแบบนี้จะได้รู้สึกเลยว่าถ่ายทอดพลังแห่งความรัก ออกมาในรูปแบบที่สื่อถึงความรักมันจะดีมาก เมื่อการประชาสัมพันธ์อ่อนไปมากและเงียบจึงคิดว่าควรที่จะสร้างการรับรู้ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนนี้ที่จัดเป็นแค่สเกลระดับจังหวัด ควรที่จะจัดเป็นแบบ International ได้แล้ว ดึงบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือระดับนานาชาติมา เพื่อขยายสเกลของงาน ให้เพิ่มขึ้น กว้างขึ้นและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ส่วนงบประมาณการจัดงาน ไม่รู้ว่าเขาได้งบมาเดือนไหนแต่การจัดงานมันก็ควรที่จะจัดในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ต่อเข้าสอบถามแม่ค้าที่ขายส้มตำไก่ปิ้งประจำอยู่ที่สถานีรถไฟตรังถึงบรรยากาศงานวิวาห์ใต้สมุทร บอกว่า รู้จักงานวิวาห์ใต้สมุทรแต่ปีนี้ไม่เห็นทราบเลยว่ามีการจัดงาน ส่วนงาน Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร ก็ไม่ทราบข่าวนี้เช่นกัน ปีนี้รู้สึกเงียบมาก เพราะในทุก ๆ ปีจะมีคนมาร่วมกิจกรรมที่ร้านเสริมสวยใกล้ ๆ จะมีลูกค้ามาทำผมแต่งหน้าเพื่อร่วมกิจกรรมเยอะ เราก็จะรู้ แต่ปีนี้เรายังไม่ทราบเลย ว่าเขามีกิจกรรมอะไรบ้าง ทำไมปีนี้รู้สึกเงียบมาก
ขณะที่คุณตาวิน พินทุรัตน์ อาชีพขับรถตุ๊กตุ๊กหัวกบรับจ้างในเขตเทศบาลนครตรังมานานกว่า 40 ปี บอกว่า รู้จักงานวิวาห์ใต้สมุทรและในทุก ๆ ปีเมื่อมีการจัดงานก็จะมีรายได้จากตรงนี้ด้วย เพราะจะมีคู่บ่าวสาวมาใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กหัวกบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ จ.ตรัง แต่ปีนี้ไม่ทราบเลยว่าจัดงาน และก็ไม่ทราบว่ามีกิจกรรม Love Trang by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร ด้วย ก็อยากฝากบอกถึงหน่วยงานว่าถ้าทำได้ก็อยากให้จัดทุกปี คนขับตุ๊ก ๆ หัวกบ ก็จะพอได้มีรายได้บ้าง จะทำให้ชาวตรังขายของได้ พอที่จะคึกคักหน่อย แต่ปีนี้เงียบเหงามาก จากที่ปกติแล้วจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่มาจัดในเดือนมีนาคมตนก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน และไม่มีวี่แววข่าวคราวอะไรเลย ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด 19 ยังพอมีรายได้บ้าง พอหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายก็ไม่ค่อยมีฝรั่งหรือชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเลย ซึ่งโดยปกติแล้วงานวิวาห์ใต้สมุทรจะเป็นที่โด่งดังทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมาก
ส่วนทางด้านนายจิรศักดิ์ ควนจันทร์ อายุ 50 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 43/82 ถนนรัษฎา ซอย 9 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง บอกว่า ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้สถานการณ์โควิด 19 งานวิวาห์ใต้สมุทร หยุดจัดไปเป็นระยะเวลา 2 ปี แต่พอมาปีนี้มีการจัดงาน ชาวตรังคิดว่าน่าจะมีการจัดที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม เพราะเราหยุดไป 2 ปีแต่กลับต้องพบกับความผิดหวังว่า 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีคู่บ่าวสาวแค่เพียง 5 คู่เท่านั้น เรามีภาพจำว่าวิวาห์ใต้สมุทร เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ถ้าใครจะแต่งงานโดยการดำน้ำ จดทะเบียนใต้ท้องทะเล ต้องมาที่ตรัง เพราะมันชื่องานวิวาห์ใต้สมุทร แต่ครั้งนี้ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะนอกจากจะมีคู่บ่าวสาวมาร่วมจำนวนน้อยคู่แล้ว ยังพบว่าการประชาสัมพันธ์พี่น้องชาวตรังไม่ทราบข่าวนี้เลย ซึ่งในอดีต สื่อกระแสหลัก สถานีโทรทัศน์เราจำได้สมัยคุณชาติเชื้อ กรรณสูต ช่อง 7 สี คุณสุรินทร์ โตทับเที่ยง เป็นประธานหอการค้าจังหวัดตรังในขณะนั้น และหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ก็ได้มีการจับมือร่วมมือกันจัดงานยิ่งใหญ่ พี่น้องชาวตรังให้ความร่วมมือกับงานวิวาห์ใต้สมุทรเป็นจำนวนมาก มีทั้งนักข่าวส่วนกลางและนักข่าวท้องถิ่นให้ความร่วมมือเป็นจำนวนมาก คนตรังมีส่วนร่วมกันเยอะ แต่พอมาปีนี้นอกจากจะไม่ได้มีส่วนร่วมแล้ว แม้กระทั่งข่าวคราวการจัดงานเราก็ไม่รู้เลย
“ในเรื่องของงบประมาณผมไม่ได้รู้สึกเสียดาย ถ้าใช้ไปแล้วและเป็นประโยชน์ของจังหวัด เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวตรัง แต่ถ้าจัดล้มเหลว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีงบประมาณ ก็ถือว่าจังหวัดตรังล้มเหลว ผมมีความรู้สึกหดหู่ใจ เพราะเข้าใจว่าในกรณีข่าวพี่แมวเดินเท้าจากจ.นครนายกมาหาน้องยุที่จ.สตูล ผู้คนทั้งประเทศยังให้ความสนใจมากกว่างานวิวาห์ใต้สมุทรจ.ตรัง ซึ่งปีนี้ก็เป็นเรื่องที่เราในฐานะคนตรัง มีความรู้สึกว่าอายพอสมควร ควรศึกษาจากปีที่ผ่านมาด้วย ว่าที่เขาจัดได้ยิ่งใหญ่นั้น อะไรที่ยิ่งใหญ่ อะไรที่เป็นข้อบกพร่อง และยังขาดอะไร และควรจะเติมอะไร ซึ่งในทุกครั้งการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรจะเป็นการแถลงข่าวที่ใหญ่โต ไม่ว่าจะมีทั้งสื่อส่วนกลาง สื่อส่วนจังหวัด และสื่อท้องถิ่น มาร่วมกันหมด ประชาชนก็ได้มีส่วนร่วมมีการแห่รถ เดินบ้างหรือนั่งรถตุ๊กๆหัวกบบ้าง ให้ประชาชนได้เห็นว่ามีคู่บ่าวสาว 50 คู่หรือ 100 คู่ขึ้นไป แต่ปีนี้ไปแอบจัดแค่ 5 คู่มันไม่ใช่ และมาจัดงานอื่นเพื่อมาแก้ตัวว่าเป็นงานวิวาห์ใต้สมุทรมันก็ไม่ใช่ ซึ่งที่ได้จัดแถลงข่าวนั้นเพราะเป็นการแก้ตัวงานเดิม ไม่ใช่ว่าคิดจะทำ มันก็เลยทำให้ยุ่งกันไปใหญ่ ” นายจิรศักดิ์ระบุ
นายจิรศักดิ์ บอกอีกว่า งานวิวาห์ใต้สมุทรเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของจ.ตรัง มาถึง 26 ครั้ง หรือ 26 ปีติดต่อกัน นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้ข่าวว่า วิวาห์ใต้สมุทรต้องจัดที่ตรัง งานนี้ควรจะไปต่อ แต่เราจะต้องมาคิดกันว่า การไปต่อ การมีส่วนร่วม ของทุกภาคส่วนอย่างไร คืออย่าแสดงความเป็นเจ้าของงาน ให้คนอื่นได้มีความคิดมีส่วนร่วมบ้าง เชื่อว่างานนี้ไปได้ เพราะท้องทะเลตรังเป็นท้องทะเลแห่งความรักเป็น Love Sea -Love Sand เป็น Island of love ที่จะต้องมาที่ตรัง วิวาห์ใต้สมุทรต้องจัดและต้องยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม แต่การมาแตกแขนงออกเป็นหลาย ๆ งาน แล้วบอกว่า By วิวาห์ใต้สมุทร มันไม่ใช่ มันคนละงานกัน ตนเห็นโปรแกรมเห็นกำหนดการของการแถลงข่าวเมื่อวันก่อนแล้ว ว่าได้มีการจัดงานแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ประกอบไปด้วยสถานที่ในจำนวนหลาย ๆ ที่ ด้วยกัน ตนคิดว่าบางงานไม่ใช่เรื่องของวิวาห์ใต้สมุทร บางงานเป็นเรื่องของอีกอย่างหนึ่ง เช่น เรื่องของอาหารตรังดังทั่วโลก เป็นเรื่องของเมืองเก่าทับเที่ยง ซึ่งเขาก็มีการจัดอยู่แล้ว น่าจะมีการทำให้มันยิ่งใหญ่มากขึ้นโดยการรักษาเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของความเป็นจังหวัดตรัง อาหารที่เกี่ยวกับงานวิวาห์มีอย่างเดียวเท่านั้น คือเหนียวแกงไก่ ไม่ใช่เกาหยุก ไม่ใช่หมูย่าง เมื่อจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรก็ต้องทำงานเกี่ยวกับวิวาห์ใต้สมุทรให้ดีที่สุด และให้ยิ่งใหญ่มากที่สุด
ด้านนายลือพงษ์ อ่องเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัทประชารัฐรักสามัคคีตรัง อดีตนายกสมาคมการท่องเที่ยวตรัง บอกว่า ณ การจัดวิวาห์ใต้สมุทรในครั้งนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่จะไปสู่การคิดใหม่ทำใหม่ ให้มันเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม โดยที่มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งกำกับในเรื่องของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้นโยบายว่าในปีหน้า จะทำให้ยิ่งใหญ่กว่าปีนี้ แต่สำหรับปีนี้เป็นการจัดที่วางรากฐานไว้เพื่อครั้งต่อไป ซึ่งครั้งต่อไปเราจะมีการจัดไม่ได้เฉพาะเพียงวันที่ 14 กุมภาพันธ์วันเดียว เราจะใช้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน โดยที่เราจะให้มีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ภายในตัวเมืองตรังด้วย ภายในอำเภอกันตังด้วยโดยจะขายเมืองเก่ากันตัง ขายในเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรมด้วย ซึ่งเราจะไม่อิงเฉพาะวันที่ 14 กุมภาพันธ์แล้วหายไปเลย ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ทางหอการค้าก็ดี ทางประธาน YEC ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และทางสมาคมท่องเที่ยว มีการวางแผนไว้แล้วว่าปีหน้าจะต้องจัดให้ได้งบประมาณมากกว่าปีนี้ และจะครอบคลุมทั้งเดือน จะทำให้มีรายได้จากการวิวาห์ใต้สมุทรซึ่งเป็นจังหวัดแรก และเป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทยที่มีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร จากการที่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาช่วยขับเคลื่อนถือเป็นโอกาสดี ของผู้ประกอบการชาวต่างที่จะขยายขอบเขต โดยที่มีการเชื่อมโยงของดีเมืองตรังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เรื่องที่พัก เรื่องถนนที่มีแนวชิโนโปรตุกีสความหลากหลายทางชีวภาพ นำเสนอในเดือนกุมภาพันธ์เป็นโอกาสที่เราจะได้นำสิ่งดี ๆ ของจังหวัดตรัง ส่วนที่มองว่ายิ่งจัดยิ่งถดถอยนั้น งานทุกงานต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เหมือนสมัยครั้งแรก ๆ ที่เราโด่งดังเกิดจากหลายภาคส่วนทั้ง รัฐวิสาหกิจ การบินไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยว หลายฝ่ายเข้ามาช่วย ซึ่งการจัดครั้งต่อไป ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังจะบูรณาการให้เป็นงานใหญ่ให้ได้
นายลือพงษ์ บอกอีกว่า ในส่วนของปีนี้ที่เงียบและการจัดงานเป็นไปแบบสะเปะสปะนั้น ตนมองว่าเกี่ยวกับเรื่องของการบริหารจัดการระหว่างเอกชนกับภาครัฐในเรื่องของงบประมาณ โดยได้งบประมาณมานิดหน่อยไม่เพียงพอ และงบประมาณได้มาล่าช้า ไม่ได้ตามเป้าที่เราจะต้องได้ก่อน 14 ตุลาคม 2565 แต่มาได้หลัง 14 ตุลาคมในช่วงปลายเดือน รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา โดยใช้งบของกระทรวงและของททท.เข้ามา สนับสนุนไว้ก่อน ทำให้งานล่าช้า
นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด และผู้บริหารร้านทอง ตุ้นเฮงหลี 4 สาขา ในเขตเทศบาลนครตรัง บอกว่า ไม่อยากตบตีกับใคร แต่คิดว่าควรที่จะเปลี่ยนรูปแบบ อาจจะเป็นดิ่งพสุธา หรือไม่ก็ไต่เขา หรือจะทำอย่างอื่นอะไรก็ได้ที่ควรจะเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว เพราะมันเลยจุดพีคของมันมาแล้ว แล้วถ้ามีงบประมาณ เราควรระดมความคิด ทำอะไรที่มันมีความตื่นเต้นและน่าเร้าใจมากกว่านี้ และอีกอย่างคนที่ได้ประโยชน์จากตรงนี้มีไม่กี่คน ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม สมมุติว่าเรามีคู่วิวาห์อยู่ 10 คู่ ก็ได้แค่นั้น แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่ไปกับงานนี้ด้วย แต่ต้องมานั่งระดมคน เพื่อทำงานไม่ถึง 15 นาทีก็จบผ่านไปเลย ฝ่ายบริหารของหอการค้าจังหวัด ควรหาอะไรที่ใหม่ๆ ดูแล้วทันสมัยกว่านี้ ซึ่งมันมีเยอะ เพราะมันเลยจุดสูงสุดไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นรายการทีวีต่าง ๆ พอถึงจุดหนึ่ง EP 5, 6 หรือ 7 เขาก็เลิกกันแล้ว เขาก็หาอะไรใหม่ๆ ที่มันน่าสนใจกว่า และเป็นประโยชน์มากกว่า แล้วปีนี้เป็นปีที่ 26 แล้วคุณก็จะทำต่อเป็นปีที่ 27 แล้วเมื่อไหร่มันจะจบ มันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว และมองดูมันก็ไม่ได้เป็นวัฒนธรรมอะไรเกี่ยวกับชนชาวตรังเลย และไม่ได้มีรากเหง้าอะไรมาก่อน ก็ลองเปลี่ยนดู
ด้านนายวานิช สุนทรนนท์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คนตรัง บอกว่า ถ้าให้สรุปทันทีงานนี้ควรที่จะเลิก เพราะหากพูดถึงที่มาของงานนี้มันเป็นเรื่องเฟค ถ้ามีคู่ที่มาแต่งงานจริง ๆ มันผ่านมาจนถึงปีที่ 26 ควรที่จะลองเชิญคู่แรกๆที่มาแต่งงาน หรือเชิญลูกเขาถ้าหากมาถึงในวัยนี้อาจจะจบมหาวิทยาลัยแล้ว ลองดูไหมว่ามีจริงหรือเปล่า ตนมองว่ามันเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมา สร้างขึ้นมาแล้วหาจุดยืน หรือ อัตลักษณ์ของงานไม่ได้ เราจะสังเกตว่าปีก่อนๆ ยังมีแห่ช้างบ้างมาบ้าง มีการแบกเสลี่ยงด้วย และเดินบ้าง แต่มาล่าสุดนี้ มีการแสดงนั่นนี่ ตนมองว่าสะเปะสะปะหาที่ลงไม่ได้ โดยเราต้องยอมรับความจริงว่าในปีแรกๆงานวิวาห์ใต้สมุทรสร้างชื่อให้ตรังเป็นอย่างมาก โดยคนที่อื่นคนกรุงเทพฯหรือคนต่างประเทศจะรู้จักตรัง จากงานวิวาห์ใต้สมุทรค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปโลกมันเปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลง เราไม่ควรที่จะย่ำอยู่กับที่ มันควรที่จะคิดสร้างสรรค์งาน หรือกิจกรรมใหม่ๆขึ้นมา ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราจะติดหรือหลงอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ เก่า ๆ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว เราต้องสังเกตดูว่าในพื้นที่ใกล้เคียงหรือข้างบ้านเรามีการจัดกิจกรรม อื่น ๆ ใหม่ ๆ ดี ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา
นายวานิช บอกอีกว่า ส่วนการจัดงาน Love ตรัง by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรขึ้นมานั้น ตนเองก็พอจะทราบอยู่บ้างในสื่อออนไลน์ แต่ตนมองว่าเหมือนเป็นการดิ้นครั้งสุดท้าย ที่จะหากิจกรรมมาสนับสนุนกิจกรรมเดิม ๆ โดยที่เรามาดูเวลาว่างานวิวาห์ใต้สมุทรหรือวันแห่งความรัก วันที่จะจัดเดือนกุมภาพันธ์ แต่นี่เข้าเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนมาก มองว่าไม่มีบรรยากาศที่จะมาเรื่องรัก ๆ กัน ตนเองมองว่ากิจกรรมที่มาจัดในทุกวันนี้ มันไม่ได้สอดคล้องหรือตอบโจทย์งานวิวาห์ใต้สมุทร ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้คนที่จะมาตั้งชื่อใหม่ และตรังเราก็มีคนเก่ง ๆ ดี ๆ ตั้งเยอะ การที่จะมาหาหรือมาระดมความคิด เพื่อที่จะสร้างกิจกรรมใหม่ๆขึ้นมา โดยที่เราไม่ต้องไปอิงงานวิวาห์ใต้สมุทรอีกแล้ว สำหรับในเรื่องของงบประมาณหากถามว่าคุ้มค่าไหมนั้นตนเองมองว่ามาหลัง ๆ ก็ไม่น่าจะคุ้ม เราต้องมาดูกันว่ากิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรหลัง ๆ มีใครพูดถึงบ้าง ระหว่างงานวิวาห์ใต้สมุทรที่ยิ่งจัดยิ่งกร่อย เมื่อมาเปรียบเทียบกับงานอื่น ๆ ยกตัวอย่าง เช่น ตรังมาราธอน หรือ เขาพับผ้าฮาล์ฟมาราธอน งานไหนที่จะดึงคนหรือนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดตรังได้มากกว่า และงานไหนที่ใช้งบประมาณได้น้อยกว่า ตนเคยเสนอเพื่อนที่อยู่ในองค์กรภาคเอกชนบางกลุ่มว่าลองทบทวน ลองพิจารณาว่าถึงเวลาที่จะยุติเรื่องราวเหล่านี้ได้หรือยัง ซึ่งเขาก็กลับมาบอกทีหลังว่ามันหยุดไม่ได้ เพราะองค์กรที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เขาบอกมาว่าไม่หยุด ทีนี้มันทำให้เราคิดไปว่ามันมีอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า และขอเสนอว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ เมื่อจัดไปแล้วจะต้องมีการติดตามหรือการประเมินผล ว่าผลที่ได้คุ้มค่าไหม ถ้าเป็นลบ ก็ต้องยุติ
“ผมคิดว่าควรยุติงานวิวาห์ใต้สมุทรนี้ ไว้เป็นปีสุดท้าย แล้วเราต้องระดมความคิดจากหลาย ๆ หน่วยงาน หลาย ๆ องค์กรไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง ทั้งภาคราชการและภาคเอกชนด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่เขาอาจจะมีความคิดดี ๆ ลองระดมความคิดดูว่าจังหวัดตรัง เราจะไปด้านไหนไปทางไหน สำหรับการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว บางทีเราอาจจะได้อะไรดี ๆ กว่าที่เราคิดเอง ”นายวานิชกล่าว
นายธีมดี ภาคย์ธนะชิต อายุ 58 ปี ผู้สื่อข่าวอาวุโส จังหวัดตรัง บอกว่า ในฐานะตนเองเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2534 จนถึงปัจจุบัน และช่วงหลังก็ได้มาทำข่าวทีวีด้วย ในส่วนประเด็นของวิวาห์ใต้สมุทรเริ่มเดิมที ทางหอการค้าจ.ตรัง เป็นผู้ดำเนินการโดยหาอาสาสมัครขึ้นมาเก็บขยะใต้ท้องทะเลจนมาจัดเป็นวิวาห์ใต้สมุทรขึ้นมา และเริ่มใช้วันแห่งความรักเป็นจุดเริ่มต้น ในการทำกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเล เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักษาความสะอาดของท้องทะเล หลังจากนั้นทางหอการค้าก็ได้มีการโปรโมท ให้เกิดเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวมาตลอด โดยครั้งแรกต้องยอมรับว่าลงทุนโดยเอกชนเริ่มต้นโดยนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ซึ่งเป็นประธานหอการค้าในยุคนั้น โดยการหาสื่อจากส่วนกลางไม่ว่าจะเป็นทั้ง สื่อทีวี ช่องต่าง ๆ มาทำการโปรโมทการท่องเที่ยวในช่วงนั้น ๆ และเห็นว่าการดำเนินการได้เจริญรุ่งเรืองมาตลอด จนมาในระยะหลังเมื่อนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ได้หยุดที่จะแสดงบทบาททางด้านหอการค้าแล้ว ก็เข้าช่วงประธานหอการค้ารุ่นอื่น ๆ ก็เลยทำให้บทบาทและกิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทร ลดความสำคัญลง รูปแบบลดลงอันเนื่องมาจาก ทางหอการค้าเป็นองค์กรเอกชน ซึ่งเงินบริจาคในแต่ละปีที่เข้าสู่หอการค้าก็มีน้อย โดยในแต่ละครั้งต้องสนับสนุนเงินจากหน่วยงานของภาครัฐ ที่จะเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริม และพัฒนาการท่องเที่ยวของตรัง
นายธีมดี บอกต่อว่า ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในปีนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากการเตรียมการไม่ทันและงบประมาณมีน้อย และมีคู่บ่าวสาวมาจดทะเบียนสมรสในกิจกรรมนี้แค่ 5 คู่ เพื่อให้พ้นไปอีกปีหนึ่ง แต่กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า ในส่วนของการจัดงานในครั้งนี้ยังไม่เต็มที่เหมือนในอดีต ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมาพูดในเรื่องนี้ซึ่งมีมุมมองว่า จะหาคู่บ่าวสาวในทุกสาขาของททท. ที่อยู่ในทุกมุมโลก เพื่อจัดคู่บ่าวสาวเข้ามา ถ้าเป็นอย่างนี้ได้งานวิวาห์ใต้สมุทรก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นอีก แต่ในเรื่องการส่งเสริมนักท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาเที่ยวในจังหวัดตรังนั้นไม่ได้มีเพียงแต่กิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรแต่เพียงอย่างเดียว เราอาจจะจัดการแข่งขันกีฬาซึ่งในปลายปีนี้ สนามบินตรังก็จะเปิดเป็นสนามบินนานาชาติเต็มรูปแบบ สามารถรับเครื่องที่เป็นชาเตอร์ไฟล์ท แบบเช่าเหมาลำ เครื่องบินตามปกติเข้ามาได้แล้ว ซึ่งในมุมมองแต่ตอนนี้จะมองเพียงแค่วิวาห์ใต้สมุทรอย่างเดียวนั้นไม่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมการแข่งขันกีฬาทุกประเภท ให้มาแข่งขันที่จังหวัดตรัง
สำหรับการจัดกิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรนั้นควรไปต่อหรือพอแค่นี้ ซึ่งในฐานะที่เราเป็นสื่อมวลชน ควรนำเสนอให้เป็นภาพลักษณ์ที่เป็นภาพบวกต่อสังคม และรณรงค์ให้คนเข้ามาเที่ยวให้มาก และในงานวิวาห์ใต้สมุทรควรที่จะเป็นแนวความคิดของคนหลายๆกลุ่มเข้ามาร่วมนำเสนอ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและหอการค้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ต้องจัดงบประมาณมาพัฒนาการท่องเที่ยวและจัดส่งเสริมการท่องเที่ยวตรงนี้อีก
นายธีมดี บอกว่า ในส่วนของชุมชนหรือประชาชนชาวต่างได้อะไรเกี่ยวกับงานวิวาห์ใต้สมุทรนั้น ชุมชนได้เพียงแต่รับรู้ข่าวสาร ถึงกิจกรรมวิวาห์ใต้สมุทรร่วมเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ามองเป็นภาพรวมของด้านผู้ประกอบการการท่องเที่ยว จะได้รับผลดีผลพลอยได้มาบ้าง แต่หากถามถึงภาพรวมก็อยากให้เน้นการท่องเที่ยวในภาพกว้างหลายๆกิจกรรม ทางนี้อยากขอนำเสนอว่าหากทางหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มาพูดคุยกันแล้ว โดยต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังนั่งหัวโต๊ะ และต้องมีการประชุมกันว่าจะดำเนินกิจกรรมจัดต่อหรือไม่อย่างไร ถ้าไม่จัดต่อก็คือจบ แต่ถ้าจะต่อก็ควรที่จะปรับปรุงรูปแบบยังไงให้รับฟังความคิดเห็น ของคนที่เกี่ยวข้องหลายๆฝ่าย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการท่องเที่ยวมากที่สุด และรองรับกับการเปิดสนามบินนานาชาติในปีนี้ ส่วนกิจกรรม Love ตรัง by เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร ที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคม มันก็ควรที่จะต้องจัดในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตรงนี้เป็นประเพณีวัฒนธรรมของชาวตะวันตก แต่เรานำมาปรับปรุงเพื่อให้เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นควรที่จะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงจะเหมาะสมเป็นสัญลักษณ์วันแห่งความรักมากกว่า.
แฟ้มภาพ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: