X

คึกคัก พลังศรัทธาชาวบ้านนับพันร่วมสืบสานชักพระเดือน 5 วัดควนขันแห่งเดียวในตรัง

ตรัง พลังศรัทธาชาวบ้าน ร่วมสืบสานประเพณีเก่าแก่ชาวพุทธ ชักพระหรือแย่งพระเดือน 5 วัดควนขันอายุกว่า 200 ปี ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในตรังบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

วันที่ 6 เมษายน 2566 ที่วัดควนขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนการงาน และประชาชนในชุมชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรแก่พระสงฆ์ เนื่องในงานประเพณีชักพระวัดควนขัน ประจำปี 2566 โดยมีพระราชวรากร เจ้าคณะจังหวัดตรัง รองเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง เป็นประธานสงฆ์ พร้อมแสดงพระธรรมเทศนาแก่ผู้ร่วมกิจกรรม โดยหลังเสร็จสิ้นจากพิธีทำบุญตักบาตร ได้ร่วมชักพระเดือน 5 ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชุมชนวัดควนขันที่คงหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตรัง เพื่อให้ลูกหลานได้เห็นถึงคุณค่าและร่วมกันสืบสานประเพณีอันเก่าของชุมชนและจังหวัดตรังให้คงอยู่สืบไป
ประเพณีชักพระวัดควนขัน หรืองานลากพระเดือน 5 ของชุมชนควนขัน เป็นประเพณีเก่าแก่ที่ชาวบ้านในชุมชนควนขันปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ในช่วงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมประจำท้องถิ่น รวมทั้งปลูกฝังค่านิยมความเป็นไทย และสำนึกรักบ้านเกิด โดยกิจกรรม ชาวบ้านชุมชนควนขัน และชุมชนใกล้เคียง จะร่วมกันชักเรือพระที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ออกจากวัดควนขัน ไปยังบริเวณสามแยกทางเข้าชุมชนควนขัน บนถนนสายตรัง-พัทลุง เพื่อให้ประชาชน และเยาวชนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาได้เข้าร่วมกันสักการะบูชาเรือพระ หลังจากนั้น ชาวบ้านก็พร้อมใจกันลากเรือพระกลับมายังวัดควนขันอีกครั้ง ถือเป็นประเพณีชักพระหรือแย่งพระ เดือน 5 ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตรัง
โดยชาวบ้านชุมชนควนขัน และชุมชนใกล้เคียง กว่า 1,000 คน ได้ร่วมกันชักเรือพระที่ตกแต่งอย่างสวยงาม จากวัดควนขัน ไปยังบริเวณสามแยกทางเข้าชุมชนควนขัน และได้มีการโยนขนมต้มจากเรือพระ ให้กับประชาชนที่มาร่วมชักพระได้นำไปทานเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย โดยได้จอดเรือพระไว้บนถนนควนขัน บริเวณสามแยกโรงแรมเรือ เพื่อให้ประชาชน และเยาวชนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาได้เข้าร่วมกันสักการะบูชาเรือพระ หลังจากนั้นในช่วงเย็น ชาวบ้านก็พร้อมใจกันลากเรือพระกลับมายังวัดควนขันอีกครั้ง ถือเป็นประเพณีชักพระเดือน 5 ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตรัง


ด้าน นายจรัญ ทับเที่ยง ประธานเครือข่ายทหารผ่าศึกจังหวัดตรัง ได้มาช่วยของวัดควนขันโดยเฉพาะพิธีพระร่วม 15 แล้ว บอกว่า ความเป็นมาของประเพณีชักพระเมื่อครั้งอดีตนั้น มีมาตั้งแต่บรรพชนแล้ว หลายรุ่นมาแล้ว เรือพระลำนี้ตามตัวเลขที่ติดข้างเรือ ก็มีอายุ 210 ปีแล้ว ก็ยังเป็นเรือพระลำเดิม ทางคณะกรรมการชุมชน ได้มีการปรับปรุง ซ่อมแซมกันมาเรือย ๆ แต่คงไว้ซึ่งรูปแบบเดิม เมื่อก่อนจะมีชุมชนคลองนางน้อย ลุ่มน้ำคลองนางน้อย วัดพระพุทธสิหิงค์ จาก อ.นาโยง ตลอดมาจนถึงชุมชนบ้านโพธิ์ ชุมชนควนขัน จะร่วมกันชักพระหลังจากเก็บเกี่ยวข้าว ก็หาความรื่นเริงหลังจากเก็บเกี่ยวข้าว จึงได้มีการจัดการแย่งพระ แต่ละกลุ่มก็จะชัดชวนชายฉกรรจ์ หนุ่มฉกรรจ์ ที่มีกำลังวังชา แข็งแรง มาร่วมกันจากวัดต่าง ๆ มาร่วมกัน ส่งเป็นทีมมาแย่งพระกัน ในทุ่งนา กติกาคล้ายกับชักเย่อ มีเขตเส้นแบ่ง เมื่อฝ่ายไหนชนะก็จะพาเรือพระกลับไปไว้ที่วัด และทำการเฉลิมฉลอง พอปีถัดไปก็มีการนัดกันอีกว่าจะไปแย่งพระกันที่สนามไหน ก็จะนำเรือพระลำเดิม นำมาไว้ในสถานที่ที่จะทำการแข่งขันชักพระหรือแย่งพระ จนมาถึงวันนี้สถานที่สภาพต่าง ๆ ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป ทุ่งนาที่กว้าง ๆ ในสมัยก่อนก็มีการถมที่ สร้างบ้านกันมาก จนทำให้ทุ่งนาแคบลง ก็เลยจัดกันเพียงการอนุรักษ์ไว้เป็นประเพณี ชุมชนควนขัน โดยวัดควนขันก็ได้อนุรักษ์ประเพณีนี้ไว้ไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ดูสืบต่อไป
อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นวันนี้ทาง คณะพุทธบริษัทจากวัดต่าง ๆ ในจังหวัดตรัง รวมทั้งวัดควนขัน ร่วมกันชักลากเรือพระไปประดิษฐานไว้กลางทุ่งนา จากนั้น ก็จะทำการแย่งพระ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการชักเย่อเพื่อนำพระที่ได้ไปประดิษฐานไว้ที่วัดในหมู่บ้านของตน พร้อมบุษบก และเรือพระ อย่างไรก็ตาม ประเพณีดังกล่าวค่อย ๆ หายไปจนเหลือเพียงแห่งเดียวที่วัดควนขัน
ทั้งนี้ยังพบว่ามี ผู้สมัคร ส.ส พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 3 นายกิตติพงศ์ ผลประยูร และพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 4 นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น ร่วมทำบุญตักบาตรและชักพระกับประชาชนด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน