ตรัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงพื้นที่เขต 2 ตรัง ช่วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หาเสียง ทั้งเดินตลาดนัด และ ขึ้นเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะตำหนักรื่นรม ประชาชนกว่า 3,000 คน ร่วมฟังการปราศรัย
วันที่ 18 เมษายน 2566 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จังหวัดตรังในพื้นที่ตลาดนาวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เพื่อทักทายพ่อค้าแม่ค้า โดยมีแฟนคลับมาขอร่วมถ่ายรูปเซลฟี่ พร้อมชู 2 นิ้ว หาเสียง ให้แก่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก
ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่สวนสาธารณะตำหนักรื่นรมย์ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ตรังเขต 2 เปิดปราศรัยใหญ่ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ตรังเขต 2 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และพบว่าได้มีนายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น ผู้สมัครส.ส. ตรัง เขต 1 มาร่วมบนเวทีปราศรัยใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยบรรยากาศในวันนี้พบว่ามีประชาชนกว่า 3,000 คนมาร่วมฟังการปราศรัย โดยมีชาวบ้านแฟนคลับส่งมอบพวงมาลัยดาวเรือง ดอกกุหลาบ ให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ก่อนขึ้นเวที
โดยนายอภิสิทธิ์ ขึ้นกล่าวเวทีปราศรัยพร้อมชูนโยบาย บอกว่า ผมขอกราบขอบพระคุณพี่น้องในสิ่งแรกตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่ผมทำหน้าที่เป็นนักการเมืองเป็นส.ส. มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนพี่น้องทางใต้ ในจังหวัดตรัง และชาวอำเภอห้วยยอดหลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งคือกำลังใจที่ทำให้ผมสามารถเดินหน้าทำงานให้แก่ประเทศชาติบ้านเมือง และที่สำคัญก็คือตลอดระยะเวลาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล ฟันฝ่าปัญหาสถานการณ์ต่างๆมาได้ เพราะมีพี่น้องประชาชนที่นี่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้มีโอกาสเดินทางมากนัก ถึงแม้จะยุติบทบาทหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเองก็ได้หยุดบทบาททางการเมืองไว้ แต่ก็ยังคอยติดตามเรื่องราวของบ้านเมือง จนกระทั่งที่มีการเลือกตั้งหรือหลังจากยุบสภา ทั้งหัวหน้าพรรคหรืออดีตหัวหน้าพรรคก็ได้เข้ามาพูดคุยกับตนเอง และสอบถามปรึกษาหารือกันว่า จะให้ตนเองลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ซึ่งตนเองจะไม่ลงสมัครในครั้งนี้ ก็ได้ยืนยันว่าตนเองเป็นสมาชิกของพรรคและไม่ได้เปลี่ยนแปลง แล้วต้องขอขอบคุณพี่น้องสำหรับกำลังใจดอกไม้พวงมาลัยและรอยยิ้มที่ยังให้กันเหมือนเดิม ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับที่ยังชมว่าตนเองยังหล่อเหมือนเดิม ซึ่งตนเองยังยืนหยัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจน
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ คือพรรคที่เห็นคุณค่าของอสม. ล่วงหน้ามานานแล้ว เพราะประชาธิปัตย์เองเห็นตั้งแต่ต้นว่าประเทศอย่างเราทรัพยากรไม่ได้มากมาย แต่สำคัญกว่าที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานในการดูแลตัวเองได้ แล้วใครจะสื่อสารกับประชาชนได้ดีที่สุดก็เท่ากับประชาชนที่เป็นอาสาสมัคร และตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สังคมสูงวัยกำลังจะมา ขอเปลี่ยนนโยบายจากนายชวนหลีกภัย ซึ่งเคยให้เบี้ยยังชีพเป็นการสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ว่ามาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้สูงอายุไทยทุกคน ยกเว้นคนที่มีบำเหน็จบำนาญอยู่แล้ว ให้เป็นเบี้ยยังชีพแบบถ้วนหน้าเป็นครั้งแรกก็คือพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ยังบอกอีกว่า ตอนนั้นตนเองเป็นรัฐมนตรีตนไม่ได้ลังเลใจเลย ตนเองเลือกสาทิตย์เข้าไปเป็นเลขาผม ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดนึกว่านายชวนฯ ฝากมา นายชวนไม่เคยฝาก แต่ผมเลือกเองเพราะเห็นแววตั้งแต่เขาเป็นส.ส.สมัยแรก ตอนนี้ก็ได้สาทิตย์เป็นเลขาช่วยกลั่นกรองงานให้ ดั่งนั้นเมื่อตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ลังเลใจที่จะให้นายสาทิตย์ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยในตอนนั้นเขาได้รับมอบหมาย ให้ดูงานเกี่ยวกับสื่อ และตนเองมั่นใจในฝีมือของนายสาทิตย์
และอยากจะบอกกับพี่น้องว่าวันนี้ดีใจที่มีโอกาสมาพบปะกับพี่น้องอีกครั้งหนึ่งรู้สึกประทับใจที่มอบให้กับตนเองเสมอมา แต่อยากจะย้ำอีกครั้งว่า 14 พฤษภาคมอำนาจกลับมาอยู่กับพี่น้อง ยุคนี้เดี๋ยวนี้การเมืองมันดูสับสนมาก มีพรรคการเมืองเยอะจนชูนิ้วไม่ได้
ในขณะที่ทางด้านนายสาทิตย์ บอกว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ตั้งใจมาเขต 2 เป็นพิเศษ ใครก็ตามที่จะไปสร้างกระแสว่าสาทิตย์เป็นต่อเป็นรองก็แล้ว แต่ ณวันนี้จากการดูคนที่มาในวันนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่าพ่อแม่พี่น้องจะสนับสนุนตนเองให้ไปทำหน้าที่ในสภาต่อไป วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกอบอุ่นใจ
ขอขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ก : Abhisit Vejjajiva
