ตรัง “ทพญ.สรวีย์ ” ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทย ควงอดีตสองดาราดัง-อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเวทีปราศรัยย่อย ชูนโยบายปรับราคาพืชผลทางการเกษตร ค่าแรงขั้นต่ำ600 บาท และ นโยบายเงินดิจิทัล
วันที่ 27 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ลานวัฒนธรรมตรัง ข้างตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ เขตเทศบาลนครตรัง ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อโฆษกพรรคเพื่อไทย นายอรรถชัย อนันตเมฆ อดีตดาราดัง ลงเขต 1 ตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่หาเสียง ของทพญ.สรวีย์ หรือหมอน้ำหวาน ภัทรอิสริยาไชย ผู้สมัคร ส.ส. ตรัง เขต1 พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยย่อย โดยมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยนับพันคน พร้อมมอบดอกไม้และพวงมาลัยดาวเรืองและชาวบ้านยังพร้อมเพรียงร่วมกันใช้มือถือของตัวเองเปิดไฟฉายส่องไปยังเวทีพร้อมกัน เพื่อส่งสัญญาณแสดงถึงการให้กำลังใจกันอีกด้วย
โดยหมอน้ำหวานพูดสโลแกน “คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน” พร้อมชูนโยบายเน้นเรื่องการปรับราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งหัวใจหลักของจังหวัดตรังก็คือพ่อแม่พี่น้องที่ประกอบอาชีพชาวสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน เพราะฉะนั้น เน้นปรับราคาด้านการเกษตรยกแผง ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด และนโยบายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดตรังของเรายังเป็นเมืองรองจะดันขึ้นให้เป็นเมืองหลัก เน้นดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและต่างจังหวัดให้เข้ามาเที่ยวที่จังหวัดตรังมากยิ่งขึ้น นโยบายอื่นๆก็จะเป็นเรื่องปรับราคาพลังงานลดลงทันทีหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท และนโยบายไฮไลท์ก็คือดิจิตอลวอลเล็ทเติมเงินให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ถือบัตรประชาชนคนไทยคนละ 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ในส่วนการเดินหาเสียงกระแสของพรรคเพื่อไทยเขต 1 ของตนเองนั้น ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัยย่อยหรือเดินเคาะประตู เพราะนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยตอบโจทย์พ่อแม่พี่น้อง ชาวจังหวัดตรังเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง และที่สำคัญพรรคเพื่อไทยเคยทำนโยบายที่ทำได้แล้วและทำได้จริง ซึ่งนโยบายที่ปล่อยออกมาครั้งนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทย แก้ปัญหาปากท้องได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนในเรื่องของการแข่งขัน เชื่อว่าทุกสนามย่อมมีการแข่งขัน ซึ่งตนเองเชื่อว่าชาวตรังโดยเฉพาะเขต1 จะพิจารณาจากนโยบาย และตัวอย่างของความสำเร็จ ด้วยนโยบายที่เราเห็นทำได้แล้วทำได้จริง และจะให้โอกาสพรรคเพื่อไทยให้โอกาสตนเองได้เข้าไปทำงานแทนพ่อแม่พี่น้อง
