พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะลงพื้นที่ จ.ตรัง ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ได้เข้ากราบสักการะสมเด็จวัดกะพัง (สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์) สมเด็จฯได้สอนวิธีการเดินให้แข็งแรง ฝั่งเวทีปราศรัยคนเรือนหมื่นแห่ฟัง ส่งเสียงเชียร์
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะลงพื้นที่จ.ตรัง ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง บริเวณด้านหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 (ศาลากลางหลังเก่า) เบื้องต้น หลังลงเครื่องที่สนามบินตรัง ได้เดินทางไปที่วัดกะพังสุรินทร์(พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อกราบสักการะสมเด็จวัดกะพัง (สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์) และระหว่างทางพล.อ.ประวิตร เดินทางขึ้นรถเพื่อที่จะไปเวทีปราศรัยต่อนั้น ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์พล.อ.ประวิตรฯ หลังจากกราบสักการะสมเด็จวัดกะพัง ซึ่งได้มีการสนทนาธรรมและหลวงพ่อได้สอนวิธีการเดินให้แข็งแรง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้สิทธิ์กันที่ได้ลงทะเบียนไว้ จะเลือกพรรคใด หมายเลขอะไรก็แล้วแต่ทุกคน ยังไงก็ขอฝากพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37 และผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐด้วย
ต่อจากนั้นในเวลา 17.00 น. ได้เดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่าดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ โดยมีประชาชนจากทั้ง 4 เขตเลือกตั้งมาร่วมรับฟังนับหมื่นคน ซึ่งนำโดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง ขึ้นปราศรัยคนแรก พร้อมกับการแนะนำตัวผู้สมัครส.ส.ทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย ดร.กิตติพงษ์ ผลประยูร เขต 1 นายทวี สุระบาล เขต2 พ.ต.ท.นัทธพงศ์ ใจสมุทร เขต3 และ พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์ โดยผู้สมัครได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย
จากนั้นเมื่อพล.อ.ประวิตร เดินทางขึ้นเวทีปราศรัย ประชาชนแน่นกว่า 12,000 คน ต่างแห่ส่งมอบดอกไม้ พร้อมกับส่งเสียงปรบมือให้กำลังใจดังสนั่น ซึ่งเนื้อหาในการปราศรัยพล.อ.ประวิตร ฯได้เน้นย้ำเรื่องของนโยบายต่าง ๆ พร้อมกล่าวพี่น้องชาวตรังที่น่ารักทุกคน ผมดีใจที่ได้มาพบกับพี่น้อง เราจะก้าวความขัดแย้งและความยากจนไปด้วยกัน เพื่อความสามัคคีของประชาชนในชาติเป็นหนึ่งเดียว ผมอยากให้คนไทยรักกันเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในขณะที่มีหนูน้อยขึ้นเวทีพูดอยากให้ลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรีอีกด้วย เพื่อเรียกสีสันเวทีการปราศรัยในครั้งนี้
ขณะที่ นายกิตติพงศ์ ผลประยูร ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัย พูดถึงเรื่องที่ดิน ที่ต้องการเข้าไปแก้ไขในสภาฯ ให้กับพี่น้องประชาชน และขอโทษพรรคการเมืองที่ถูกพิธีกรเสริมกล่าวพาดพิง ตนเองต้องการทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ก็อยากให้พี่น้องประชาชนเดินไปพร้อมกัน ผมมีความพร้อมทุกอย่าง ส่วนทางด้านนายนิพันธ์ ศิริธร อดีต ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นเวทีกล่าวทักทายประชาชน ขอคะแนนให้กับผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขตและคะแนนพรรคพลังประชารัฐ
ด้าน นายกิตติพงศ์ ผลประยูร ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า วันนี้ไม่ได้คาดคิดว่าพี่น้องชาวตรังจะให้การต้อนรับมากมาย ตั้งเก้าอี้ไว้ 10,000 ตัว เก้าอี้ก็หมด บริเวณโดยรอบมีคนยืนกันเต็ม วันนี้น่าจะมีประชาชนมาร่วมกว่า 12,000 คน การที่ พลเอกประวิตร และคณะ มาช่วยเหลือพวกเราปราศรัยใหญ่ในวันนี้ เป็นพลังเสริมให้พวกเราทั้ง 4 คน มีกำลังใจที่จะต่อสู้มากขึ้น เดิมทีก็มีกำลังใจเต็มที่อยู่แล้ว พวกเราพร้อมเราจะต่อสู้ พรุ่งนี้ (7 พ.ค.66) อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า และวันที่ 14 พ.ค.66 อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันทุกคน อย่าลืม เขต 1 ตรัง เบอร์ 3 เลือกตั้งรอบนี้ ผมเป็นคนใหม่แทน นายนิพันธ์ ก็ไม่หนักใจ พลังชาวตรัง วันนี้ หมื่นกว่าคน กลับไปบ้าน คูณสองคูณสาม เป็นพลังอย่างเหลือเฟือไม่หนักใจอะไรเลย พร้อมสู้ครับ ยังลงพื้นที่อย่างเต็มที่ทุกวัน
ส่วนทางด้าน นายนิพันธ์ ศิริธร อดีต ส.ส.ตรัง เขต 1 ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า วันนี้กำลังใจของผู้สมัครพุ่งขึ้นสูงเลย ดูจากอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนที่มาต้อนรับหัวหน้าพรรคแสดงออกอย่างมีความสุข และรักลุงป้อมอย่างเต็มใจ เป็นพลังให้ผู้สมัครมีกำลังใจยิ่ง ๆ ขึ้นไปตอนนี้เราหวังทั้ง 4 เขต สู้ทั้ง 4 เขต ตอนนี้ก็มั่นใจทั้ง 4 เขตและสู้ทั้ง 4 เขต ส่วนตัวของแคดิเดตนายกฯ เราดูจากประชาชนแสดงออกวันนี้มาด้วยความรักท่าน เรามั่นใจว่า เบอร์พรรคเบอร์ 37 น่าจะได้คะแนนเยอะ ในส่วนของเขต 1 ตนเองชื่นชมผู้สมัครตลอด ว่าจุดแข็งของ ดร.กิตติพงศ์ เป็นคนขยันลงพื้นที่ เดินเคาะประตู เดินพบปะ ทำความรู้จักพี่น้องประชาชน นำเสนอนโยบายทุกวัน เป็นคุณสมบัติข้อแรกของคนที่ลงการเมืองต้องขยัน
