X

“นายหัวชวน” นำทัพปชป.ปราศรัยใหญ่ที่บ้านเกิด ร่ายตำนานคนย้ายพรรค แช่ง ใครใช้เงินจะฉิบหายทางการเมือง

“นายหัวชวน” นำทัพปชป.ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายตรังบ้านเกิด ร่ายตำนานคนย้ายพรรค แช่ง ใครใช้เงินจะฉิบหายทางการเมือง “สาทิตย์” แฉ เขต 1 , 2 , 4 ซื้อเสียงกันแล้ว อดีตขรก.มท.อักษรย่อ ส. เป็นหัวจ่าย

ตรัง-“นายหัวชวน” นำทัพปชป.ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายตรังบ้านเกิด ผู้สมัครร่วมเวทีไม่ครบ หายไป 2  เดือด!ร่ายตำนานคนย้ายพรรค ปูด พบซื้อเสียงระบาดหนัก แช่ง ใครใช้เงินจะฉิบหายทางการเมือง ไม่รู้เห็นนามสกุล “หลีกภัย” ลงต่างพรรค “สาทิตย์” แฉ เขต 1 , 2 , 4 ซื้อแล้ว 300-2,000 อดีตขรก.มท.อักษรย่อ ส. เป็นหัวจ่าย แถมมีอมเงิน ให้ระวังทุนสีเทา-บ่อน-ยาเสพติดมาครอบงำการเมือง ร้องกกต.แล้ว

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.66 เวลา 17.00 น. ที่สนามกีฬาเทศบาลนครตรัง2 (ทุ่งแจ้ง) ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง บ้านเกิดนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อดีตนายกฯ 2 สมัย อดีตประธานรัฐสภา พรรคปชป.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โค้งสุดท้ายซึ่งเหลือเวลาอีก 3 วันก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง โดยบรรดากองเชียร์ปชป.ได้แห่มาจับจองเก้าอี้ก่อนเวลาปราศรัยจนเต็มทุกที่นั่งราว 5,000 คน ท่ามกลางแกนนำพรรคปชป.ที่ต่างทยอยสลับกันขึ้นเวที อาทิ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ หรือ ดร.เอ้ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกทม.พรรคปชป. น.ส.วทันยา หรือ มาดามเดียร์ บุนนาค ประธานคณะทำงานวัตกรรมการเมืองพรรคปชป. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผู้สมัครส.ส.เขต2 ตรัง น.พ.ตุลกานต์ มักคุ้น ผู้สมัครเขต 1 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการ พรรคปชป. และ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยบรรยากาศการปราศรัยเป็นไปด้วยความเข้มข้น มีการพูดถึงผลงานของพรรค ทั้งผลงานด้าน สาธารณสุข การศึกษา การคมนาคม การเกษตร เรียกเสียงเชียร์และเสียงปรบมือจากบรรดาแฟนคลับได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า มีผู้สมัครส.ส.ปชป.ตรังมาร่วมเวทีเพียง 2 เขต คือนพ.ตุลกานต์ ผู้สมัครเขต 1 และนายสาทิตย์ ผู้สมัครเขต 2 จากที่ปชป.ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งตรังทั้ง 4 เขต โดยไม่ปรากฏน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครเขต 3 และนายกาญจน์ ตั้งปอง ผู้สมัครเขต 4 มาร่วมกิจกรรมแต่อย่างใดแม้จะเป็นเวทีใหญ่ในนามพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย นอกจากนี้พี่น้องตระกูล “หลีกภัย” ยังมาระดมช่วยกัน ทั้ง “ระลึก หลีกภัย” น้องชายนายชวนที่ลงทุนเดินแจกเอกสารหาเสียงด้วยตัวเอง และ “กิจ หลีกภัย” พี่ชายนายชวนที่เกาะติดเวทีอย่างใกล้ชิด

รายงานข่าวจากพรรคปชป.แจ้งว่า มีความเป็นไปได้ว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายชวนล่าสุด ที่ประกาศไม่ขอลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายกาญจน์ ผู้สมัครส.ส.ตรังเขต 4 ของพรรค เนื่องจากไม่ต้องการทำลายน้ำใจนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตเลขานุการประธานสภา คนใกล้ชิด ที่ต้องพ่ายโพลว่าที่ผู้สมัครในเขตดังกล่าวจนต้องลาออกจากพรรค ซึ่งนายกาญจน์เป็นที่รับรู้กันว่าได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรังหลายสมัย บิดาของน.ส.สุณัฐชานั่นเอง ทำให้ไม่ปรากฏว่า ทั้งน.ส.สุณัฐชา และ นายกาญจน์ ร่วมกิจกรรมการหาเสียงร่วมกับนายชวนในระยะหลังหลายๆเวที โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง อีกทั้งก่อนหน้านี้นายสมชาย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ขอสนับสนุนผู้สมัครเพียงแค่ เขต 3 บุตรสาว และ 4 เท่านั้น ส่วนเขต 1 ที่ตัวเองเป็นฝ่ายหามา ขอไม่สนับสนุนเพราะอาจเกินกว่ากำลัง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมัครส.ส.เขต2 ตรัง พรรคปชป. กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า การซื้อเสียงตอนนี้มีอัตราการจ่ายเงินตั้งแต่ 300 บาท 500 บาท 1,000 บาท จนถึง 2,000 บาท ที่อัตราการจ่ายไม่เท่ากันเป็นเพราะมีการอมเงินของหัวคะแนน ซึ่งตอนนี้ในพื้นที่เขต 2 คือ อ.ห้วยยอด , รัษฎา , วังวิเศษ มีการจ่ายเงินลงไปแล้ว รวมทั้งเขต1 อ.เมืองตรังด้วย ตนได้เตือนพี่น้องชาวเขต2 แล้วว่าให้ดูให้ดีๆ ถ้าหัวคะแนนจ่ายมาแค่ 300 บาท นั่นหมายความว่าหัวคะแนนอมเงินไปแล้ว 700 บาท ฉะนั้นอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนหลอกเอาเงินนักการเมืองชั่ว นักการเมืองโง่ ส่วนในเขต1 ตรัง หากต้องรับเงินเพราะโดนขู่ ก็ให้หลับหูหลับตารับ แต่วันเลือกตั้งให้เลือกนพ.ตุลกานต์
.
“สิ่งที่น่ากลัวตอนนี้คือประชาธิปไตยเงินสด เพราะมีแต่การพูดถึงยอดเงิน วงเงิน และล่าสุดสุดคนที่เป็นคนร่วมมือไปแจกจ่ายจดชื่อถือว่าเป็นสิ่งที่อัปยศสุดในประเทศไทย คนที่ไปทำเรื่องแบบนี้คือผู้นำในท้องที่ ในเขต 2 ไม่ต่างจากกับเขต 1 และ เขต 4 เพราะบางอำเภอเช่นอ.รัษฎา คนที่ถือเงินเขาจัดกันเป็นลำดับชั้น หัวคะแนนใหญ่ได้อมเงินมาก หัวคะแนนย่อยอมเงินลดลั่นกันไป แต่สรุปว่าอมกันทุกคนกว่าจะถึงชาวบ้านก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ที่ร้ายสุดในอ.รัษฎา คนที่ถือเงินเป็นอดีตข้าราชการกระทรวงมหาดไทย อักษรย่อ ส. ทั้ง 2 คน นอกจากนั้นยังมีนักการเมืองท้องถิ่นชื่อคล้ายๆกันเป็นคนประสานงานชี้จุดให้อดีตข้าราชการ 2 คนนี้เป็นเข้าไปพบ และมีการบีบบังคับผู้ใหญ่บ้านบางราย ซึ่งผมได้แจ้งไปยังกกต.แล้ว”นายสาทิตย์ระบุ

นายสาทิตย์กล่าวด้วยว่า ประชาธิปไตยเงินสดอันตราย คือ เรื่องที่มาของเงินที่ใช้ซื้อเสียง เพราะหากเป็นเงินของเศรษฐีที่ทำมาหากินสุจริต เป็นไปได้หรือที่จะควักเงิน 30-40 ล้านบาท ไปให้นักการเมืองชั่วใช้ซื้อเสียงประชาชน ไม่มีทางแน่นอนเพราะเศรษฐีรู้คุณค่าของเงิน ฉะนั้นเงินซื้อเสียงต้องมาจากเงินสีเทา จากคนสีดำแบบเดียวกับทุนตู้ห่าว หรือทุนเว็บพนัน ทุนบ่อนการพนัน ทุนยาเสพติด ทุนค้ามนุษย์ หากเรายอมรับประชาธิปไตยเงินสด นั่นหมายความว่าต่อไปคนสีเทาเหล่านั้น จะเข้ามาแทรกแซงการเมือง สำหรับกรณีผู้มีอิทธิในเขต 1 ตนเชื่อว่ามี ส่วนในเขต 2 นั้นมีอยู่อย่างหนาแน่น

ด้านนายชวน ปราศรัยเป็นภาษาใต้ว่า ที่ต้องกลับมาภาคใต้และที่จ.ตรังครั้งนี้ เพราะระหว่างไปช่วยหาเสียงในภาคอื่นได้ 40-50 จังหวัด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคโทรมาหาบอกว่า สถานการณ์ภาคใต้ตอนนี้เปลี่ยน อย่างที่สุราษฎร์ตอนแรกว่าจะได้ทั้งหมด แต่มีปัญหาแล้ว และอีกหลายจังหวัดภาคใต้ สาเหตุคือการซื้อเสียงอย่างที่นายสาทิตย์บอก ตนกลับมาตรัง มีคนมารายงานว่า เขาจ่ายกันแล้วล่วงหน้า 500 บาทก่อน อย่างนายสาทิตย์ก็พบปัญหาหนัก ตนไปช่วยปราศรัยช่วย นายสาทิตย์ที่ต้องสู้กับนายทวี สุระบาล จากพรรคพลังประชารัฐ ตนเล่าให้ชาวบ้านฟังว่าในอดีตก่อนที่นายทวีจะมาอยู่ปชป. เคยลงแข่งกันเรามาก่อน แล้วมาขอเข้าพรรค ตอนนั้นนายเธียร เสกธีระ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองตรังการันตีว่านายทวีไม่ใช่นักการเมืองอย่างที่หลายๆคนคิด เราเลยรับเข้าพรรค นายทวีก็ได้คะแนนสูงสุด แต่ต่อมาตอนไทยรักไทยนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังปชป.ในขณะนั้นมาบอกตนว่ามีคนกินบนเรือนแล้วกลับทำบางอย่าง มีคนจะออกจากพรรค นายสมชายบอกว่ามีการนัดเจรจากันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกทม. ตนเลยให้นายสมชายไปสังเกตการณ์เจรจาแล้วกลับมาบอกว่ามีระดับรมช.มหาดไทยมาเจรจา แล้วหลังจากย้ายพรรคแล้วคนๆนั้นก็ไม่ได้รับเลือกตั้งอีก ไปงานศพเจ้าภาพก็ไม่รับพวงหรีด
.
นายชวน กล่าวอีกว่า สำหรับตรังเขต 1 คนถามตนมากว่า มีคนนามสกุลหลีกภัย แต่ไปลงอีกพรรค คือนายถนอมพงศ์ หลีกภัย ผู้สมัครส.ส.ตรังเขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) อย่าไปกังวลว่านามสกุลหลีกภัย เพราะครอบครัวตนไม่รู้เห็นที่เขาไปลง ขอให้ประชาชนเลือกนพ.ตุลกานต์คนของปชป. และเราไม่เอาการใช้เงินทุกรูปแบบ เรื่องการมีอิทธิพลของระบบการใช้เงินเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้ประชาชนช่วยเป็นปากเป็นเสียง ไม่นั้นการเมืองจะย้อนกลับไปในอดีต อย่าให้ใครดูถูกว่าคนใต้ไม่สาไหร(ไม่ได้เรื่อง ไม่มีศักดิ์ศรี)

“ครั้งนี้ผมได้ตัดสินใจเมื่ออายุมากแล้วว่าจะช่วยพรรคเต็มที่ และคำพูดผมศักดิ์สิทธิ์ แต่ก่อนนายทักษิณ ชินวัตร บอกว่าระวังจะไม่มีการเมืองเล่น ผมก็ว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาบ้านเมืองมาเป็นบริษัท ก็ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกัน ขอให้เชื่อว่าความชอบธรรมถูกต้องนั้นยั่งยืน ใครใช้เงินจะไม่รุ่งเรืองและจะฉิบหายในที่สุด ศักดิ์ศรีชาวตรัง ใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา”นายชวนกล่าว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน