ตรัง ชาวบ้าน ต.ควนปริง และ ต.โคกหล่อ ร่วม 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอัตราค่าเวนคืนที่ดินขยายสนามบินตรัง
วันที่ 19 มิ.ย.66 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ตัวแทนชาวบ้านจาก 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.ควนปริง และต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง รวมประมาณ 100 คน จากจำนวนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 161 คน เนื้อที่ 223 แปลง นำโดยนายธนพงษ์ สัญวงศ์ กำนัน ต.ควนปริง อ.เมือง พร้อมป้ายเรียกร้อง ความเป็นธรรมราคาเวนคืนที่ดิน ของกรมธนารักษ์ที่ทุกคนมองว่าราคาต่ำกว่าความเป็นจริง หรือต่ำกว่าราคาการซื้อขายจริงในท้องตลาดไม่ต่ำกว่า 5 เท่า ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินไปซื้อที่ดินหาที่อยู่ใหม่ เช่น ชาวบ้านสละได้เพื่อความก้าวหน้าของจ.ตรัง แต่ต้องช่วยชาวบ้านด้วย , ราคานี้ไม่เป็นธรรม,เก็บมาทั้งชีวิตถูกเวนคืนหมดทั้งที่ หมดทั้งบ้าน หรือจะไปอยู่ที่ไหนถ้าให้มาแค่นี้ ,ราคาประเมินแค่นี้หนูไร้ที่พึ่ง ,วันแรกที่ประชุมบอกว่าจะให้ราคาที่ชาวบ้านพอใจ แต่มาวันนี้ให้ราคาแค่นี้ พวกเราจะไปซื้อที่ไหน เป็นต้น
ทั้งหมดเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยมีนายสกุล ดำรงเกียรติกุล ปลัดจังหวัดตรัง เป็นคนรับหนังสือแทน เพื่อขอให้คณะกรรมการกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้น และเงินค่าทดแทน ทบทวนอัตราค่าเวนคืนที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ 2 ตำบลดังกล่าว ที่คิดประเมินโดยกรมธนารักษ์ ซึ่งกำลังจะประกาศอัตราราคาค่าเวนคืนที่ดินไม่เกิน 1 เดือนนี้ ซึ่งเป็นชาวบ้านล็อตแรกที่จะได้รับการเวนคืนที่ดินก่อน โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังซึ่งเป็นส่วนขยายทางวิ่ง ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง หลังจากเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 พระราชกฤษฎาให้เวนคืนที่ดิน เนื่องจากมีความจำเป็นต้องขยายสนามบินตรัง ตามโครงการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานตรัง ในท้องที่ ต.ควนปริง ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง และต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินอากาศอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และพัฒนาโครงข่ายระบบการขนส่งทางอากาศ และระบบโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการเติบโตทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของพื้นที่เศรษฐกิจทางภาคใต้
โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการสำรวจ รังวัดแนวเขตอสังหาริมทรัพย์ของชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านขั้นตอนการพิจารณาอัตราค่าเวนคืนที่ดิน และเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเรียกประชุมชาวบ้านที่โรงเรียนวิเชียรมาตุ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์ราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนทั้งหมด รวมทั้งชี้แจงขั้นตอนสิทธิและหน้าที่ต่างๆ โดยขั้นตอนขณะนี้คือ เตรียมจะแจ้งราคาค่าเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ที่จะแต่ละรายจะได้รับ และเชิญทำสัญญาภายใน 1 เดือน แต่ชาวบ้านซึ่งทราบอัตราการคิดคำนวณแล้วว่าทางกรมธนารักษ์ใช้หลักเกณฑ์คิดคำนวณราคาฐานเบื้องต้น จากค่ามัธยฐานของราคาซื้อขายกับกรมที่ดิน ซึ่งจะต่ำกว่าราคาซื้อขายกันตามความเป็นจริง เพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีหรือค่าธรรมเนียมในการทำนิติกรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ชาวบ้านแต่ละรายไม่พอใจในราคาที่จะได้รับ เพราะมองว่าต่ำกว่าราคาเป็นจริงไม่ต่ำกว่า 5 เท่าตัว โดยชาวบ้าน 2 ตำบลที่มาเป็นชุดแรกที่จะได้รับการเวนคืนที่ดิน ส่วนของตำบลควนธานี อ.กันตัง ยังต้องรอปีงบประมาณต่อไป
โดยชาวบ้านร้องขอให้ทางจังหวัดเรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพราะเหลือระยะเวลาประมาณ 25 วัน ก็จะครบ 1 เดือน กำหนดที่กรมท่าอากาศยายจะมีการแจ้งประกาศราคาประเมินที่ชาวบ้านจะได้รับ โดยชาวบ้านให้เวลา 5 วันในการเรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่าให้มีการประกาศราคาออกมาก่อน และนัดกำหนดจะมาติดตามความคืบหน้าใน 3 วัน ขณะที่ราคาที่ดินในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินตรัง มีการปรับราคาขึ้นแล้วทั้งหมด เพราะความเจริญไปถึง ชาวบ้านจะไม่มีเงินไปซื้อที่ดิน
นายอธิพัฒน์ สม่าหลี อายุ 40 ปี (ชาวบ้าน)บอกว่า ชาวบ้านอย่างช่วยอย่างเร่งด่วน เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนกำหนดราคาเบื้องต้นแล้ว ต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนประกาศราคาที่จะส่งไปให้ชาวบ้านทุกคน หากถึงขั้นตอนนั้นชาวบ้านต้องอุทธรณ์ ถือว่าลำบากมากและไม่ค่อยจะได้เพราะชาวบ้านไม่มีหลักฐานการซื้อขายที่ดินในปัจจุบันหลังจากยื่นหนังสือครบ 5 วันตามที่กำหนด และชาวบ้านจะมาติดตามทวงถามอีกครั้งใน 3 วันหลังจากนี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านก็ต่อสู้มาตลอด และให้ความร่วมมือกับการท่าอากาศยานมาโดยตลอด ตั้งแต่ขั้นตอนการทำ EIA ชาวบ้านไม่เคยคัดค้าน และผู้เกี่ยวข้องเรื่องขยายสนามบินตรังได้แจ้งในที่ประชุมทุกครั้ง ชาวบ้านรู้สึกโอเคว่าจะช่วยกันพัฒนาจ.ตรัง น่าจะให้ราคาที่เป็นธรรมกับชาวบ้าน และตอนนี้การขยายสนามบินก็ยังดำเนินการปกติแม้จะมีรถบรรทุกวิ่งผ่านมีฝุ่นกระจาย แต่ชาวบ้านก็ได้คุยกับผู้รับจ้างตลอด ได้ทำความเข้าใจกัน และไม่เคยเกิดปัญหา
นายนิคม จับปรั่ง อายุ 42 ปี (ชาวบ้าน) บอกว่า ชาวบ้านเรีกร้องราคาเวนคืนที่ดินที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงในพื้นที่ เพราะชาวบ้านได้ค่าทดแทนราคาค่าอสังหาริมทรัพย์ของคณะกรรมการเวนคืน ในราคาที่ต่ำมากจนชาวบ้านไม่สามารถออกจากพื้นที่เพื่อไปหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ได้ เพราะราคาในพื้นที่ซึ่งมีการซื้อขายจริง ซึ่งมีราคา 2-3 ล้านบาทต่อไร่ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันมาเพื่อเรียกร้องเรื่องการกำหนดราคาของกรมธนารักษ์เป็นรายแปลงคูณด้วยค่าดัชนี 4.37 ซึ่งราคาที่ได้ก็ยังต่ำกว่าราคาซื้อขายจริงในพื้นที่อยู่มาก และภายใน 3 วัน ชาวบ้านจะมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง
