ตรัง จากกรณีเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อย ประสบปัญหาต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าอาหารที่เป็นต้นทุนหลัก ราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง และ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า อาหารปรับราคาขึ้นอีกกระสอบละ 5-10 บาท ทำให้เกษตรกรรายย่อยจำนวนมาก สู้ต้นทุนไม่ไหวต้องเลิกเลี้ยงไปจำนวนมากนั้น
ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่สำรวจต้นทุนการเลี้ยงเป็ด และการเลี้ยงไก่ไข่ ของเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยนายชัชชนชัย นุ้ยขาว ( น้องต้น ) อายุ 27 ปี เกษตรกร บอกว่า ตนเลี้ยงไก่ และเป็ดมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยเป็ดเลี้ยงไว้ 2 เล้า รวมจำนวน 1,300 ตัว และเลี้ยงไก่ไข่ไว้จำนวน 2 เล้า ประมาณ 700 ตัว ต้นทุนหลักทั้งเป็ด และไก่ คือ ค่าอาหารตกวันละกว่า 4,000 บาท หรือต่อเดือนประมาณ 130,000 บาท แบ่งเป็นค่าอาหารไก่ 70,000 บาท อาหารเป็ด 60,000 บาท ค่าไฟเดือนละกว่า 3,000 บาท, ค่าวิตามิน ค่ายา ประมาณเดือนละ 5,000 บาท และยังมีค่าน้ำ โดยเฉพาะค่าอาหาร ซึ่งไก่แต่ละตัวจะกินมากประมาณ 120 กรัม/วัน/ตัว ซึ่งหากไก่ได้กินอาหารน้อยจะไม่ออกไข่ นอกจากนั้น ต้นทุนครั้งแรกที่เลี้ยง เนื่องจากเป็นการเลี้ยงไก่แบบยืนกรง ซึ่งทำความสะอาดง่าย ไข่สะอาด ไม่เปื้อน เก็บไข่ง่าย ไม่เสียเวลา และหากไก่เจ็บป่วยหรือไก่เป็นโรค ก็ง่ายต่อการคัดแยกไก่ จึงต้องมีค่ากรงชุด ซึ่งกรง 1 ชุด จุไก่ได้ 9 ตัวเท่านั้น ราคาประมาณชุดละ 1,700 บาท ไม่รวมค่ารางน้ำ ,รางอาหาร
และไก่ของตนจะเปิดเพลงให้ฟังตลอดเวลา เพื่อให้ไก่คลายเครียด อารมณ์ดี ออกไข่ได้ดี ซึ่งอาหารไก่ ตนเคยจ่ายถูกสุดคือ กระสอบละ 460 บาท แต่ขณะนี้ปรับขึ้นมาอยู่ที่กระสอบละ 528 บาท ส่วนค่าอาหารเป็ดขณะนี้ กระสอบ 540 บาท ซึ่งราคาอาหารจะแพงมาก โดยปรับขึ้นมาแล้วยังจะปรับต่อเนื่อง ไม่เคยลดลงเลย และล่าสุด ทางบริษัทจำหน่ายอาหาร ก็แจ้งมาอีกว่า ภายใน 1-2 เดือนนี้ ราคาอาหารสัตว์จะมีการปรับราคาขึ้นอีกกระสอบ 5-10 บาท ซึ่งตนก็มองว่าจะหนักเกินไป ไม่ทราบว่าจะสู้ไหวหรือไม่ และถึงเวลานั้นอาจต้องปรับราคาขายไข่ ซึ่งขณะนี้ทั้งไข่เป็ด และไข่ไก่ ผลิตได้รวมกันประมาณวันละ 1,500 ฟอง ราคาขายจะถูกกว่าราคาตามท้องตลาด และในห้างสรรพสินค้า เช่น ไข่เป็ด แผงละ 130 -140 บาท , ไข่ไก่ เบอร์ 4 แผงละ 105 บาท ,เบอร์ 3 แผงละ 110 บาท ,เบอร์ 2 แผงละ 115 บาท , เบอร์ 1-0 แผงละ 130 บาท และไซส์ใหญ่สุด แผงละ 150 บาท แต่มีน้อย ซึ่งราคาจะต่ำกว่าราคาท้องตลาดแผงละ 10-15 บาท ทำให้ไข่เป็ด และไข่ไก่ของตนมีไม่พอขาย และเป็นไข่สดเก็บวันต่อวัน ลูกค้าแย่งกันซื้อ ลูกค้าในพื้นที่ก็ไม่พอขาย ลูกค้าสนใจสั่งจองได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 095-0237914
เฉพาะไข่เป็ด ต้องแบ่งส่งลูกค้าที่จ.นครศรีฯ และจ.พัทลุง ด้วย ทั้งนี้ เหตุที่ตนเองขายราคาถูกกว่าที่อื่น เพราะเลี้ยงเอง ทำเอง ไม่จ้างลูกน้อง แต่ก็ได้กำไรน้อย และยิ่งหากมีการปรับราคาค่าอาหารขึ้นอีกประมาณกระสอบละ 5-10 บาท ตนก็คงจะลำบากมากขึ้น ถึงตอนนั้นก็คงต้องปรับราคา หรือหากสู้ไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะต้องคิดใหม่ อาจต้องเลิกเลี้ยงเหมือนกัน ตอนนี้เท่าที่ทราบเกษตรกรที่เลี้ยงจำนวนมากนับหมื่นตัว แต่เลี้ยงด้วยเงินทุนตัวเอง สู้ต้นทุนไม่ไหว เลิกเลี้ยงไปแล้วจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
นอกจากนี้ น้องต้น ยังนำดูเล้าหมูของตนเองด้วย ที่ปกติมี 2 เล้า เลี้ยงหมูไว้ 21 ตัว หลังจากราคาอาหารแพงต่อเนื่อง และขายหมูชุดสุดท้ายออกไปทั้งหมด 21 ตัว ก็เลิกเลี้ยงทันทีมาปีกว่าแล้ว เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ทั้งราคาลูกหมูที่ขณะนั้นตกตัวละ 2,900 บาท และค่าอาหารที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ไม่เคยปรับลง จึงสู้ไม่ไหว จึงเลิกเลี้ยงไปแล้ว ขณะนี้ จึงรอดูค่าอาหารไก่ เป็ด ต่อไป เช่นกัน จึงอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องการต้นทุนค่าอาหาร ค่าปัจจัยต่างๆ รวมทั้งค่าไฟ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพราะไม่เช่นนั้นหากสู้ไม่ไหว คงเลิกเลี้ยงกันอีกมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: