ตรัง อบจ.ตรัง จัดงานย้อนวันวานเมืองเก่าห้วยยอด บอกเล่าวิถีชีวิตวันวาน วิกหนังจำลอง ละครเวทีบอกเล่าความรุ่งเรืองยุคเหมืองแร่ดีบุก นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย “พุทธศิลป์” โดยจิตกรชาวห้วยยอด และเพลิดเพลิน ชิม ช้อป อาหารท้องถิ่นรสเลิศ กว่า 100 ร้านค้า
ที่ลานวัฒนธรรมวัดห้วยยอด ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง อบจ.ตรัง ร่วมกับ เทศบาลตำบลห้วยยอด และ ชุมชนย่านเมืองเก่าห้วยยอด จัดงานย้อนวันวานเมืองเก่าห้วยยอด ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเก่าตรัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว และบริการ ในพื้นที่ชุมชนเมืองเก่าจังหวัดตรัง ให้กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมการท่องเที่ยวเมืองเก่าตรังให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อนุรักษ์เมืองเก่า และสืบทอดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของจังหวัดตรัง ให้คงอยู่คู่กับจังหวัดตรังต่อไป โดยการจัดงาน “ย้อนวันวานเมืองเก่าห้วยยอด” ครั้งนี้ มีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 11 สิงหาคม นี้
ไฮไลต์ของงานย้อนวันวันวานเมืองเก่าห้วยยอดที่ผู้มาเที่ยวงานสะดุดตาเป็นจุดแรก คือ โรงหนังหรือวิกหนังจำลอง ซึ่งในอดีตวิกหนังหรือโรงหนังสแตนอโลนในอำเภอห้วยยอด เป็นธุรกิจที่เฟื่องฟู และ เป็นที่นิยมของผู้คนในสมัยนั้น วิกหนังจำลองในงานนี้กั้นด้วยสังกะสี มีการเก็บค่าผ่านประตู เด็ก 5 บาท ผู้ใหญ่ 10 บาท ภายในเป็นเก้าอี้วางเรืองกันเป็นแถว ตกแต่งพนังด้วยภาพโปสเตอร์หนัง ผู้ที่มาเที่ยวงานต่างมาแวะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างที่สร้างสีสันให้งาน คือการแสดงละครเวทีที่บอกเล่าความเป็นมาของชุมชนห้วยยอด การเข้ามาของจีนโพ้นทะเล และการทำเหมืองแร่ดีบุก ที่อำเภอห้วยยอดมีความเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้แสดงทั้งหมดเป็นชาวบ้านในอำเภอห้วยยอด โดยเรื่องราวบอกเล่าถึงชุมชนการค้าตลาดห้วยยอด กิจการเหมืองแร่ดีบุกในอำเภอห้วยยอด ที่เฟื่องฟูมาตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เอื้อให้ผู้คนจากทั่วสารทิศย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ และชาวจีนโพ้นทะเลเป็นกลุ่มหลักที่เดินทางเข้า บางส่วนเดินทางออกจากประเทศจีนโดยตรงและส่วนหนึ่งมาจากปีนัง คนจีนเข้ามาเป็นกรรมกรเหมืองแร่ คนที่มีเงินจะเข้ามาลงทุนค้าขาย
ชุมชนการค้าตลาดห้วยยอดเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนโพ้น ทะเล ขณะที่ ผู้จับจ่ายใช้สอยใหญ่เป็นคนในพื้นที่และแรงงานเหมืองแร่ตลาดห้วยยอดในต้นทศวรรษ1960มีความคึกคัก นอกจากนี้บริเวณตลาดห้วยยอด เป็นที่ตั้งของตลาดสด 1แห่ง โรงฝิ่น 1แห่ง ธนาคาร 2 แห่ง โรงภาพยนตร์หรือวิกหนัง 2 แห่ง โรงแรม 4 แห่ง โรงงานยาง 2 แห่ง โรงขลิบยาง 1 โรง โรงไฟฟ้า 1 โรง โรงพิมพ์ 1 โรง โรงเลื่อย 1 โรง และ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุก 3 แห่ง
ทั้งนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย “พุทธศิลป์” โดยจิตกรชาวห้วยยอด อาจารย์สุจิน ปานสมุทร ซึ่งเติบโตมาจากช่างวาดคัตเอาท์โรงหนัง จนปัจจุบันเป็นจิตกรระดับประเทศ รวมถึงมีการจัดแสดงพระพุทธรูปโบราณที่ล้ำค่าหายากของวัดห้วยยอดอีกด้วย
ในงานยังมีกิจกรรมออกร้านจากร้านค้าชุมชน จำนวน 30 ร้านค้า ที่เน้นขายอาหารท้องถิ่นของอำเภอห้วยยอด เช่น ร้านขนมเค็ม , กุนเชียงหมูย่าง , ขนมพองเค็ม , เส้นหมี่น้ำแกง , หมึกย่างทรงเครื่อง , ก๋วยจั๊บโบราณ , ข้าวยำ เป็นต้น และร้านค้าทั่วไปอีกนับ 100 ร้านค้า ประชาชนที่เดินเที่ยวงานส่วนใหญ่แต่งกายชุดลายดอกสีสดใส และชุดย้อนยุค เพื่อให้เข้ากับงาน
นางภัทรศิราหรือหมออิส แสนดี เจ้าของเมนูข้าวยำพันล้าน by หมออิส บอกว่า เมนูพิเศษก็คือข้าวยำพันล้าน by หมออิส ซึ่งเป็นของดีของอำเภอห้วยยอด ซึ่งมีทั้งสูตรดั้งเดิมและสูตรธัญพืช โดยในข้าวยำที่ขาดไม่ได้หลักๆก็คือใบชะพลู ใบพาโหม ใบมะกรูด ถั่วฝักยาว ใส่แครอทสร้างสีสันและที่ขาดไม่ได้ก็คือ มะม่วงเพิ่มความเปรี้ยว ถั่วงอกที่เราเพาะเองปลอดสารพิษ และดอกดาหลาหั่นฝอย คุณสมบัติเยอะแยะมากมาย และยังมีลูกตะขบ ดอกไม้ที่สามารถทานได้นำมาใช้ ส่วนข้าวที่นำมาใช้ก็เป็นข้าวสังข์หยดซึ่งเป็นข้าวพื้นเมืองของภาคใต้ และตัวของน้ำกะปิ ทำจากน้ำบูดู นำมาเคี่ยวแบบฉบับของตัวเอง ผักทุกอย่างที่ได้มานำมาจากชุมชนหมดเลย และใบแรดนำมาห่อใส่ข้าวยำ ราคาขายห่อละ 50 บาท หากเป็นข้าวยำธัญพืชห่อละ 70 บาท ของเรามีการทำตลาดออกไปทำกับเซ็นทรัลกรุ๊ปด้วย ตอนนี้ยังไม่มีหน้าร้าน แต่จะวางจำหน่ายที่ร้านภูหลวงและร้านกาแฟเขาช่อง หากลูกค้าสนใจสามารถทักมาทางเพจข้าวยำพันล้าน by หมออิส
นางสุพิศ พรหมวิเศษ อายุ 72 ปี เจ้าของหมึกย่างทรงเครื่องจีเขียด บอกว่า ป้านำหมึกย่างทรงเครื่องจีเขียด มาขาย ซึ่งขายอยู่ที่ห้วยยอดมาเป็นระยะเวลา 55 ปีแล้ว จากเมื่อก่อนเคยขายไม้ละ 1 บาท ก็ขยับมาเรื่อยๆ ไม้ละ 5 บาทแล้ว ซึ่งในปัจจุบันถือว่าขายถูกมาก เพราะเศรษฐกิจตอนนี้ก็คือของแพงทุกอย่าง
