ตรัง เกิดเหตุเรือประมงพื้นบ้านล่ม ลูกเรือ 3 คน ลอยคอกลางทะเล จนท.อุทยานฯ ช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย และยังเข้าช่วยเหลือเรือประมงพื้นบ้านอีก 2 ลำ ลูกเรือรวม 7 คน ที่จอดเรือหลบลมพายุบริเวณหน้าเกาะกระดาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มไลน์ “ศรชล ภาค3” ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 100 คน เผยภาพและคลิปเหตุการณ์เรือประมงพื้นบ้านล่มกลางทะเลตรัง คลิปมีความยาว 17 วินาที พร้อมกับรายงาน ระบุว่า ในวันที่ 11 ส.ค.66 เวลา 11.15 น. ศรชล.จว.ตง.ฯ ได้รับแจ้งจาก นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ว่าเมื่อวันที่ 10 ส.ค.66 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ ที่ จม.3 (เกาะกระดาน) ประจำอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ให้ความช่วยเหลือเรือประมงพื้นบ้านของชาวบ้าน บ้านน้ำราบ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จว.ตรัง จำนวน 1 ลำ ลูกเรือบนเรือ จำนวน 3 คน
เกิดลมพายุพัดแรงจมเรือประมงพื้นบ้านในทะเลบริเวณพื้นที่เกาะกระดาน จว.ตรัง จนท.อุทยานฯ ได้ช่วยเหลือลูกเรือประมง 3 คน ที่เรือจมขึ้นฝั่งเกาะกระดานได้อย่างปลอดภัย และได้ช่วยเหลือเรือประมงพื้นบ้าน บ้านควนตุ้งกู ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จว.ตรัง ที่จอดเรือหลบลมพัดพายุบริเวณหน้าเกาะกระดานอีก จำนวน 2 ลำ ลูกเรือประมง 7 คน ขึ้นฝั่งเกาะกระดานได้อย่างปลอดภัย รวมลูกเรือประมงทั้งหมดที่ได้ทำการช่วยเหลือ จำนวน 10 คน ในเบื้องต้น จนท.อุทยานฯ ได้จัดหาอาหารพร้อมเครื่องดื่ม และจัดที่พักที่นอนให้กับลูกเรือประมงพื้นบ้านได้นอนพักผ่อน บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเกาะกระดาน และจะเร่งดำเนินการสำรวจเรือประมงพื้นบ้านที่จมบริเวณหน้าเกาะกระะดาน เพื่อดำเนินการต่อไป
ซึ่งนายพริษฐ์ฯ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้สั่งการให้ จนท.อุทยานฯ ที่ประจำเกาะกระดาน ร่วมกับชุมชนพร้อมเรือประมงพื้นบ้าน ดำเนินการสำรวจและเก็บกู้เรือประมงที่จมและนำขึ้นฝั่งเกาะกระดาน ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ซึ่งจากรายงานสภาพอากาศของเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประจำวันที่ 10 สิงหาคม 66 พบว่า จังหวัดตรังมีลมสูงสุด กำลังลม 29.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีปริมาณฝน 24 ชั่วโมง 5.4 มม. เช้าเกิดฟ้าหลัวชื้น มีน้ำค้างปานกลาง เมฆมาก ลมสงบ ตอนเที่ยง มีฝนตก เมฆมาก ลม 4-5 นอต ตอนบ่าย มีฝนตกลงมาอีก เมฆมาก ลม 6-7 นอต ตอนค่ำ มีฝนตกลงมาอีกครั้ง เมฆเต็มท้องฟ้า ลม 4-5 นอต ตอนดึก เมฆมาก ลมสงบ ทัศนวิสัยตลอดวัน 8-14 กิโลเมตร
และสภาพอากาศของจังหวัดตรัง พบว่าตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 13 สิงหาคม 66 จนถึงวันที่ 14 สิงหาคม ได้มีฝนตก และฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยล่าสุดเมื่อ 18.00 น.ของวันนี้ (14 สิงหาคม 66) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ออกประกาศเตือน พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังในระยะสั้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ (อ.บุ่งคล้า) , ภาคใต้ จ.ระนอง (อ.กระบุรี กะเปอร์ สุขสำราญ) พังงา (อ.เมืองฯ กะปง คุระบุรีท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) ตรัง (อ.ปะเหลียน ย่านตาขาว) สตูล (อ.เมืองฯ มะนัง) นครศรีธรรมราช (อ.ทุ่งสง) พัทลุง (อ.กงหรา) และสงขลา (อ.สะเดา) ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า เพิ่มความระมัดระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง
พื้นที่เฝ้าระวังดินถล่ม ภาคใต้ จ.ระนอง (อ.สุขสำราญ) และพังงา (อ.เมืองฯ กะปง) ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ.พื้นที่เสี่ยงเชิงเขาระวังอันตรายจากดินถล่ม
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ภาคกลาง จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และ ภาคใต้ จ.ระนอง ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง นักท่องเที่ยวควรงดเล่นน้ำทะเล สิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณชายทะเล ระมัดระวังผลกระทบจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง
