เกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วภาคใต้และทั่วประเทศ กำลังประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยขณะนี้ราคาน้ำยางสดจุดรับซื้อทั่วไปลดเหลือประมาณกก.ละ 35- 39 บาท แทบจะซื้อน้ำมันเติมรถ 1 ลิตรไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงซื้อหมู ซื้อไก่ ยางก้อนถ้วยเหลือกก.ละ 17-18 บาท ขณะที่ฝนก็ตกชุกแทบไม่ได้กรีด พอกรีดก็ไม่ได้ราคา ทำเกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก รายได้สวนทางกับค่าสินค้าต่างๆ ส่วนสหกรณ์แปรรูปน้ำยางสดเป็นยางแผ่นรมควันเกือบทั้งหมดเลิกกิจการทำยางแผ่นรมควันชั่วคราว เนื่องจากขาดทุน เพราะราคาน้ำยางสดกับราคายางแผ่นรมควันแทบจะเท่ากัน เกษตรกรทุกราย กล่าวว่า วอนฝ่ายการเมืองเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็ว และเร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือเกษตรกร โดยสมัยหนึ่งที่คนของพรรคเพื่อไทย ( ชื่อพรรคปัจจุบัน) เป็นรัฐบาล ราคายางเคยพุ่งไปถึงกก.ละ 180 บาท ทำเกษตรกรอยู่ดีกินดี มาถึงเวลานี้ราคายางไม่ต้องถึงกก.ละ 100 บาท ขอแค่กก.ละ 50 -60 บาท เกษตรกรก็พออยู่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นลูกจ้างกรีด แบ่งรายได้คนละครึ่งกับเจ้าของสวน หรือบางเจ้าแบ่ง 60:40 ( เจ้าของสวนได้ 60 ลูกจ้างกรีดได้ 40) ทั้งหมดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าราคายางที่ขายได้อยู่ขณะนี้ไม่พอค่าใช้จ่ายแต่ละวัน ลูกเรียนหนังสือ ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ธกส. บางส่วนเป็นหนี้นอกระบบ ทั้งนี้ หลักฐานยืนยันชัด สังเกตจากป้ายประกาศราคายางพาราหน้าโรงงานใหญ่ จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา (ก.ค.-ส.ค.) ราคายางพาราไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย น้ำยางสดเฉลี่ยกก.ละ 35 – 40 บาทเท่านั้น
เช่น ราคาหน้าโรงงานวันที่ 23 มิถุนายน ราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 46.50 บาท ยางแผ่นดิบกก.ละ45.50 บาท น้ำยางสดกก.ละ 42 บาท , วันที่ 20 กรกฎาคม ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 45 บาท ยางแผ่นดิบกก.ละ 44 บาท น้ำยางสดกก.ละ 40 บาท , วันที่ 4 สิงหาคม ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 43.50 บาท ยางแผ่นดิบ กก.ละ 42.50 บาท และน้ำยางสดกก.ละ 37.50 บาท และวันที่ 14 สิงหาคม ยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 กก.ละ 43 บาท ยางแผ่นดิบกก.ละ 42 บาท และน้ำยางสดกก.ละ 40 บาท ซึ่งในที่นี้ สถานการณ์จริงคือ ราคายางทุกชนิดที่จุดรับซื้อทั่วไป ทั้งราคาน้ำยาง ยางแผ่นรมควัน และยางแผ่นดิบ เกษตรกรจะขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาหน้าโรงงานประมาณกก.ละ 2-3 บาท โดยราคาหน้าโรงงานเป็นราคาที่รับซื้อจากพ่อค้าคนกลาง จากสถาบันเกษตรกรต่างๆเท่านั้น เช่น ราคารับซื้อน้ำยางสดหน้าโรงงานกก.ละ 40 บาท เกษตรกรขายจุดรับซื้อได้ราคากก.ละ 37 -38 บาท หรือน้ำยางสดหน้าโรงงานกก.ละ 37 บาท เกษตรกรขายได้จริงจุดรับซื้อทั่วไปกก.ละ 34 -35 บาทเท่านั้น นอกจากนั้น ในส่วนของสหกรณ์ต่างๆ ที่รับซื้อน้ำยางสดมาแปรรูปทำยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ต่างเลิกกิจการชั่วคราว หันส่งน้ำยางสดขายให้แก่เอกชนแทน ซึ่งแม้ขายน้ำยางสดแบบซื้อมาขายไป สหกรณ์ก็ไม่ได้กำไรเช่นกัน เพราะส่วนต่างน้อย ทำสหกรณ์แปรรูปยางแผ่นรมควันทั่วทั้งจังหวัดหยุดผลิตยางแผ่นรมควันเกือบทั้งหมด
นางณัฐธยาน์ แท่นมาก ชาวสวนยางพารา ต.ช่อง อ.นาโยง บอกว่า ตอนนี้ยางพาราตกต่ำอย่างมาก ยางก้อนถ้วยเหลือกก.ละ 17-18 บาท น้ำยางสดเหลือกก.ละ 38-39 บาท บางช่วงเหลือ 35-36 บาท ซึ่งถือต่ำมาก ส่วนตัวอยากให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ตอนนี้เหมือนเกิดช่องว่างของรัฐบาล ซึ่งก็ไม่ทราบว่าตลาดยางพาราอยู่อย่างไร ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ก็จะได้รู้ว่าทิศทางการบริหารเรื่องยางไปในทิศทางไหน อย่างไร ประชาชนก็จะได้ติดตาม เพราะตอนนี้เศรษฐกิจครัวเรือนของชาวสวนแย่มาก อยากให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็ว และอยากให้ฝ่ายการเมืองอย่ามัวแต่ทะเลาะกัน อยากให้หันมองว่า ในเมื่อเลือกตั้งกันเสร็จแล้วก็ควรจะหันมามองชาวบ้านแล้ว ไม่ใช่มัวแต่แก่งแย่งอะไรกัน เพราะประชาชนรออยู่
ทางด้านนายชอบ ประจงใจ ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทุ่งต่อ จำกัด ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งปกติจะรับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกรมาผลิตยางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ขายตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา บอกว่า แต่ขณะนี้ต้องปล่อยโรงรมร้างไว้ เพราะเลิกแปรรูปยางแผ่นรมควันชั่วคราว เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำ ราคาน้ำยางสดกับราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ราคาแทบจะไม่ห่างกัน แค่ประมาณ กก.ละ 1-2บาท ซึ่งไม่คุ้มทุน ทำให้ทำยางแผ่นรมควันไม่ได้ ปัจจุบันจึงรับซื้อน้ำยางสดขายวันต่อวันให้แก่บริษัทเอกชน และขายผ่านตลาดกลางยางพารา แต่ข้อเสียคือ เอกชนเป็นฝ่ายกำหนดราคารับซื้อ ทำให้ชาวสวนถูกเอาเปรียบ ซึ่งราคายางตก ทั้งชาวสวนและสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเดือดร้อนกันอย่างหนัก อยากได้รัฐบาลใหม่โดยเร็ว และให้เร่งแก้ไข โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทั้งระบบ ทั้งโครงสร้างด้านราคา ให้กำกับควบคุมการรับซื้ออย่างใกล้ชิด กรณีการขายน้ำยางสดผ่านตลาดกลางยางพารา ทาง กยท.ก็ควรจะต่อรองราคากับบริษัทเอกชนด้วย เพื่อเรียกร้องราคาให้ชาวสวน และให้การรับซื้อของโรงงานเป็นไปโดยปกติ ไม่ให้มีการตีกลับน้ำยางสด โดยยกข้ออ้างเรื่องคุณภาพน้ำยาง เป็นต้น และช่วงนี้ฝนตกหนักชาวบ้านไม่ค่อยได้กรีด ในนามของเกษตรกรชาวสวนยางอยากฝากถึงรัฐบาลใหม่ให้เข้ามาดูแลราคายางให้ดีกว่านี้ เพราะสินค้าอื่นทุกชนิดราคาสูง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: