คุณลุงวัย 57 เดินทางลำพัง จากเมืองตรัง สู่เมืองร้อยเอ็ด โดยใช้เวลากว่า 29 ชม. เพื่อกลับบ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากมาร่วม 40 ปี เพื่อไปพบหน้าญาติพี่น้อง และทำบัตร ปชช.ครั้งแรก เพื่อจะได้ใช้สิทธิต่างๆ เสียที
วันที่ 5 ก.ย.66 นับเป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นโดยการช่วยเหลือและประสานงานของเจ้าหน้าที่ที่ว่ากาอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง และชาวตำบลหนองปรือ เพื่อช่วยให้คุณลุงคนหนึ่งที่จากแดนอีสานมายาวนานถึง 40 ปี แล้วมาอาศัยทำมาหากินอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง จนกระทั่งล่าสุดได้มีโอกาสเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง อย่างที่เจ้าตัวก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ได้ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของบรรดาญาติพี่น้อง ที่อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นายปรีชา นรัษฎา ปลัดอำเภองานทะเบียนราษฏรและงานบัตรประจำตัวประชาชน ที่ว่าการอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง หลังได้รับแจ้งจาก นายเขียน ปิ่นอำคา อายุ 57 ปี ซึ่งมาพักอาศัยและทำงานอยู่กับ นางกัลยา เที่ยงธรรม ที่บ้านเลขที่ 301 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง แต่ที่ผ่านมา นายเขียน ไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อนเลย เพราะได้หนีออกจากบ้านเกิดที่หมู่ที่ 6 บ้านดงบัง ตำบลหนองขุ่นใหญ่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว เพื่อเดินทางมาทำเหมืองแร่ดีบุก ที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา นายเขียน เริ่มมีอายุมากขึ้น และประสบความยากลำบากในการรักษาตัวยามเจ็บป่วย เนื่องจากเจ้าตัวไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนเลย และติดต่อญาติพี่น้องที่อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ได้ ดังนั้น นายเขียน จึงมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฏรและงานบัตรประจำตัวประชาชน ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย ดังนั้น ด้วยการประสานงานของที่ว่าการอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง จึงได้ออกหนังสือส่งตัว นายเขียน ไปยังที่ว่าการอำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เพี่อให้เกิดความสะดวกในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ และช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
ล่าสุด นายเขียน จึงเดินทางโดยลำพัง ที่มีเพียงเครื่องใช้ส่วนตัวและเครื่องนุ่งห่ม ด้วยการนั่งรถไฟจากจังหวัดตรัง ไปลงที่กรุงเทพฯ แล้วต่อรถไฟสายกรุงเทพ-หนองคาย เพื่อไปลงที่จังหวัดขอนแก่น ก่อนนั่งรถสามล้อไป บขส. เพื่อขึ้นรถตู้สายขอนแก่น-อำนาจเจริญ แล้วไปลงที่อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพี่ชายชื่อ นายสอน ปิ่นอำคา ก่อนเดินทางไปยังบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อพบหน้ากับบรรดาญาติพี่น้องที่จากกันมาร่วม 40 ปี ท่ามกลางความดีใจ ความรัก และความอบอุ่น รวมทั้งได้ไปทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อย ณ ที่ว่าการอำเภอหนองพอก ทำให้ นายเขียน มีสิทธิในการรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย หรือมีสิทธิอื่นๆ ได้แล้ว รวมใช้ระยะเวลาการเดินทางจากจังหวัดตรัง ถึงบ้านดงบัง จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 29 ชั่วโมง 20 นาที
