ตรัง ผู้ประกอบการโรงแรม ขานรับนโยบายฟรีวีซ่า พร้อมรับนักท่องเที่ยว ชาวจีน และ คาซัคสถาน เชื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จังหวัดชายทะเลอันดามัน ช่วงไฮซีซั่น จนถึงเทศกาลตรุษจีน ด้านสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรม จังหวัดตรัง เสนอนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ช่วยปลดล็อกพื้นที่ 119 กิโลเมตร ชายทะเลตรังเป็นพื้นที่พิเศษด้านการท่องเที่ยว
วันที่ 14 ก.ย.66 จากการที่รัฐบาลชุดใหม่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยนโยบายฟรีวีซ่า (Free visa) แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวอินเดีย เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจาก 2 ประเทศนี้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สำหรับเรื่องที่สมาคมด้านการท่องเที่ยว และ ผู้ประกอบการโรงแรมใน จ.ตรัง เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในจ.ตรัง รวมทั้งจังหวัดชายฝั่งทะเล อันดามันได้
โดยนางจงกลนี อุตสาหะ นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า การที่ประเทศไทยจะเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว ชาวจีนและอินเดียนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ท่องเที่ยวในจ.ตรัง มากขึ้น รวมทั้งจีนทางมาเลเซีย และจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผู้ประกอบการตรังก็เตรียมรับนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเข้ามามากขึ้นทุกปี ด้วยการจัดอบรมภาษาจีนให้กับผู้ประกอบการ ในขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในตรังก็เดินทางไปประเทศจีน เพื่อไปทำการตลาด ชักชวนให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวจ.ตรัง เพราะทะเลตรังมีความสวยงาม และเกาะกระดาน อ.กันตัง คว้าแชมป์ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 จากการจัดอันดับของ เว็บไซต์ World beach guide
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียถือว่าเป็นเป้าหมายอีกกลุ่ม เพราะนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อ นิยมมาชอปปิงในไทย เช่น ซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องไฟฟ้า กลับไปประเทศ ของเขา
แต่จ.ตรัง ก็มีปัญหาเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่อุทยานเป็นส่วน ใหญ่ จึงอยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ช่วยปลดล็อกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเจ้าไหม 119 กิโลเมตร ชายทะเลตรังให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก เพราะปัจจุบันชายทะเลตรังเรายังขาดโรงแรมรีสอร์ตขนาดใหญ่ หากนักธุรกิจสามารถมาลงทุนได้ จะสามารถจูงใจนักท่องเที่ยวระดับบนได้ และ จ.ตรังจะได้มีเม็ดเงินภาคท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
นางจงกลนี กล่าวต่ออีกว่า ปีนี้แล้วมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวตรัง จำนวน 15% ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ซึ่งถือเป็นจำนวนไม่สูงนัก ปัจจัยหนึ่งมาจากจ.ตรัง ยังขาดบุคลากรที่มีความรู้เรื่องภาษาจีน ทำให้การสื่อสารมีความลำบาก แม้ว่าในมือถือจะมีแอพลิเคชั่นแปลภาษา แต่ก็ไม่ได้มีศักยภาพเท่ากับการสื่อสารระหว่างคน ตลอดทั้งมีปัญหาเรื่องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ด้าน น.ส.เกศกนก ตันเฮงชวน ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด โรงแรมเรือรัษฎา กล่าวว่า การจะเปิดฟรีวีซ่าควรจะมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน หากจะคิกออฟโครงการในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ ควรจะเป็นฟรีวีซ่า 6 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคม ซึ่งผู้ประกอบการเองจะได้วางแผน การขายแพคเกจต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ปัจจุบันนี้ลูกค้าของโรงแรมเรือรัษฎา เป็นกลุ่มจีนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งกลุ่มจีนแผ่นดินใหญ่ จีนจากมาเลเซีย ถ้าหากฟรีวีซ่าครอบคลุม ถึงปีใหม่ และตรุษจีน จะเป็นผลดีอย่างมาก
ในส่วนของโรงแรมเรือรัษฎาฯ เรามีความพร้อมรับท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่แล้ว เพราะได้ทำการตลาดกับนักท่องเที่ยวจีนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งก่อนสถานการณ์โควิด19
โดยก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดตรัง ได้ทำการตลาดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการทำการตลาดที่ได้ผล ผู้ประกอบการได้ทราบว่าควรจะไปจับลูกค้ากลุ่มไหน เมืองไหน เพราะจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และสนามบินตรังกำลังจะเป็นสนามบินนานาชาติ จะเป็นผลดีที่จะนำนัก ท่องเที่ยวเข้ามา.ตรัง ได้สะดวกและง่ายขึ้น เพราะการทำแพคเกจแบบ บินตรง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้
น.ส.เกศกนก กล่าวอีกว่า การกระตุ้นฟรีวีซ่า สำหรับจังหวัดชายฝั่งทะเล อันดันดามัน ตนมองว่า จ.กระบี่ , จ.ภูเก็ต ยังคงเป็นพื้นที่หลักของนักท่องเที่ยว แต่จ.ตรังก็ถือว่ามีส่วนได้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว และต่อจากนี้จ.ตรังควรทำแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวให้ชัดเจนขึ้น
