X

ตรัง หนุ่มอดีตพนง.บริษัทประกันภัย ผันตัวเองเพาะแคคตัสขายทั่วโลก รายได้นับแสนต่อเดือน

ตรัง หนุ่มวัย 25 ปี อดีตพนง.บ.ประกันภัย ประสบปัญหาโควิดลาออกจากงานในเมืองกรุง กลับบ้านหันปลูกกระบองเพชรหรือแคคตัส ส่งขายทั่วโลก เจ้าแรกเจ้าเดียวในจ.ตรัง สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน 

ที่บ้านเลขที่ 272 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายสิรวิชญ์ มากแก้ว อายุ 25 ปี ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรปลูก และเพาะขายพันธุ์ต้นกระบองเพชร หรือแคคตัส ส่งขายออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เวลาในการลงมือทำรวมกันประมาณ 3 ปี จนประสบความสำเร็จในขณะนี้สร้างโดยรายได้เข้ากระเป๋าเดือนละนับแสนบาท

 

โดย นายสิรวิชญ์ บอกว่า ตนเองเรียนจบการศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาวิชาสถิติธุรกิจและการประกันภัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หลังจบทำงานด้านการประกันภัยที่กรุงเทพฯ ปรากฏว่าประสบปัญหาโควิด ทำให้ตนเองอยากกลับบ้าน แต่ก็คิดว่าจะทำงานอะไรดี เมื่อเห็นแคคตัสจึงรู้สึกชอบ และสนใจ จึงเริ่มทดลองเลี้ยง และคิดว่าทำอย่างไรให้เป็นธุรกิจได้ จึงลองสร้างตลาดดู จึงใช้วิธีซื้อมาขายไปก่อน ไม่ได้ทำเพาะขยายพันธุ์เอง ปรากฏว่าทำได้ ขายได้ มีลูกค้า จึงได้ทดลองวางอนาคตดูว่าจะต่อยอดไปได้หรือไม่ ตอนแรกแค่ขายในไทย จากนั้นจึงเริ่มเจาะตลาดต่างชาติได้ จึงลาออกจากงานประจำดังกล่าว จึงเริ่มต้นทำจริงจัง สร้างโรงเรือนขึ้นมา 2 โรง โดยโรงหนึ่งเป็นโรงเพาะเมล็ด ,โรงอนุบาล ส่วนอีกโรงเนื้อที่ 200 ตารางเมตร เป็นโรงปลูก เริ่มต้นด้วยการซื้อพ่อแม่พันธุ์จากที่อื่นมาก่อน โดยคิดว่าอยากได้ลูกไม้ลักษณะแบบไหน ก็ซื้อพ่อแม่พันธุ์มา จากนั้นนำมาผสมแล้วเกิดเมล็ดมา ก็นำเมล็ดไปเพาะ ซึ่งเมล็ดแต่ละต้นเกิดจากจินตนาการของตน เพราะว่าอยากได้ลูกแบบไหน ก็สามารถเลือกพ่อ เลือกแม่พันธุ์มาผสมได้ ซึ่งเมล็ดแต่ละฝักที่ได้จะเกิดจากจินตนาการของผู้เลี้ยงจริงๆ นอกจากนั้นก็มีการสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศด้วย เพื่อนำเข้าพ่อแม่พันธุ์แท้ 100% หวังนำมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป จากนั้นก็นำมาเพาะขยายและผสมพันธุ์ด้วยจิตนาการของตนเอง ทำให้ต้นไม้ที่ได้แต่ละต้นจะมีสีสันเพียงหนึ่งเดียว ไม่ซ้ำใครหรือต้นไหน

ต้องสร้างเอกลักษณ์ให้พันธุ์ไม้ของเราเอง ทั้งสีสัน รูปทรง ก็ต้องพัฒนาต่อไป พร้อมกับสร้างแบรนด์ของเราเอง สร้างจุดขายว่าสวนของเราจะสร้างไม้แบบนี้ โดยขณะนี้ทำมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ให้ได้รับความสนใจมากทั้งในและต่างประเทศ ภาพรวมมีในแปลงปลูกขณะนี้นับหมื่นต้น ส่วนมากที่เลี้ยงคือ พันธุ์ยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) เพราะส่วนตัวชอบวิวัฒนาการของมัน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีสีสัน ทำให้สามารถต่อยอดได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด สามารถนำมาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์เป็นลูกผสม ให้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากต้นเดิม ทั้งสีสัน รูปร่าง รูปทรง รวมทั้งจากมีหนาม ไม่ให้มีหนาม หรือจากไม่มีหนามให้มีหนาม หรือให้มีด่าง ตอนต้นเล็กลักษณะหนึ่ง พอต้นโตก็เป็นอีกแบบหนึ่ง สวยงามไม่เหมือนกันสักต้น ถือเป็นเสน่ห์ของกระบองเพชรสายพันธุ์นี้ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไม้ที่ได้อย่างไม่หยุดนิ่ง มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ต้นละหลักสิบถึงหลักหมื่นบาท

ยกตัวอย่างไม้ตระกูลไดโนเสาร์ บั้งนูนเหมือนหลังไดโนเสาร์  แค่ต้นเล็กๆราคา 2.5 หมื่นบาท ตลาดหลักตอนนี้ 90% เป็นตลาดต่างประเทศ เพราะตนเองวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หวังเจาะตลาดต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยมีคนทำ แต่เป็นพันธุ์ไม้ประดับทั่วไป แต่พันธุ์ไม้ของตนเป็นพันธุ์ไม้สวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ จึงหันเจาะตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เป็นพันธุ์ไม้ที่มีการจัดประกวด ซึ่งหากมีการส่งเข้าประกวดจะสามารถเพิ่มมูลค่าของไม้ของเรา มีคนรู้จักมากขึ้น ซึ่งตลาดตอนนี้ก็ถือว่ากว้างมากสามารถขยายตลาดไปได้เรื่อยๆ เพราะต่างประเทศแม้ว่าจะสามารถเลี้ยงได้ แต่สภาพอากาศไม่เหมาะสม ต้นไม้ของเขาจึงโตช้าและพัฒนาได้ช้ากว่าเรา แต่ประเทศไทยสภาพอากาศเหมาะสมกว่า จึงสามารถพัฒนาป้อนตลาดได้รวดเร็วกว่า ซึ่งขณะนี้ต่อเดือนสร้างรายได้ประมาณ 50,000-200,000 บาท และถือเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในจังหวัดตรัง โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ทั้งทางอินสตาแกรม SouthernStarvalley_store , เพจ jays_cactus เฟสบุ๊ก ชื่อ บ้านสวนหุบเขาดาวใต้ หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 097-9261919 พร้อมบอกไปถึงคนที่สนใจว่า พันธุ์ไม้ชนิดนี้เหมือนเลี้ยงยาก แต่ความจริงเลี้ยงง่ายสำหรับคนที่สนใจ และสามารถต่อยอดไปเป็นธุรกิจได้ด้วย

ทั้งนี้ แคคตัส ไม่ได้เป็นเพียงพืชประดับตกแต่ง เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นพืชมงคลที่หลายคนเชื่อว่า ทำให้อายุยืนยาว และป้องกันศัตรูเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน