ตรัง-กลุ่มปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย กระทบนโยบายรัฐไม่แน่นอน ทำผลผลิตกัญชาอบแห้งที่เคยผลิตไว้ป้อนกองยา และโรงพยาบาล ค้างคาโรงเก็บบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก ขณะนี้แปลงปลูกกัญชาต้องกลายเป็นแปลงปลูกมะเขือเทศ รัฐควรมีนโยบายให้ชัดเจน หากเพื่อการแพทย์ก็ต้องส่งเสริมและผลิตหรือใช้เพื่อการแพทย์อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นเกษตรกรลงทุนแล้วไม่มีพื้นที่จำหน่ายเหมือนที่ผ่านมา
จากกรณีที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา ภายใต้นโยบายของพรรคการเมืองหนึ่ง ประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชงได้อย่างเหมาะสม ทั้งปลูกใช้ในครัวเรือน ดูแลผู้ป่วย หรือเชิงพาณิชย์ ทำให้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายอย่างมาก ขณะที่วิสาหกิจชุมชนที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง ก็มีการปลูกอย่างจริงจัง เพื่อนำผลผลิตจำหน่ายเพื่อการแพทย์ แต่ขณะนี้เมื่อรัฐบาลใหม่ประกาศจะยกเลิกกัญชาเสรี ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างไม่มั่นใจกับนโยบายจะไปในทิศทางใด
โดยที่วิสาหกิจชุมชนบ้านควนสุขภาวะ หมู่ 4 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชุมปลูกกัญชา เพื่อใช้สำหรับทางการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านนั้น นางการะเกด สรพิพัฒน์ แกนนำวิสาหกิจชุมชนบ้านควนสุขภาวะ นำผู้สื่อข่าวดูการลงทุนกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ ทั้งโรงเรือนปลูกกัญชาแบบออแกนิกส์ของกลุ่มที่ลงทุนสร้างไว้สามารถปลูกกัญชาได้ไม่ต่ำกว่า 100 ต้น พร้อมเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ และห้องบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อหวังผลิตกัญชาส่งขายใช้ทางการแพทย์ แต่ขณะนี้พบว่าแปลงปลูกดังกล่าว เหลือต้นกัญชาเพียง 2 ต้นเท่านั้น โดยนางการะเกด เล่าว่า ช่วงที่มีการปลดล็อกกัญชา ก็มีการประสานกับกองยา กรมการแพทย์แผนไทย และโรงพยาบาลห้วยยอด ในการผลิตกัญชาป้อนเพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ โดยเก็บช่อดอกและเมล็ด ป้อนกองยา กรมการแพทย์แผนไทย และผลิตใบอบแห้ง ป้อนโรงผลิตยาแผนโบราณโรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง ส่วนลำต้นและราก ทางกลุ่มวิสาหกิจทำเป็นกัญชาดองน้ำผึ้ง และกัญชาดองเหล้า ขณะที่ใบแห้งอีกส่วนหนึ่งได้นำไปทำชากัญชา ซึ่งบูมมากในช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่หลังจากนั้นมาทางกองยา กรมการแพทย์แผนไทย และโรงพยาบาลห้วยยอด จ.ตรัง ก็ไม่ได้มีการสั่งออเดอร์เข้ามาอีกเลย จึงต้องเลิกปลูก เหลือไว้เพียงต้นสองต้นเท่านั้น เพื่อเอาไว้ผลิตส่งลูกค้าของตัวเองง ส่วนที่ห้องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสร้างอย่างมิดชิดและได้มาตรฐาน ขณะนี้กลายเป็นที่จัดเก็บผลผลิตกัญชาที่ผ่านการอบแห้งแล้วทั้งหมด รอการส่งขายให้แก่ กองยา และรพ.ห้วยยอด ทั้งช่อดอกกัญชา ต้นกัญหาอบแห้ง กิ่งก้านสาขากัญชา รากกัญชา ใบกัญชา โดยจัดเก็บไว้อย่างดี หลังจากไม่มีออเดอร์เพื่อการแพทย์เข้ามาอีกเลย
นางการะเกด บอกว่า ทางกลุ่มจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย พอรัฐเปิดเสรี ไม่จำกัดการปลูก ก็ปลูกเต็มพื้นที่โรงเรือนที่สร้างขึ้นประมาณ 100 ต้น เพื่อจะส่งจำหน่ายเพื่อการแพทย์ให้กับกองยา กรมการแพทย์แผนไทย และโรงพยาบาลห้วยยอด ตามที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ได้ส่งไม่กี่ครั้งเขาก็เลิกสั่ง อาจเป็นเพราะมีคนปลูกกันมากหรือเปล่าไม่แน่ใจ หรือยังมีการผลิตยาแผนไทยอีกหรือไม่ ไม่มีใครทราบ ทำให้ยังคงมีผลผลิตกัญชาอบแห้งทุกส่วนเหลืออยู่ในสต็อกห้องเก็บบรรจุภัณฑ์อีกจำนวนมาก ทำให้ต้องเลิกปลูกเพิ่ม ปลูกเพียงเล็กน้อยๆ ไว้ทำผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม เช่น รากกัญชาดองน้ำผึ้ง รากกัญชาดองเหล้า ชาใบกัญชาส่งขายให้กับลูกค้าที่รักสุขภาพและเห็นประโยชน์ของกัญชาเท่านั้น แต่ไม่มาก ทั้งนี้ ทางกองยาได้ขาดการติดต่อกันไปเลย ส่วนโรงพยาบาลก็ไม่แน่ใจว่ายังผลิตอยู่หรือไม่เช่นกัน ซึ่งรัฐควรจะมีนโยบายให้ชัดเจน เมื่อต้องการใช้ทางการแพทย์ก็ควรส่งเสริมการปลูกและนำผลผลิตใช้อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ส่วนกลุ่มของตนเองไม่เป็นไร ใช้โรงเรือนกัญชามาปลูกมะเขือเทศแทน เพราะสามารถกินได้ และขายได้มีตลาดแน่นอน เพราะปกติก็ปลูกพืชผักออแกนิกส์หลายชนิด รวมทั้งข้าว เพื่อสุขภาพอยู่แล้ว จึงไม่เดือดร้อนอะไร และทำผลิตภัณฑ์กัญชาขายให้ลูกค้าส่วนตัวอยู่บ้าง แต่สำหรับคนที่ลงทุนทำเรื่องเดียวเฉพาะกัญชาเขาอาจเดือดร้อนได้ หากตลาดการแพทย์ก็ไม่ชัดเจน รัฐบาลจึงควรชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมากัญชากลายเป็นพืชการเมือง ขั้นต้นที่กลุ่มได้รับอนุญาตมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เกิดจากการผลักดันทางการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่ง เริ่มต้นจากกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งยังควบคุม ซึ่งตอนนั้นทำได้น้อย แต่กลุ่มก็มีตลาด แต่พอเปิดเสรีทำให้ทุกคนสามารถปลูกได้หมด ทำให้ผลผลิตล้น จากเดิมเคยมีข้อตกลงกับกองยา กับอย.แต่ตอนหลังมาก็ไม่ได้รับซื้อแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้ต่อไป รัฐบาลนี้สนับสนุนกัญชาในเชิงการแพทย์และสุขภาพ ฟังดูก็ชัดเจนว่าเป็นนโยบาย แต่จะออกมาเป็นกฎหมายหรือไม่ คงต้องรอดูความชัดเจนจากรัฐบาล ดังนั้น ตอนนี้ที่ลงทุนไปแล้วจึงต้องเพิ่งตนเองเท่านั้น เพราะส่วนตัวก็ทำเกษตรอยู่แล้ว อะไรที่ทำแล้วกินได้ ขายได้ ก็หันมาทำอันนั้น ส่วนตัวก็จะรอความชัดเจนต่อไปถ้ารัฐยังสนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างจริงจังต่อไป ก็พร้อมจะปลูกและทำต่อไป
