X

ตรัง- ราคาผักพุ่งรับกินเจแม่ค้าโอดต้นทุนค่าขนส่งสูง

ตรัง-ราคาผักพุ่งรับกินเจ ด้านแม่ค้าโอดพาณิชย์มีนโยบายปรับราคาสินค้าบางชนิดลง เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ส่วนของพ่อค้าแม่ค้าอยากให้ปรับราคาน้ำมันลงอีก จะทำให้ราคาสินค้าลดลงโดยอัตโนมัติ ขณะนี้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นประมาณ 30%  เชื่อกินเจนี้ราคาผักยังพุ่งมากกว่าเดิม

จากการสำรวจราคาพืชผักตามตลาดนัดต่างๆ เช่น ที่ตลาดนัดเสริมเจตน์  ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง   แม่ค้าขายผัก  (คนแรกสวมผ้ากันเปื้อน)  บอกว่า ที่รัฐมีนโยบายจะลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือด้านค่าครองชีพแก่ประชชาชนนั้น อยากให้ลดราคาน้ำมัน อยากให้ควบคุมราคาสินค้าไว้ เพราะว่าหากลดราคาน้ำมันลงแล้ว แต่ราคาสินค้าไม่ควบคุมไว้ก็จะมีปัญหาอีก พ่อค้าแม่ค้าคนกลาง สามารถเอาเปรียบแม่ค้า พ่อค้าปลีกที่รับสินค้ามาจำหน่ายได้  ตอนนี้ใกล้เทศกาลกินเจราคาพืชผักเริ่มปรับราคาสูงขึ้นแล้ว เชื่อว่าพอถึงช่วงเทศกาลจริงราคาจะปรับสูงขึ้นอีก และบางชนิดอาจขาดตลาดได้  เช่น ฟักทอง ฟักเขียว กะหล่ำปลี ผักขาดขาว  เป็นต้น  ทั้งนี้ หากรัฐควบคุมราคาน้ำมัน ราคาพืชผักก็จะลดราคาลงมา และให้ควบคุมราคาปุ๋ยด้วย เพราะปุ๋ยยังแพง ซึ่งหากราคาปุ๋ยลดราคาสินค้าเกษตรจากมือเกษตรกรก็จะลดตาม เพราะปุ๋ยเป็นต้นทุนหลักของเกษตรกร

นางสาวพะเยาว์  คงฉาด เป็นชาว จ.กำแพงเพชร แม่ค้าขายผลไม้ บอกว่า ผลไม้ส่วนใหญ่รับจากตลาดไทย   ซึ่งปัจจุบันนี้ค่าขนส่งยังแพงมาก โดยเขาจะคิดค่าขนส่งประมาณร้อยละ 6 บาท ที่จะต้องจ่ายเพิ่ม  เช่น ถ้าเป็นผลไม้เป็นตะกร้า หากน้ำหนักตะกร้าละ 25 กิโลกรัม คำนวณราคาแล้วจะต้องจ่ายเพิ่มตะกร้าละ 40-50   บาท  หรือหากคิดเป็นกิโลกรัมจ่ายเพิ่มประมาณกก.ละ 4 บาท  ทั้งนี้ ถ้าลดราคาน้ำมันลงได้อีกจะช่วยลดต้นทุนได้มาก เช่น ตนเองเป็นชาวจ.กำแพงเพชร หากส่งสินค้าไปจังหวัดกำแพงเพชร จะต้องจ่ายค่าน้ำมันประมาณ 11,000 บาทต่อเที่ยว  ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์โควิดตนเองจ่ายเที่ยวละ 8,500 บาท  พอหลังจากนั้นเมื่อราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ตนเองต้องจ่ายเที่ยวละประมาณ  11,000  บาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30%   ดังนั้น อยากให้รัฐลดราคาน้ำมันลงมาอีก จะช่วยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  พ่อค้าแม่ค้าก็ต้นทุนลดลง ผู้บริโภคก็จ่ายน้อยลง

ทางด้านนางสุธาภรณ์ วันจันทร์  แม่ค้าขายผัก ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง  ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง  บอกว่า ใกล้ถึงเทศกาลกินเจ  ราคาพืชผักเกือบทุกชนิด ราคาส่งที่รับมาจากพ่อค้าคนกลาง พบว่าทยอยปรับราคาขึ้นแล้ว กก.ละ 20 -30 บาท ทำให้แม่ค้ารายย่อยต้องปรับราคาตาม  ซึ่งผักส่วนใหญ่สั่งซื้อมาทั้งจากจ.นครศรีธรรมราช , จ.พัทลุง และในพื้นที่ จ.ตรัง  โดยพริก จากกก.ละ 180 บาท ปรับเป็นกก.ละ 200 บาท  คะน้า จากราคากก.ละ 35 บาท ปรับเป็นกก.ละ 50 บาท ถึงเทศกาลกินเจต้องขึ้นอีกประมาณกก.ละ 60 -70 บาท  ขึ้นฉ่าย รับมาในราคาส่งจากราคากก.ละ 70 บาท วันนี้เพิ่งปรับขึ้นวันแรก ราคาส่งปรับเป็นกก.ละ 90 บาทแล้ว ต้องขายหน้าร้านกก.ละ 120 บาท   หัวไชเท้า จากราคากก.ละ 35 บาท เป็นกก.ละ 40 บาท  เชื่อว่าหลังจากนี้พืชผักก็จะมีการปรับราคาขึ้นอีก โดยเฉพาะเมื่อถึงวันกินเจวันแรก ( วันที่ 14 ตุลาคมนี้)   พืชผักที่ส่งมาจะปรับราคาขึ้นพรวดเลย เช่น คะน้า ปีก่อนๆ เคยปรับขึ้นถึงกก.ละ 60 -70 บาท   ส่วนสาเหตุเชื่อว่าปกติเทศกาลกินเจต้องใช้ผักจำนวนมาก  ประกอบกับปีนี้เกิดจากฝนตกชุก ทำให้พืชผักเสียหาย  และค่าขนส่งแพง  ขณะนี้บรรยากาศการขายพบว่า ค่อนข้างเงียบ ประชาชนไม่ค่อยออกมาซื้อไม่คึกคักเหมือนก่อน อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจคนไม่มีเงิน คนประหยัดกันมากขึ้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน