ตรัง-เจ้าหน้าที่รุดเยี่ยมครอบครัวแรงงานไทยชาวจ.ตรัง จำนวน 3 คน ที่ไปทำงานภาคการเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล จำนวน 3 คน ยืนยันทุกคนปลอดภัย อยู่ในที่ปลอดภัย เพราะทำงานอยู่พื้นที่ตอนกลางและทางตอนเหนือนอกเขตสู้รบ เบื้องต้น ยังไม่ประสงค์จะกลับประเทศ พร้อมที่จะทำงานต่อ ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งขั้นตอนการประสาน สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ หากประสงค์จะกลับประเทศ
จากการที่เกิดการสู้รบที่ประเทศอิสราเอลนั้น ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยที่ไปทำงานในภาคการเกษตรจำนวนมาก ต้องหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย บางส่วนก็เสียชีวิตจากการสู้รบดังกล่าว บางส่วนก็ปลอดภัย ในขณะที่ทางรัฐบาลก็มีความพยายามที่จะนำตัวแรงงานไทยที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศ โดยจัดส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศไปรับแรงงานไทย เพื่อให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีแรงงานไทยชาวจ.ตรัง ไปทำงานในภาคการเกษตรที่ประเทศอิสราเอล จำนวน 3 คน พบเป็นชาว อ.ห้วยยอด 2 คน ประกอบด้วย ชาว ต.วังคีรี และต.นาวง และชาว ต.ตะเส๊ะ อ.หาดสำราญ 1 คน ทุกคนปลอดภัย เพราะทำงานอยู่พื้นที่ตอนกลางและทางตอนเหนือนอกเขตสู้รบ และขณะนี้พักอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย
โดยที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 5 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายปณต สมาธิ อายุ 32 ปี แรงงานไทยชาวตรัง ที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยนางเอื้อ สมาธิ อายุ 65 ปี แม่ของนายปณต เล่าว่า ลูกชายปลอดภัยดี โดยเมื่อวานนี้ได้พูดคุยกัน ซึ่งลูกชายเดินทางไปทำงานตั้งแต่ประมาณกลางปี 2564 โดยเริ่มแรกไปทำงานที่ฟาร์มผัก แต่ต่อมาเปลี่ยนที่ทำงานใหม่เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ใกล้กับฉนวนกาซา โดยฟาร์มเดียวกันนี้มีคนไทยทำงานอยู่รวมกัน 2 คนเท่านั้น โดยเพื่อนคนงานไทยเป็นชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางนายจ้างไม่อพยพแรงงานทั้งหมดหลบหนีเข้าเขตภาคกลาง ไปอาศัยอยู่ในฟาร์มอนุบาลไก่อีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของนายจ้างห่างจากฟาร์มทางใต้แห่งแรกไปประมาณ 600 กม. ขณะนี้ปลอดภัยดี และเท่าที่พูดคุยกันลูกชายจะทำงานที่นั่นเป็นเวลา 5 ปี และบอกว่าเบื้องต้น สถานการณ์ยังปลอดภัย ก็คิดว่าจะไม่กลับไทย ซึ่งแม่ก็ขอว่าหากสถานการณ์ไม่ดีขอให้กลับบ้าน เพราะเป็นห่วง โดยลูกชายไปทำงานได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 50,000-80,000 บาท โดยส่งเงินมาให้แม่ต่อเติมปรับปรุงบ้าน และวางแผนจะสร้างบ้านใหม่ในที่ดินที่มีอยู่อีกสักหลัง ส่วนตัวบอกลูกว่า หากสถานการณ์ไม่ดี ขอให้กลับบ้าน เพราะที่บ้านครอบครัวก็ไม่ได้ลำบาก มีสวนยาง สวนปาล์ม สวนไผ่ มีที่ดินให้ลูกได้ทำงาน ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ลูกอยากไปทำ ลูกชอบงานเกษตรและเงินดี สวัสดิการดี โดยลูกบอกว่า ปีหน้าวางแผนจะลางานกลับมาเยี่ยมบ้านสัก 2 เดือน ทั้งนี้ หลังเหตุข่าวในทีวีก็รู้สึกเป็นห่วง แต่หายห่วงเมื่อลูกปลอดภัย และรู้สึกสงสารเห็นใจครอบครัวคนไทยที่ต้องสูญเสียลูก ตนขอให้กำลังใจทุกครอบครัว และขอให้คนไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันได้กลับมาอย่างปลอดภัย กลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัว ขอให้กำลังใจทุกคน
ทางด้านเจ้าหน้าที่จัดหางานจ.ตรัง เป็นตัวแทนกระทรวงแรงงาน และรัฐบาล ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวแรงงานไทยทั้ง 3 คน เพื่อให้กำลังใจครอบครัว และสอบถามความเป็นอยู่ของแรงงานทไทยตามที่ญาติได้มีการติดต่อ พร้อมแจ้งสิทธิประโยชน์ แนวทางขั้นตอนการช่วยเหลือ การติดต่อประสานงานกับสถานกงสุล และสอบถามความต้องการว่าต้องการจะกลับไทยหรือไม่ หากต้องการ ทางการพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ
โดยนางสาวเบญจวรรณ คงแก้ว นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ รักษาราชการแทนจัดหางานจ.ตรัง บอกว่า เบื้องต้น แรงงานไทยชาวตรังมี 3 คน โดยไปเยี่ยมบ้านแรงงานที่อยู่อ.ห้วยยอดแล้วทั้ง 2 คน ส่วนคนที่อยู่อ.หาดสำราญ ประสานผ่านญาติทราบว่า ส่วนใหญ่แรงงานคนดังกล่าวจะอาศัยที่ จ.บึงกาฬส่วนใหญ่ ทั้งนี้ จากการพูดคุยสอบถาม และได้ชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือ สิทธิที่จะได้รับ การติดต่อประสานงาน และสอบถามกับทางครอบครัวทราบว่า ทั้ง 3 คนปลอดภัยดี โดยส่วนแรงงานไทยชาว ต.ตะเส๊ะ อ.หาดสำราญ ก็ทำงานภาคตอนเหนือของประเทศอิสราเอล เช่นเดียวกับแรงงานชาว ต.วังคีรี อ.ห้วยยอด ทำงานที่โรงงานฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่ง อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอลเช่นกัน ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัย ก็ได้ไปพบคุณแม่ของแรงงาน และมาบ้านน้องปณต พบคุณแม่เช่นกัน ทั้ง 3 คนปลอดภัยดี ทุกคนไม่มีใครประสงค์จะกลับบ้าน อยากทำงานต่อ เพราะเห็นว่าที่อยู่ปลอดภัย นายจ้างดูแลอย่างดี แต่ก็ได้แจ้งขั้นตอนการติดต่อประสานงานกับทางการ ทางสถานกงสุล รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ หากไม่ปลอดภัยสามารถแจ้งความประสงค์ขอกลับได้ทันที ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยทางเจ้าหน้าที่จัดหางานจ.ตรัง ก็จะประสานงานสอบถามความเป็นอยู่และสถานการณ์ของแรงงานอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย
