ตรัง วันส่งตา-ยาย ตั้งหลาชิงเปรตคึกคัก ชาวตรังแห่เข้าวัดทำบุญสารทเดือนสิบ นำปิ่นโต อาหาร คาวหวาน ขนม และผลไม้ ไปถวายพระสงฆ์ อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ และญาติผู้ล่วงลับ
วันที่ 14 ตุลาคม 2566 บรรยากาศงานวันสารทเดือนสิบ หรือวันชิงเปรต ในพื้นที่ จังหวัดตรัง เป็นไปอย่างคึกคัก พุทธศาสนิกชน พาบุตรหลาน เดินทางไปทำบุญที่วัดจำนวนมาก โดย ต่างนำปิ่นโต อาหาร คาวหวาน ขนม และผลไม้ ไปถวายพระสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ และญาติผู้ล่วงลับ
โดยเฉพาะที่บรรยากาศช่วงเช้าที่วัดไทรทอง (วัดเกาะหยี) ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง และวัดห้วยนาง ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ประชาชนชาวตรังต่างจูงลูกจูงหลาน เข้าวัดร่วมทำบุญส่งตายายคึกคัก ซึ่งเป็นประเพณีของปักษ์ใต้ที่ยึดถือปฏิบัติกันมายาวนาน เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษปู่ย่าตายายที่สืบสายกันมา ทำให้ทุกวัดหนาแน่นไปด้วยประชาชนที่เข้าวัดส่งตายายกลับภพภูมิเดิมที่จากมาหารับบุญกุศลจากลูกหลาน เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีทำบุญเดือนสิบภาคใต้ให้คงอยู่สืบไป ซึ่งในศาลาโรงธรรม เนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชน ซึ่งการทำบุญวันสารทเดือนสิบ หรือวันชิงเปรต ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 ตค. 2566 วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 หลังถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ แล้วพุทธศาสนิกชน จะจัดอาหาร คาว หวาน ลงภายในภาชนะที่เตรียมไว้ และ ร่วมกันตั้งเปรตเพื่ออุทิศ ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งทางวัดจะมีลานหรือที่เรียกว่า “หลาเปรต” เพื่อมาให้นำอาหารคาวหวาน มาวางไว้
จากนั้น จะให้ลูกหลาน แย่งชิงกัน โดยจะนิยมไปตั้งเปรตที่บริเวณโคนต้นไม้ หรือ บริเวณกำแพง หน้าวัด เพื่อให้เปรตที่บาปหนาไม่สามารถเข้าวัดได้ ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลในครั้งนี้ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งตามความเชื่อในการทำบุญวันสารทเดือนสิบ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องตกนรก หรือเรียกว่าเปรตนั้น จะได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของตนในเมืองมนุษย์ได้ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และกลับไปสู่นรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวไทยพุทธ จึงได้มีการทำบุญ 2 ครั้ง ในขณะที่ ประชาชน ส่วนใหญ่ก็จะนิยมทำบุญ ส่งตา ยาย ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เพราะมีความสำคัญ มากกว่า และถือว่าเป็นเป็นงานบุญครั้งใหญ่ที่สำคัญที่สุดของปี เพราะมีปีละครั้งของชาวภาคใต้ รวมทั้งยังถือเป็นวันรวมญาติอีกด้วย เนื่องจากหนุ่มสาวที่ไปทำงานหรือไปศึกษา รวมทั้งไปมีครอบครัวอยู่ในต่างจังหวัด ต่างก็พร้อมใจกันกลับมาบ้านถิ่นกำเนิดเพื่อมาทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และยังถือว่าได้กลับมาหามาเยี่ยมครอบครัวอีกด้วยเช่นเดียวกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: