ตรัง -วัดในจ.ตรัง และ ชาวบ้านระดมช่างฝีมือในท้องถิ่น ร่วมกันทำและตกแต่งเรือพระ เพื่อเตรียมใช้ในงานประเพณีลากพระจ.ตรัง ที่จะมีขึ้นหลังวันออกพรรษา โดยในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-7 พฤศจิกายน 2566 เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา และอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป
ที่วัดหัวถนน ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง พบว่าประชาชนหลายคน นำโดยกำนัน ต.นาพละ ผู้ใหญ่บ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลนาพละ พร้อมด้วยพระสงฆ์ และชาวบ้านซึ่งมีฝีมือในงานช่างประเภทต่างๆ ทั้งหญิงและชาย ได้ร่วมกันตกแต่งเรือพระของวัด เพื่อเตรียมใช้ในงานประเพณีลากพระ จ.ตรัง ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังจัดขึ้นทุกปีหลังวันออกพรรษา โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม -7 พฤศจิกายน 2566 (รวม 9 วัน 10 คืน ) โดยมีเรือพระจากหลายอำเภอที่ตอบรับเข้าร่วมสืบสานประเพณีแล้วแล้วจำนวน 79 ลำ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ลานวัฒนธรรม จ.ตรัง สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ จึงทำให้แต่ละวัดขณะนี้ต่างเร่งมือในการตกแต่งเรือพระ เช่น ที่วัดหัวถนน พบว่าทั้งพระ และชาวบ้านต่างเร่งมือกันอย่างเต็มที่ในการตกแต่งเรือพระ ซึ่งเรือพระจะเป็นเรือพระลำเดียวกันที่ใช้สืบต่อกันมาทุกปี เพียงแต่จะต้องจัดทำองค์ประกอบใหม่แทนของเก่า เพื่อให้สวยงาม รวมทั้งนำองค์ประกอบเก่าที่ยังใช้ได้ มาทำการประดับประดาตกแต่งใหม่ หรือทาสีใหม่ และประกอบใหม่ โดยพบว่าในการจัดทำเรือพระนั้น ทางวัดได้มีการระดมช่างฝีมือในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่มีความรู้ ความสามารถในด้านช่างต่างๆมาช่วยกัน ทั้งช่างไม้ ช่างแกะสลักตกแต่ง ช่างกลึง หรือคนไม่ได้มีฝีมือทางช่างแต่สามารถช่วยงานได้ ต่างก็มาช่วยกันอย่างเต็มที่ หรือนำข้าวปลาอาหารมาช่วยสนับสนุนให้คนที่ทำ ถือเป็นความสามัคคีของคนในท้องถิ่นที่ยังคงผูกพันอยู่กับวัดใกล้บ้าน จึงพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ องค์ประกอบของเรือพระซึ่งเกือบทั้งหมดชาวบ้านแกะสลักจากไม้ที่หาได้พื้นที่ทั้งพระพุทธรูป บุษบก ธรรมจักร พญานาคทั้งตัว หรือเฉพาะส่วนหัว และส่วนหาง ทั้งนี้เฉพาะหัวพญานาค จำนวน 3 หัว หากสั่งซื้อจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท แต่ชาวบ้านใช้วิธีแกะสลักเอง วิมานเมฆเปรียบเสมือนพระพุทธเจ้าเสด็จจากชั้นดาวดึงส์ รวมทั้งฉัตรแก้ว ซึ่งที่วัดอื่นอาจจะใช้ไม้หรือผ้ามัดเป็นฉัตร แต่ของวัดหัวถนน ชาวบ้านจะทำจากรวงข้าวนำมามัดรวมกันเป็นฉัตร 5 ชั้น จำนวน 4 ฉัตร เนื่องจากตำบลนาพละ ชาวบ้านนับจากอดีตจนถึงปัจจุบันยังคงมีการทำนาปลูกข้าวไว้กินเอง ชาวบ้านจึงทำรวงข้าวมาทำเป็นฉัตรแก้ว ซึ่งเมื่อตกแต่งออกมาแล้วก็จะสวยงามมาก
นางสาวปราณี เพชรรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านหัวถนน ต.นาพละ บอกว่า ชาวบ้านในพื้นที่พร้อมใจกันทำเรือพระอย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวนาพละ เพราะทุกคนช่วยกันทำโดยไม่มีการจ้าง ไม่มีค่าแรง แต่ร่วมใจกันทั้งผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และชาวบ้านนาพละ ส่วนรวงข้าวที่นำมาทำฉัตรใช้พันธุ์ข้าวจากชาวบ้าน ซึ่งทำเป็นที่เดียวที่อื่นจะทำวัสดุชนิดอื่น แต่เปลี่ยนทุกปี โดยข้าวเก่าก็นำไปให้นกให้ไก่กิน
นายปรีชา เดชเหมือน ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลนาพละ บอกว่า ตอนนี้เรือพระ เสร็จไปแล้วกว่า 90 % ได้รับงบสนับสนุนจาก อบต. และร่วมแรงร่วมใจจากชาวบ้าน ส่วนเรือจะซ่อมแซมทุกปี โดยใช้ฝีมือของชาวบ้านร่วมกันทำ ใครถนัดงานด้านไหนก็ช่วยกันทำด้านนั้น ผลที่ได้คือ ได้ช่วยกันสืบสานประเพณีวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป จะได้ไม่สูญหายไป ในที่นี้ไม่ได้หวังเงินรางวัลในการประกวดเรือพระ แต่จะได้ร่วมกันสืบสานประเพณีวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป
สำหรับงานประเพณีลากพระจังหวัดตรัง ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-7 พฤศจิกายน 2566 รวม 9 คืน 10 วัน จัดโดย อบจ.ตรัง เพื่อร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา สืบสาน และถ่ายทอดขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้อยู่คู่กับจังหวัดตรังอย่างยั่งยืนสืบไปในแต่ละปีจะมีเรือพระจากทุกอำเภอมาร่วมขบวนแห่และจัดแสดง ภายในบริเวณงานมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาซมเรือพระและร่วมทำบุญจำนวนมาก ซึ่งจัดได้ว่าเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของชาวตรัง ปีนี้มีวัด สำนักสงฆ์ ที่พักสงฆ์ในจังหวัดตรัง ปีนี้ตอบรับมาแล้ว 79 ลำ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากและยิ่งใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของประเทศกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดเรือพระ แบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เรือพระขนาดเล็ก และเรือพระขนาดใหญ่ มีเงินรางวัลรวมกว่า 6 แสนบาท การประกวดขบวนแห่เรือพระ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ประกวดคณะกลองยาว แข่งขันเล่านิทานพื้นบ้านภาคใต้ แข่งขันพูดคำและสำนวนโวหารถิ่นใต้โบราณ ประกวดแต่งบทกวีงานประเพณีลากพระเมืองตรัง
การประกวดถ่ายภาพขบวนเรือพระ พระภิกษุสงฆ์แสดงปาฐกถาธรรมทุกคืน การร้องเพลงลูกทุ่ง การแสดงศิลปวัฒนธรรม และศิลปินถิ่นใต้
