ตรัง-ลูกค้าธนาคารออมสิน วิตกกังวลที่มาของเงินที่จะใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะกู้เงินธนาคารออมสิน หรือให้ธนาคารออมสินกู้เงินเอาไปใช้ในโครงการดังกล่าว กลัวไม่มีเงินคืนธนาคารล้มเงินประชาชนสูญ รัฐควรแก้ที่ฐานรากเศรษฐกิจ เช่น สินค้าเกษตร ลดราคาพลังงาน ช่วยลดค่าครองชีพ ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ต้องคอยอธิบายชาวบ้านเรื่องเงินดิจิทัลว่า ธนาคารออมสินยังไม่ได้รับนโยบายให้ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับมาตรการเงินดิจิทัล ขอให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อมั่นในธนาคาร
ที่ธนาคารออมสิน สาขาตรัง ถนนพระราม 6 ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
นายวัฒนการ พันท์สุนันนนท์ ลูกค้าผู้มีเงินฝากกับธนาคารออมสิน บอกว่า ตนเองไม่เห็นด้วยไม่ว่ารัฐบาลจะกู้เงินธนาคารออมสินหรือให้ธนาคารออมสินกู้เงินเพื่อรัฐนำไปใช้ในนโยบายดิจิทัล เพราะจะทำให้เป็นการเพิ่มหนี้สาธารณะมากขึ้น เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจควรที่จะกระตุ้นที่ฐานรากโดยตรง ทั้งสินค้าเกษตร และการลดต้นทุนพลังงาน เพราะการกู้เงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าก่อให้เกิดหนี้สาธารณะไปจนถึงรุ่นลูกหลานไม่สิ้นสุด และห่วงสถานะของธนาคารและห่วงเงินของลูกค้าที่ฝากเอาไว้จะได้รับผลกระทบตามมา พร้อมมีข้อเสนอแนะ
ข่าวน่าสนใจ:
รัฐควรจะควบคุมราคาเรื่องของราคาสินค้า ควบคุมราคาพลังงานที่จะเกิดปัญหาในอนาคตข้างหน้า เช่น ราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวน ยังคงมีผลกระทบอยู่ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่จำเป็นแล้ว เพราะเริ่มฟื้นไปเรื่อยๆ แล้ว ถ้าอยู่ในสถานการณ์ภัยพิบัติ โรคระบาด เอามากระตุ้นไม่เป็นไร แต่อยู่ในช่วงภาวะปกติอย่างปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องนำเงินจำนวนมหาศาลมากระตุ้น จะทำให้เป็นหนี้มากขึ้น กลัวไม่สามารถหาเงินส่วนอื่นมาชดเชยธนาคารได้
ทางด้านลูกค้าธนาคารออมสิน บอกว่า ถ้ากู้ไปแล้วจะเอาจากไหนคืน จะได้คืนครบหรือเปล่า ธนาคารออมสินจะยอมหรือเปล่า ส่วนตัวก็ไม่ยอม เพราะมีเงินฝากกับออมสินเช่นกัน ไม่มากแต่ก็เก็บออมไว้ กลัวจะไม่ได้คืนกลับ หากรัฐไม่ทราบจะเอาเงินจากไหน ก็ควรเอาเงินของตัวเองมาแจก ออกนโยบายมาแล้ว ก็เอาเงินตัวเองมาใช้ อย่าเอาเงินของรัฐมาจ่าย ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยนโยบายแจกเงินดังกล่าว และไม่อยากได้ด้วย
และที่ธนาคารออมสิน สาขาสนามกีฬา ตรัง
ลูกค้าท่านหนึ่ง มาเบิกเงินกับธนาคาร บอกว่า จะนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ บอกว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับนโยบายที่รัฐจะแจกเงินช่วยเหลือประชาชน แม้จะกู้เงินจากธนาคารออมสิน หรือให้ธนาคารออมสินกู้ให้ก็เห็นด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าระหว่างรัฐบาลกับธนาคารก็คงจะแก้กันได้ เชื่อมั่น ไม่ห่วงว่าเงินจะสูญหาย เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่ทำให้เสียชื่อแน่นอน เพราะหากเสียชื่อจะไม่ได้รับเลือกตั้งในสมัยหน้า แต่รัฐบาลจะต้องขยายพื้นที่จากรัศมี 4 กม.จะต้องเพิ่มเป็นในระดับจังหวัด เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก เพราะมีของเยอะมีให้เลือก หากให้ใช้จ่ายในรัศมีอำเภอร้านจะเล็กๆ ของน้อย ไม่มีของให้เลือก เช่น บางคนค้าขายต้องการซื้อสินค้าครั้งละมากๆ หรือประหยัดกว่าก็ต้องเข้าไปซื้อในตัวจังหวัด มีของราคาส่ง ถูกกว่าซื้อย่อย ดังนั้น จึงอยากให้มีการแจกเงิน เพราะคนจนจะได้มีเงินใช้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังประชาชนติดตามข่าวสารเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัล แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏชัดว่ารัฐบาลจะเอาเงินจากไหนมาแจก และมีกระแสข่าวว่ารัฐกำลังเล็งเงินจากหลายช่องทาง 1 ในนั้น อาจจะเป็นการกู้เงินจากธนาคารออมสิน หรือให้ธนาคารออมสินกู้ให้ ทำให้ประชาชนซึ่งเป็นลูกค้าธนาคารออมสินจำนวนมาก สอบถามเรื่องดังกล่าวกับพนักงานทุกสาขาตลอดเวลา ทำให้ทางธนาคารต้องให้เจ้าหน้าที่คอยอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจด้วยเนื้อหาข้อมูลว่า
“ ด้วยขณะนี้ ธนาคารออมสินยังไม่ได้รับนโยบายให้ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับมาตรการเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของธนาคารออมสินอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และดำเนินการโดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ซึ่งไม่สร้างความเสียหายต่อลูกค้าและการดำเนินธุรกิจของธนาคาร”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: