ตรัง-“ลุงแพท” สามล้อสกายแล็บ เดินทางรับจ้างลับมีดทั่วไทย แวะตรังก่อนโค้งสุดท้ายครบ 77 จังหวัด เผย ตัดสินใจเดินทางท่องโลกกว้าง ใช้ชีวิตสมถะ ยึดคติ การลงมือทำคือความสุขที่แท้จริง ค่ำไหนนอนนั่น เผย เจอประสบการณ์ขนหัวลุกมาทุกรูปแบบ
นายศุภชัย หรือ ลุงแพท จินต์โต อายุ 49 ปี เป็นชาวจ.ชลบุรี ใช้รถสามล้อสกายแล็บ ดัดแปลงให้มีทั้งที่นอน ห้องครัว ที่นั่งลับมีดพร้อมอุปกรณ์ในการลับมีด และยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ เครื่องปั่นไฟ แผงโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่ พัดลม ไฟส่องสว่าง เครื่องเสียง ฯลฯ มีความตั้งใจใช้ชีวิตด้วยการตะลอนเที่ยวไปทั่วประเทศไทย ให้ครบ 77 จังหวัด ซึ่งทุกการเดินทางที่เดินทางไป จะเที่ยวไปด้วยและรับลับมีดไปด้วย ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น ไปมาแล้วทุกภาคและตอนนี้ก็เดินทางมายังภาคใต้ เข้าสู่จ.ตรัง แวะเข้าพักที่อ.ย่านตาขาว โดยจะเที่ยวไปเรื่อยๆ จากนั้นก็จะเดินทางไปต่อที่จ.กระบี่ และยังเหลืออยู่แค่อีก 4 จังหวัดอันดามันเท่านั้น คือ กระบี่ พังงา ภูเก็ต และ ระนอง ก็จะครบ 77 จังหวัด เมื่อเดินทางครบทั่วประเทศไทยแล้ว ก็จะกลับไปยังบ้านเกิดของตนที่จ.ชลบุรี
นายศุภชัยหรือลุงแพท จินต์โต บอกว่า เดินทางมาทั่วทุกภาคแล้วในส่วนของภาคใต้ยังเหลืออีก 4 จังหวัดก็จะครบ 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย และมาถึงภาคใต้ต้องบอกเลยว่ารู้สึกประทับใจถึงมิตรภาพที่สวยงาม และคนภาคใต้มีน้ำใจทุกจังหวัด ซึ่งจะมีแฟนคลับคอยติดตามถามสารทุกข์สุขดิบตลอด เข้ามาถึงตรังวันแรกก็ป่วยเลย ฝนตกบ้างแดดออกบ้างใน 3 วันที่ผ่านมา ขับรถลุยฝนตลอด ยังไม่ได้ลงพื้นที่ไปเที่ยวตรงไหนเลย แต่หลังจากนี้ก็มีแพลนว่าจะไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน อ.กันตัง ซึ่งทริปหนึ่งแต่ละครั้งใช้เวลาในการเดินทาง 4-5 เดือน และที่ได้เกิดไอเดียเที่ยวไปด้วยและรับลับมีดไปด้วยนั้น อาชีพนี้เกิดจากความบังเอิญ ซึ่งเมื่อก่อนตนเคยป่วยหนักและมีน้ำหนักถึง 98 กิโลกรัม เมื่อเราป่วยทำให้เรามีความคิดที่ว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรที่เราตั้งใจไว้เลย ก็เลยกลายเป็นว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เหมาะสม พาเราไปเที่ยวได้ด้วยแล้วก็มีรายได้ไปด้วยระหว่างทาง ใช้ชีวิตในการท่องเที่ยวไปด้วยและรับจ้างลับมีดไปด้วยมาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว
“ซึ่งรถสามล้อคันนี้เราออกแบบเอง และก็จ้างให้เขาเชื่อมตรงนั้นตรงนี้ตรงนั้น รถคันนี้เป็นได้ทุกอย่างเป็นบ้าน เป็นครัว เป็นอาชีพ มีคันนี้คันเดียวสามารถอยู่ได้เลย ทุกอย่างที่สันทนาการให้เราสามารถมีความสุขและอำนวยความสะดวกให้เราได้ เพื่อเราใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ และใช้ได้จริง ด้านบนก็จะติดโซล่าเซลล์ เอาไว้สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์ สตาร์ทเครื่องรถ เริ่มต้นราคากับรถคันนี้ตนเองซื้อมา 18,000 บาท แต่พอมาตกแต่งเพิ่มเติม รวมค่าอุปกรณ์ทั้งหมดไปประมาณ 130,000 บาท พอมีรถคันนี้กลายเป็นคนไม่มีค่า หมายถึงกลายเป็นคนไม่มีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน มีแต่ความสุข บางคนเคยถามตนเองว่าทำไมไม่ซื้อรถยนต์ไปเลย แต่ผมได้ตอบไปว่าเลือกใช้ตามอาชีพและความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งอาชีพนี้สามารถตระเวนตามบ้านเรือนไปให้บริการประชาชนได้ถึงที่ด้วย เราก็ประกาศตามบ้านเรือนลูกค้า ก็เข้าถึงเรียกหาง่าย”
ลุงแพท บอกอีกว่า ตนรับจ้างลับมีด เป็นมีดที่ใช้ในครัวเรือน มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20-50 บาท แต่ถ้าเป็นมีดที่แปลกๆแตกต่างออกไป ราคาบางเล่ม เช่นมีดดาบซามูไรก็จะมีราคาถึง 1,000 บาทขึ้นไป โดยทุกเส้นทางที่เราไปเที่ยวและจอดพักก็จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ จ้างให้เราลับมีดให้ ตลอดทุกเส้นทาง ซึ่งอาชีพลับมีด เป็นอาชีพที่หาคู่แข่งยาก เพราะสมัยนี้หาผู้เชี่ยวชาญในด้านการลับมีดยาก ซึ่งเราไม่ได้แค่ลับมีดอย่างเดียว แต่เรารับลับปัตตาเลี่ยนและกรรไกรทุกชนิด ซึ่งส่วนใหญ่ร้านเสริมสวยจะนิยมใช้บริการของเรา ซึ่งตรงนี้ที่เราทำทำให้เราไม่มีคู่แข่งแล้วเราสามารถไปเที่ยวตรงไหนก็ได้ เงินรอเราอยู่ทุกบ้าน ขึ้นอยู่กับที่เรามีความอยากจะได้แค่ไหน แต่โดยหลักๆแล้วตนจะไม่ค่อยเน้นเรื่องรายได้เท่าไหร่ จะเอาแค่ว่ามีค่าน้ำมันค่ากินแล้วเราก็ผ่านไป ซึ่งถ้าเราเน้นเรื่องรายได้จริงๆ ในแต่ละวันก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 800-1,000 บาท คาดว่าภายในปีนี้จะเที่ยวให้ครบทั้ง 77 จังหวัด หลังจากนี้เมื่อเดินทางครบก็จะกลับที่บ้านเกิดจังหวัดชลบุรี และเมื่อตนเดินทางไปจุดไหน ก็จะเปิดเสียงประกาศผ่านลำโพง เพื่อบอกให้ลูกค้าที่ต้องใช้บริการกับเราทราบด้วย หากใครสนใจเราก็จะมีเสียงประกาศให้ บริการลับมีด ปัตตาเลี่ยน และกรรไกรทุกชนิด รับประกันความคม และรับเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนด้วย
ลุงแพท ยังบอกอีกว่า “การที่เราหาความสุขแบบนี้ การที่ทุกๆคนอยากใช้ชีวิตแบบนี้ ผมก็จะแนะนำอยู่ตลอดว่าทุกคน สามารถทำได้ เพียงแต่เราหาอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเราเอง เราสามารถหาความสุขได้ทุกที่ คนเราความสุขต้องหาเองตามสโลแกนของผมคือ ถ้าเราอยู่กับที่มัวแต่ฝันอย่างเดียวไม่ลงมือทำ ก็จะไม่มีความสุข” ซึ่งมีหลายคนก็มา comment ใน Facebook ของตนเอง ว่าอิจฉาลุงแพทจังเลยอยากใช้ชีวิตแบบนี้จัง ซึ่งตนเองก็คอยแนะนำกับแฟนคลับที่ติดตามตนเองอยู่ตลอด
ลุงแพท บอกว่า ชีวิตครอบครัวของตนเองนั้น มีลูกทั้งหมด 4 คนแต่ตอนนี้เติบโตมีงานทำกันหมดแล้วส่วนภรรยาก็แยกทางกันมานานแล้ว อยากจะบอกว่า บางครั้งคนเราที่ทำความสุขไม่ได้หรือหาความสุขไม่ได้นั้น ไปยึดติดคำว่า “ห่วง” จะไม่สามารถทำให้เรามีความสุขได้ เพราะฉะนั้นเราควรมีข้อแม้กับชีวิตให้น้อยที่สุด เราก็จะสามารถหาความสุขได้เร็ว
ทั้งนี้ ลุงแพท ยังเล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเอง ได้ไปท่องเที่ยวและแวะพักตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องหลอนๆหรือเรื่องผีๆ ซึ่งลุงแพทบอกว่า ตนเองเชื่อเรื่องผีอยู่แล้ว เชื่อว่าผีมีอยู่จริง และที่เจอแบบจังๆก็คือมาเห็นเป็นเงา ซึ่งล่าสุดตรงบริเวณที่ เรือข้ามฟากมาจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงเวลา 18.00 น. แล้ว ออกมาจากท่าเรือเกาะสมุยก็ได้เลี้ยวซ้ายมาที่ชายหาด ซึ่งตนเองจำชื่อไม่ได้แล้ว ก็ได้ไปถามเจ้าของในพื้นที่ซึ่งตอนนั้นยังมีคนอยู่ ถามว่าตรงนี้จอดนอนได้ไหม ซึ่งเจ้าของพื้นที่ก็บอกว่าจอดได้ไม่มีอะไร นอนได้เลย ไม่มีกลุ่มวัยรุ่นติดยาเสพติดหรืออันตรายใด จากนั้นก็เตรียมจอดและทำที่นอนอะไรเสร็จ ก็เดินไปขอน้ำที่ห้องน้ำ และก็ได้เจอลุงและก็ทักมาแปลกๆ บอกให้เราระวังตัวด้วยนะ ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดในใจแล้ว ว่าต้องมีอะไรแปลกๆ ซึ่งตอนนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. ก็นั่งกินข้าวอยู่ จากนั้น 21.00 น.ก็ขึ้นนอน และประมาณตี 2 ได้ยินเสียงหมาเห่าทั่ว แล้วตอนนั้นตัวเองก็ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมาดู ก็ได้เห็นมีเงาบางอย่างวิ่งมาชนตัวเอง ตอนนั้นตัวเองก็ได้แต่สวดมนต์ จนคลายลงและหมาก็เริ่มหยุดเห่า ซึ่งต้องบอกเลยว่าทุกที่ที่เราไปนอนก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาทักทายเราแบบไหน แต่บอกเลยว่าก็ไม่ได้เจอแค่ครั้งเดียว เรานอนทั่วทุกที่ประสบการณ์แบบนี้ก็เลยบ่อย แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ทำให้เราได้กลัว เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเรา เรารู้ว่ามีแน่แต่ถ้าเราไม่กลัวกับมันเราก็อยู่ได้ บางทีก็มีที่เราไปนอนอยู่หน้าเมรุ หน้าวัด นอนหน้าฮวงซุ้ยก็มี ก็มีคนทักว่าเรายังกล้าไปนอนนะ และชมว่าเราใจเด็ดนอนได้ทุกที่ นี่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ตนเองได้เจอในเรื่องผี ก็เจอตลอดเหมือนกัน
