ตรัง-ชาวบ้านแห่หาเห็ดโคนขายสร้างรายได้เสริมหน้าฝน
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดเทือกเขาบรรทัด สภาพป่าชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เนื่องจากจะเกิดฝนตกบ่อย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ เกิดฝนตกเกือบทุกวัน สภาพป่าจึงชุ่มชื้นอย่างมาก เช่นเดียวกันสภาพพื้นราบ ซึ่งมีทั้งบ้านเรือน สวนยาง สวนปาล์มของประชาชน ก็จะมีความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกัน ทำให้ในช่วงนี้ชาวบ้านในพื้นที่สามารถหาเห็ดป่าได้จำนวนมาก โดยเฉพาะเห็ดโคน ซึ่งมักจะพบเจอได้ในช่วงก่อน และหลังวันพระในทุกๆ วันพระ ชาวบ้านมักออกหาเห็ดโคน ซึ่งมีอย่างชุกชุมในพื้นที่ ทั้งบนเขาบรรทัด บริเวณเชิงเขา และพื้นที่ราบใกล้บ้านเรือนชาวบ้าน ในสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านแต่ละรายมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันพระที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นวันพระใหญ่ ปรากฏว่าชาวบ้านแต่ละรายสามารถออกหาเห็ดโคนได้เป็นจำนวนมาก เป็นรายได้เสริมจากยางพารา เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันนานนับเดือน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถกรีดยางได้ จึงออกหาเห็ดโคน แต่ละคนมีรายได้เสริมเป็นกอบเป็นกำ โดยราคาที่ชาวบ้านขายเอง ดอกบานประมาณกก.ละ 150 บาท ดอกตูม กก.ละ 200-300 บาท แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อไปแล้วจะนำไปขายต่อกก.ละ 250-350 บาท ขึ้นอยู่กับราคาที่ซื้อมาจากชาวบ้าน แต่มีเท่าไรก็ไม่พอขาย เพราะเห็ดโคนเป็นที่นิยมมากของตลาด
นายสุริยะ รัฐการ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านตระ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ซึ่งเดินสำรวจพื้นที่ใกล้น้ำตกโตนตก ก็พบเห็ดโคนขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เห็ดโคนในพื้นที่ป่าเขาบรรทัดแห่งนี้ แต่ละปีชาวบ้านสามารถหาเก็บเห็ดได้ปีละหลายรอบ รวมทั้งปีนี้เจอได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในพื้นที่เขาบรรทัดพบเห็ดโคนขึ้นเป็นจำนวนมาก บางคนหาได้ครั้งละเป็น 10 กก. ส่วนราคาขายไม่เท่ากัน ชาวบ้านบางคนขายถูกกก.ละ 150 บาท แต่หากเป็นดอกพุม หรือดอกตูมขายกก.ละ 200 บาท แต่บางคนก็ขายกก.ละ 200-300 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เป็นรายได้เสริม โดยปีนี้ได้ทั้งปี ส่วนตัวเคยเจอมากที่สุดประมาณ 3-4 กก. เหตุที่หาได้ทั้งปีเนื่องจากสภาพพื้นที่ป่ามีความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ ส่วนเทคนิคในถอนเห็ดโคน เป็นที่สังเกตเป็นไปตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนไว้ ว่าให้ถอนด้วยมือเปล่า หรือถ้าจะขุดก็ให้ใช้ไม้แหลม แต่อย่าใช้เหล็ก หรือโลหะหรือของมีคม เพราะปีต่อไปเห็ดจะไม่ขึ้นอีกเลย ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ทั้งหมดจึงถอนด้วยมือเปล่าหรือใช้ไม้แหลมขุดดึงขึ้นมา จึงสามารถรักษาเชื้อเห็ดให้คงอยู่ในดิน และต่อไปเห็ดก็งอกในบริเวณพื้นที่เดิมซ้ำๆได้ทุกปี โดยช่วงนี้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอย่างดีแทนยางพารา เมนูที่ทำ เช่น ผัดน้ำมัน แกงเลียง ผัดหัวกะทิต้มกะทิ แต่ส่วนตัวจะไม่ใช้น้ำมัน เพียงแต่เอาเห็ดที่ล้างสะอาดแล้วใส่ลงในกระทะ ไม่ใส่น้ำมัน แค่ปรุงรสเล็กน้อยแล้วปิดฝาไว้ น้ำเห็ดออกมาก็จะหวานอร่อยแล้ว นอกจากนั้นในพื้นที่ยังมีเห็ดอีกหลายชนิด เช่น เห็ดจูนใหญ่ จูนเล็ก ขึ้นจำนวนมากเช่นกัน ( ซึ่งเห็ดจูน ชื่อวิทยาศาสตร์ (Termitomyces fuliginosus. heim) จัดอยู่ในตระกูลวงศ์เดียวกับเห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ลักษณะของดอกจะเล็กและสั่นกว่าเห็ดปลวกหรือเห็ดโคน สามารถพบได้ตามป่าฝนหรือสวนปาล์มเช่นกัน)
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
- พะเยา หนุ่มขโมยย่องฉกเงินร้านข้าวมันไก่ 3 ครั้งเจ้าของสุดทนแจ้งตรจับ
นางลำยอง อินแพง อายุ 91 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ 2 ต.ปะเหลียน บอกว่า ลูกชายเป็นไปหามาได้จากพื้นที่ในป่า และในสวนปาล์มน้ำมัน แค่ 3 วัน หาขายได้แล้วประมาณ 2,000 บาทแล้ว แต่บางคนเดินหาเก่งๆได้ครั้งละ 2-3 กระสอบปุ๋ย หรือประมาณ 50-60 กก. ในพื้นที่มีมาก ส่วนตัวจะมีคนสั่งจองด้วย โดยเฉพาะแม่ค้าจะซื้อไปขายต่อ หากขายแบบเหมาทั้งดอกบานและดอกตูม ยายจะขายกก.ละ 150 บาท แต่หากขายเฉพาะดอกตูมจะขายกก.ละ 200 บาท ทั้งนี้ เห็ดโคนจะขึ้นในช่วงที่มีวันพระเท่านั้น ทั้งก่อนและหลังวันพระ ทำให้ก่อนถึงวันพระและช่วงวันพระ ชาวบ้านจะเร่งออกหาเห็ดโคน เพื่อนำมาขาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: