ตรัง-“พรานนก” ยอมลงเขาแล้ว หลังซ่อนตัวบนบ้านตระ นายอำเภอปะเหลียน ส่งผู้ใหญ่บ้านรับตัว เจ้าตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจ ยัน ไม่เกี่ยวข้องกับการพา “เสี่ยแป้ง” หนี-ส่งเสบียง แต่ตกใจกลัวเจ้าหน้าที่แห่มากันมากเลยซ่อนตัว ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ ระบุ แค่คนทำสวน นำนักท่องเที่ยวชมป่าเขาบรรทัดในเชิงอนุรักษ์ ยอมรับ เป็นญาติ “นายพริก-บังเขียว” แต่ไม่เจอนานแล้ว รู้จัก “เสี่ยแป้ง” แค่แค่ผิวเผิน เผย “เสี่ยแป้ง” ดีกับชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตรัง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า จากกระแสข่าวระบุจาก ควายตำรวจว่านายนก หรือ พรานนก มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายพริก สมุนของเสี่ยแป้ง ที่เสี่ยแป้งเคยมานอนพักที่บ้านนายพริก 1 คืนบนบ้านตระ ม.2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก่อนหลบหนีไปอยู่ ในเพิงพักที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่า โดยมีกระแสว่าพรานนก เป็นพรานป่าที่มีความชำนาญในการเดินป่า และมีวิชาอาคม มืออันดับต้นๆของบ้านตระ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่เริ่มปฎิบัติการไล่ล่าเสี่ยแป้ง พรานนกได้หายตัวไปอย่างปริศนาไปพร้อมกับนายพริก นั้น
ล่าสุดวันที่ 30 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งรักษาการอยู่บริเวณน้ำตกโตนตกจำนวน 5-6 นาย ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้ว กระทั่งเวลา 14.30 น. นายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน รับประสานจากญาติของพรานก ระบุพรานนก ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาเสี่ยแป้งหลบหนีหรือส่งเสบียง และพร้อมเดินทางลงจากบ้านตระมาพบ ผู้นำท้องที่ จึง มอบหมายให้นายสานิตย์ ทองเส็ม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน พร้อมด้วยผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านตระจำนวนหนึ่ง นำรถมอเตอร์ไซต์จำนวน 2 คัน ขึ้นไปรับพรานนกยังจุดนัดพบบนบ้านตระ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งจึงกลับลงมาถึงทางเข้า บริเวณน้ำตกโตนตก จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน ใกล้ขับมอเตอร์ไซค์โดยมีพรานนกซ้อนท้ายไปยังที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกโตนตกไปราว 2 กิโลเมตร โดยพรานนกสวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า กางเกงขายาวคล้ายกางเกงทหาร สวมหมวกแก๊บสีดำ โดยเมื่อมาถึงที่ทำการผู้ใหญ่บ้านพรานนกได้พักผ่อนอิริยาบท นั่งโต๊ะชงกาแฟดื่ม แต่ยังคงมีสีหน้าวิตกกังวล โดยมีนางดาววิภา เทิดประชา อายุ 64 ปี ผู้เป็นมารดาแท้ๆ เดินทางมาจาก อ.กงหรา จ.พัทลุง นางสาวขวัญเรือน รองเดช แม่บุญธรรม อายุ 58 ชาวบ้านตระ รวมถึงบรรดาญาติของพรานนก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.หนองเอื้อง ร่วมพบปะพูดคุยกับพรานนก ทำให้พรานนก มีทีท่าผ่อนคลายขึ้นและยิ้มได้
พรานนก หรือ นายภราดร จันทร์เทพ อยู่บ้านเลขที่ 129 บ้านตระ ม.2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า ตนอยู่ในหมู่บ้านตระ ขณะ เกิดเหตุการณ์ไล่ล่าเสี่ยแป้งแต่ไม่พบ ตนกลัวเจ้าหน้าที่เพราะเจ้าหน้าที่มากันมาก และตนระแวงด้วย ส่วนที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าสแกนความร้อนพบว่าตนเดินอยู่ในเขาด้วยนั้น ตนไม่ไม่รู้เรื่องเพราะตนอยู่แต่ในบ้าน อยู่แต่ในชุมชนบ้านตระ และอยู่ในบ้านคนเดียว แล้วชาวบ้านก็ให้ความช่วยเหลือ เพราะเป็นเพื่อนบ้านกันทั้งหมด ตนรู้จักเสี่ยแป้งแค่ผิวเผิน และเคยเห็นเมื่อก่อนนานมาแล้ว แต่ตอนที่เสี่ยแป้งขึ้นไปอยู่ ตนไม่ได้เข้าไปร่วมกับเขา ตนแค่อยู่ในขนำ ที่ลงมาจากเขาเพราะให้ญาติพี่น้องได้สบายใจ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
- ตรัง ราคายางดิ่งกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม กยท.หนุนสถาบันทำโครงการชะลอยางสู้นายทุน
“ผมยืนยันว่าไม่ได้พานายแป้งขึ้นและหลบหนีทั้ง ขึ้นไปและลงมารวมถึงไม่ได้ส่งเสบียงให้เสี่ยแป้งแต่อย่างใด ผมใช้ชีวิตอยู่บนบ้านตระ ซึ่งจากในข่าวที่บอกว่าผมเป็นคนพานายแป้งหลบหนีนั้น ก็รู้สึกตกใจ และอีกอย่างที่ผมได้ลงมาเพราะว่าแม่ขึ้นไปตามหาด้วย 2 รอบแล้ว และเกรงใจชาวบ้านในตระด้วยที่ไปพึ่งพา กลัวเขาจะเดือดร้อน และผมก็ไม่ได้ทำผิดอะไร”พรานนกยืนยัย
พรานนกกล่าวอีกว่า สำหรับตนมีอาชีพทำสวนทั่วไป แล้วก็มีนำเที่ยวในป่าเขาบรรทัดในเชิงอนุรักษ์ด้วย โดยสามารถนำพานักท่องเที่ยวไปได้ทั่วเขาบรรทัด โดยที่ผ่านมาก็เคยนำยูทูปเบอร์ชื่อดังสายใต้ “ อยู่บ้านเรา ไม่ขึ้นเขาก็ลงเล” ไปสำรวจบ้านตระมาแล้วหลายครั้ง โดยตนจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเลย
“สำหรับเสี่ยแป้งนั้นชาวบ้านแถวนั้นเขารู้จัก ซึ่งเสี่ยแป้งดีกับคนทั่วไป ดีกับชาวบ้าน โดยส่วนตัวเสี่ยแป้งไม่ได้มีบ้านพักอยู่ข้างบน แต่มีเพียงขนำเล็กๆ แล้วผมยังยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายแป้ง ลงมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และที่ลงมาก็ทราบว่าแม่มาตามหาผม 2 รอบแล้ว และชาวบ้านก็กลัวด้วยกว่าจะเป็นการช่วยกันปิดบังให้ผม หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับนายพริก และบังเขียว กับผมนั้นก็เป็นญาติกัน และ ผมก็เป็นเพื่อนบ้านกันกับนายพริก บ้านอยู่ใกล้กัน แต่นายพริกไม่เคยเล่าอะไรให้ตนเองฟังและไม่จอกันนานแล้ว ผมไม่ได้พาหนี ยังใช้ชีวิตปกติอยู่ข้างบน ชาวบ้านหลายคนก็เห็นผม เจ้าหน้าที่ก็เห็นผมปกติ ผมขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านตำรวจถามว่าจะไปไหน ผมก็ตอบไปว่าจะลงไปข้างล่าง แต่ก็ไม่ได้ลงเพราะเบรกรถเสีย ก็เลยจอดรถไว้ที่ขนำของชาวบ้าน แล้วตนเองก็ขึ้นกลับไปอีก”พรานนกกล่าว
พรานนก เล่าอีกว่า ที่ชาวบ้านเรียกตนว่าพรานนกเพราะว่าตนเคยประกอบอาชีพพรานมาก่อน แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนเป็นนำเที่ยวป่า พาคนไปรู้จักแหล่งธรรมชาติ จะพาไปเที่ยวบนเทือกเขาบรรทัด จะนำคนไปเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ พาคนไปสัมผัสธรรมชาติ ทั้งสระมรณะ เที่ยวถ้ำ ชมพรรณไม้ ส่วนใหญ่ที่พาไปเที่ยวจะเป็นนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีไปเป็นกลุ่มจะไม่เกิน 3 คืน ขึ้นอยู่กับระยะทาง
ด้านนางดาววิภา เทิดประชา อายุ 64 ปี ผู้เป็นมารดาแท้ๆ ของพรานนก กล่าวว่า ตามข่าวพรานนกเป็นคนที่พาเสี่ยแป้งและส่งเสบียงให้เสี่ยแป้ง ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น เพราะลูกชายก็กลัวจะติดเรื่องไปด้วย ลูกชายตนจะไม่ข้องแวะด้วย ส่วนเหตุผลที่ลูกชายหลบซ่อนตัวนั้น เนื่องจากลูกชายไม่ทราบว่าแม่ขึ้นไปตามหาด้วย ซึ่งลูกชายก็ทำสวนปกติ ใครไปใครมาก็หุงข้าวให้กิน เป็นเรื่องธรรมดาของชาวบ้านตระที่มีน้ำใจ ส่วนตัวแม่เองนั้นแม่อยู่ด้านล่างอยู่ที่จ.พัทลุง แต่ได้มีกระแสข่าวออกมาว่าตอนนั้นพรานนกเป็นคนนำทางเสี่ยแป้ง ถ้ามีพรานนำทางเสี่ยแป้งก็จะอยู่ได้เป็นเดือน แต่หลังจากที่มีข่าวออกว่าตัวเสี่ยแป้งเองไม่ได้อยู่ในบ้านตระ ลูกชายของตนก็บริสุทธิ์แล้ว ซึ่งตัวแม่ก็เชื่อมั่นว่าลูกชายของเราบริสุทธิ์อยู่แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: