ตรัง “พรรครวมแผ่นดิน” ลุยตรัง เปิดแนวรุกล่วงหน้า เตรียมพร้อมรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เลขาธิการพรรค ประกาศพร้อมรับอดีตสมาชิกพรรคปชป.ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ยึดแนวทางปรองดองสมานฉันท์ เข้าร่วมทำงานการเมือง
วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ลานหน้าบ้านเลขที่ 243 หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งสมอ ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง พรรครวมแผ่นดิน นำโดยนายอนุชา เจริญรักษ์ เลขาธิการพรรค, นายเขมธนวัฒน์ ชูชาติวงศ์สกุล รองหัวหน้าพรรค, นายชาญชัย โตพฤกษา รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสุวรรณ สวัสดิชิตำ ประธานสาขาพรรค จ.หนองบัวลำภู และนายรุ่งโรจน์ รุ่งณรงค์รักษ์ นายทะเบียนพรรค ร่วมเปิดประชุมสมาชิกพรรครวมแผ่นดิน สาขาภาคใต้ สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารสาขาภาคใต้ ที่จะมาทำหน้าที่ในการร่วมกันเดินหน้าทำกิจกรรมทางการเมืองในนามพรรครวมแผ่นดินในพื้นที่ จ.ตรัง และภาคใต้ โดยมีสมาชิกพรรครวมแผ่นดินเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีตัวแทน กกต.จังหวัดตรังร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งคณะกรรมการสาขาพรรครวมแผ่นดิน ลำดับที่ 006 จ.ตรัง ผู้ได้รับการเลือกตั้ง มีดังนี้ 1.นายจักรี ศรีหมอก หัวหน้าสาขาพรรค 2.นายพิเชษฐ ชุมทอง รองหัวหน้าสาขาพรรค 3.นางสาวกุศล ศรีถาวร เหรัญญิกสาขาพรรค 4.นางสาวกีรติ ทองร่วง เลขานุการสาขาพรรค 5.นางสาววรนุช อินนุรักษ์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค 6.นายสมจิต ใสกล้วย โฆษกสาขาพรรค 7.นางชลิดา ทองร่วง กรรมการสาขาพรรค 8.นางสาวสุมาลิน ทองร่วง กรรมการสาขาพรรค 9. นายปิยมิตร ศรีหมอก กรรมการสาขาพรรค
นายอนุชา เจริญรักษ์ เลขาธิการพรรครวมแผ่นดิน บอกว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการประชุมสมาชิกพรรค เพื่อเลือกกรรมการบริหารสาขาภาคใต้ ทั้งนี้ พรรครวมแผ่นดิน ภายใต้การนำของ ดร.มนตรี พรมวัน หัวหน้าพรรค และน.ส.กชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ประธานที่ปรึกษาและหัวหน้าสาขาพรรคภาคเหนือ โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมของพรรคในทุกภาค ทุกจังหวัด เพื่อดำเนินการกิจกรรมของพรรคให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรครวมแผ่นดิน จะเน้นหนักเรื่องของการสร้างความปรองดองของคนในชาติ ไม่ให้เกิดความแตกแยก เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาความแตกแยกขึ้นมากในสังคม ทั้งในความแตกแยกทางการเมือง พรรคเราจึงเน้นความไม่แตกแยก ส่วนการเตรียมความพร้อมและการประเมินการเลือกตั้งครั้งหน้า มองว่าเพราะพรรคการเมืองมีมากขึ้น มีการต่อสู้รุนแรงมากในการช่วงชิงมวลชน ซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่พรรครวมแผ่นดินให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นไม่ว่าจะใกล้ หรือยาวนานแค่ไหน แต่เราต้องเตรียมความพร้อมของประชาชนให้เข้าใจหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง รวมทั้งการคัดสรรคนที่จะเป็นผู้แทนของพรรคในการเสนอตัวให้ประชาชนพิจารณาเลือก เป็นเรื่องที่สำคัญ จะพิจารณาจากคนที่มีผลงานในพื้นที่ คนที่พร้อมจะเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อทำงานรับใช้ประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง ชื่นชมชุมชนท่องเที่ยวร่วมใจเก็บขยะบนเกาะเหลาเหลียง
- ตรัง ผลผ่าพิสูจน์การตายพะยูน 2 ตัว ผอม หญ้าในท้องน้อย ป่วยตาย
เลขาธิการพรรครวมแผ่นดิน บอกว่า สำหรับนโยบายของพรรคจะเน้นให้ความสำคัญครอบคลุมคนทั้ง 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเด็กและเยาวชน จะต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา การกีฬา กีฬาสร้างคนคนสร้างชาติ จะให้ความสำคัญกับกีฬา ตอนนี้ในนามเลขาธิการพรรค เตรียมจัดกีฬาฟุตซอลเยาวชน 14 ปี จาก 16 จังหวัด แข่งชิงถ้วยของเลขาธิการพรรครวมแผ่นดินที่ จ.ชัยภูมิ รวมทั้งการแจกอุปกรณ์กีฬาเพื่อให้เด็ก ๆ ได้รวมกลุ่มทำกิจกรรมด้านกีฬา และจะให้ความสำคัญเรื่องสภาเด็กและเยาวชน เช่น ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาเด็กและเยาวชนเข้มแข็งมาก มีการรวมกลุ่มกันหาทุนซ่อมสร้างปรับปรุงถนน หรือระบบสาธารณะที่เสียหายจากน้ำท่วม รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ และการสร้างไอดอล ซึ่งไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งอย่างเดียว แต่เป็นเด็กตัวอย่างที่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงจะถือว่าเป็นไอดอลเด็ก 2.กลุ่มวัยทำงาน ก็จะมีการเสริมอาชีพ เสริมรายได้ โดยงัดจุดแข็งของพื้นที่ทั้งสินค้าโอทอป นวัตวิถี และกิจกรรมเด่นที่เป็นซอฟเพาวเวอร์ของพื้นที่นั้นต่อยอดและพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่า เพื่อให้คนวัยทำงานได้มีเงินมีงานสร้างความเข้มแข็งให้พื้นที่ และ 3.กลุ่มผู้สูงวัย เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย ในการดูแลให้ความสำคัญกับโรงเรียนผู้สูงอายุ กิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ และสุขภาพ
เลขาธิการพรรครวมแผ่นดิน ยังบอกอีกว่า ส่วนการคัดสรรตัวว่าที่ผู้สมัครที่จะทำงานในพื้นที่นั้น จะต้องเป็นคนที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหลักเท่านั้น และต้องเป็นคนที่ทำงานพัฒนาร่วมกับพี่น้องในพื้นที่ และพี่น้องให้ความไว้วางใจ ส่วนกรณีสมาชิกพรรค ปชป. จำนวนมากที่ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทางพรรครวมแผ่นดิน ก็พร้อม และยินดีต้อนรับ หากอยากจะมาทำงานร่วมกับพรรครวมแผ่นดิน ซึ่งคนที่มาก็จะต้องรักกฎบ้านเรา คือ ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องไม่สร้างความแตกแยกให้คนสังคม รวมทั้งคนในพื้นที่และคนในพรรคเดียวกัน เพราะถ้าเริ่มความแตกแยกในพรรคบ้านเมืองก็จะแตกแยกตาม และต้องอยู่กันด้วยความรักใคร่ โดยยืนยันทางพรรครวมแผ่นดิน เรายินดีต้อนรับหากสมาชิกพรรคปชป.มีอุดมการณ์ตรงกันสามารถสานสัมพันธ์กันได้ เรายินดีต้อนรับเต็มที่
ด้าน นายเขมธนวัฒน์ ชูชาติวงศ์สกุล รองหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน บอกว่า แนวทางการทำงานการเมืองของพรรครวมแผ่นดินนับจากนี้ วันนี้ก็ได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่า พรรครวมแผ่นดินเป็นพรรคขนาดกลางจะเดินหน้าเร่งระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวนโยบายในการทำงาน และกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การหาเสียงต่อไป จะดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนงานของพรรคในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อจะต่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึง เพราะเราเห็นแล้วว่าการเมืองรูปแบบเก่าไม่สามารถสู้การเมืองของหลาย ๆ พรรคได้ เพราะฉะนั้นมีแนวทางโดยผู้ใหญ่ของพรรค และท่านประธานที่ปรึกษาพรรค ซึ่งให้ความสำคัญ และฝากความระลึกถึงพี่น้องสมาชิกและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ว่า พรรคไม่ได้ทอดทิ้ง ยังมีจุดยืนในการขับเคลื่อนพรรค เพื่อดูแลประชาชน และจะสร้างโอกาสให้พรรคและบุคลากรของพรรคให้มีโอกาสได้ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนร่วมทุกข์ร่วมสุขของประชาชน และเป็นที่พึ่งพาให้ประชาชนได้โดยจะมีบุคลากรทุกพื้นที่ทุกจังหวัดที่จะทำงานกับประชาชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: