ตรัง-สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช และสาขากระบี่ เข้าควบคุมพื้นที่ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อป้องกันรักษาป่าไม้ที่เหลือ หลังตกเป็นเป้าหมายขบวนการมอดไม้ ลักลอบเข้าไปตัดโค่นไม้ยางนา ส่งนายหน้า 3 จังหวัด ตามออเดอร์ปลายทางประเทศมาเลเซีย เบื้องต้น ทางฝั่งจ.ตรัง จะป้องกันพื้นที่ไม่ให้มีการขนไม้เถื่อนจากฝั่งกระบี่ผ่านทาง จ.ตรังอีกอย่างเด็ดขาด พร้อมจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 จังหวัดเข้ามาลาดตระเวนร่วมกับชุดในพื้นที่และผู้ใหญ่บ้าน ส่วนฝั่ง จ.กระบี่ จะมีการสับเปลี่ยนโยกย้ายกำลังพลหน่วยดูแลพื้นที่ และรายงานกรมป่าไม้ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าให้ลงมาติดตามขยายผลไปในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อเอาผิดผู้ร่วมขบวนการ
ที่หมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง นายกำธร สุวรรณเวช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ และเจ้าหน้าที่รักษาป่าจาก จ.ตรัง และกระบี่ รวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอวังวิเศษ กำนันต.อ่าวตง และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.อ่าวตง เข้าควบคุมพื้นที่ป่าไม้ในหมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าใสป่าแก่ และควบคุมพื้นที่ป่าไม้ใน ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตป่าไม้ถาวร ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจ.กระบี่กับ จ.ตรัง เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่แหล่งที่มาของไม้ซุง จำนวนมากที่ถูกตัดโค่นในพื้นที่ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ และมีการเคลื่อนย้ายไม้ข้ามลำห้วยมาฝั่งจ.ตรัง เพื่อลำเลียงขึ้นรถและนำไปใส่รถเทรลเลอร์ขนออกจากพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน หมู่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง นำโดยนายอาคม ครชาตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ สภ.วังวิเศษ วางแผนปิดล้อมจับกุมคนขับรถ และยึดไม้ไว้ทั้งหมด 29 ท่อน และเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ยังพบไม้เพิ่มอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบประเมินพฤติกรรมการตัดไม้ และวางแผนร่วมกันในการป้องกันรักษาป่าที่เหลือ เนื่องจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าใสป่าแก่และพื้นที่ป่าไม้ถาวร ไม้เนื้อแข็งอื่นๆ ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้ยางนา ซึ่งเป็นที่ต้องการของขบวนการมอดไม้จำนวนมาก โดยสภาพพื้นที่เป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของชาวบ้าน
นายกำธร สุวรรณเวช (สวมชุดป่าไม้ สวมหมวก หน้าอกมีชื่อ) ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช บอกว่า ในวันนี้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช ที่ครอบคลุมพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต พร้อมด้วยผู้นำชุมชนในท้องที่ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ และหัวหน้าชุดปฏิบัติการป่าไม้ทุกชุดในพื้นที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 นครศรีธรรมราช และสาขากระบี่ ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมป่าไม้ ให้เข้ามาร่วมกันควบคุมดูแลพื้นที่ไม่ให้มีการตัดไม้ยางนาขึ้นอีกในพื้นที่ ส่วนที่ตัดในจ.กระบี่และนำข้ามมาจ.ตรัง ซึ่งเป็นช่องทางการนำไม้ออกทางฝั่งจ.ตรัง ตนเองรับปากจะไม่ให้มีการลำเลียงไม้ออกทางฝั่งจ.ตรังอีกต่อไป โดยจะกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าห้ามมีการนำไม้ออกอย่างเด็ดขาด ก็ขอให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนันช่วยเป็นส่งเสริมชาวบ้านให้เป็นหูเป็นตา ถ้าได้รับข่าวว่ามีการลักลอบตัดอีกก็แจ้งมาได้เลย เจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติ และจับกุมตลอดเวลา และจะส่งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเสริมด้วยชุดปฏิบัติการสายตรวจ และชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ 3 จังหวัด หมุนเวียนสับเปลี่ยนกำลังกันดูแลตลอดเวลา ถ้าได้ข่าวให้ทางผู้ใหญ่บ้านแจ้งได้ตลอด 24 ชม.
ด้านนายสมชาย นุชนานนท์เทพ (ผิวขาว สวมแว่น) ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ บอกว่า จากการลงพื้นที่มาตรวจสอบพบว่าปกติไม้ยางนาเป็นไม้เนื้ออ่อน แต่ดูจากของกลางพบว่า เมื่อแปรรูปแล้วจะได้ไม้แผ่นใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นออเดอร์ที่สั่งเข้ามาโดยตรงจะขยายผลต่อไป ส่วนการดูแลป้องกันพื้นที่หลังจากนี้จะมีการสนธิกำลังกันทั้ง 2 สำนักคือ นครศรีธรรมราช และสาขากระบี่ ให้หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่เข้มงวด และจะมีชุดปฏิบัติการพิเศษของแต่ละสำนักหมุนเวียนลาดตระเวนด้วย และสั่งการให้หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่รับผิดชอบและชุดปฏิบัติพิเศษของจ.กระบี่ ให้มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ในส่วนของกลางระหว่างดำเนินคดีได้ขนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในเขตจ.กระบี่ การดำเนินคดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งก็จะเป็นในพื้นที่จ.ตรัง ก็เป็นอำนาจสอบสวนของจ.ตรัง ส่วนของกระบี่ก็จะได้ไปส่งคดีที่สภ.ลำทับ ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และสำนักป่าไม้ฯสาขากระบี่ จะตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ว่ามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนใดมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ โดยจะมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ให้ชุดใหม่เข้ามาทำงาน เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน และจะรายงานไปยังกรมป่าไม้ ขอกำลังเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ให้ลงมาติดตามขยายผลไปในพื้นที่ จ.ปัตตานี เพราะจากการสอบสวนและสืบสวนหาข่าว พบว่าไม้ทั้งหมดที่ถูกตัดโค่นในครั้งนี้เตรียมนำไปส่งที่จ.ปัตตานี และเป็นออเดอร์จากประเทศมาเลเซีย เพื่อขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ด้านนายอาคม ครชาตรี ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ขบวนการตัดไม้ดังกล่าวนี้ ประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ กลุ่มทุน มือปืน และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนร่วมมือด้วย โดยกลุ่มมือปืนนั้นยังเคยโทรมาข่มขู่ตนเอง แต่ก็ไม่กลัว และพวกตนก็พร้อมสู้ที่จะรักษาผืนป่าเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป
