ตรัง “หลวงพี่โจ” เน็ตไอดอลดัง งานเข้า! หลังโพสต์คลิป ลั๊นลาทริปญี่ปุ่น สำนักพุทธฯ สั่งสอบ เตรียมลงโทษทางวินัยสงฆ์ ชี้ไม่สมควร เจ้าตัวตกใจ ไม่นึกกระแสโซเชียลแรง ในขณะที่ชาวบ้าน เผย หลวงพี่โจเป็นพระนักเทศน์ที่ดี พร้อมจวกโซเชียล สังคมเดี๋ยวนี้รู้เรื่องราวอะไรเพียงเล็กน้อย ก็พากันวิจารณ์กันสนุกปาก จนเกิดความเสียหาย ไม่อยากให้พระดีๆ ต้องมาลาสิกขา
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ผู้ใช้บัญชี X (ทวิตเตอร์) Red Skull ได้เผยแพร่คลิปภาพพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง อยู่ระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ภายในคลิปจะเห็นพระสงฆ์เดินทางไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนั่งชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE ชมวิวเมืองโอซากา หรือเดินชมความงามของหอคอยซึเทนคาคุ นั่งรถไฟไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ วัดคินคะคุจิ และไปชมหิมะตกที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ยังไม่พอ ยังมีการแวะฉันราเมน ไอศกรีมชาเขียวซอฟต์ครีม พร้อมทั้งยืนถ่ายภาพในอากับกิริยาสนุกสนาน โดยบัญชี Red Skull ได้ระบุข้อความว่า “Influencer เดรสส้ม ทริปทัวร์ญี่ปุ่นฉ่ำๆ 7 วัน 7 คืน หลวงพี่โจเมืองตรังคนเดิม ที่เคยเป็นข่าวทริปดำน้ำดูปะการังทั้งผ้าเหลือง อาชีพในฝันของใครหลายๆ คน งานสบาย รายได้ดี ได้ทัวร์ต่างประเทศด้วย” พร้อมแนบข้อวัตรของพระภิกษุ 10 ประการ และตั้งคำถามว่า การไปเที่ยวต่างประเทศคือข้อไหน ทั้งนี้ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถือความเหมาะสมต่อกริยาสงฆ์อันพึงสำรวมเป็นจำนวนมาก
คืบล่าสุดวันนี้ 28 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เข้าติดต่อสอบถามไปยังสำนักพระพุทธ ศาสนาจังหวัดตรัง ถึงกรณีดังกล่าว โดยพระสงฆ์ซึ่งปรากฏตามคลิป คือ พระมหาศรนรินทร์ ธมฺมนรินโท หรือหลวงพี่โจ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยนายสุขพิชัย เชาวกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าคณะผู้ปกครอง คือเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ เจ้าคณะอำเภอ ตอนนี้รับทราบหมดแล้วในเรื่องที่เกิดขึ้น และทางท่านก็ไม่สบายใจ เพราะเป็นเรื่องของ “โลกวัชชะ” ความไม่เหมาะควร ก่อนแก่สมณะสารูปของพระที่ออกสื่อไปในลักษณะนั้น ในเบื้องต้นได้ประสานโดยด่วนไปแล้วเมื่อเช้านี้ ส่วนคลิปที่ได้ออกสื่อไปแล้ว ก็ได้ดำเนินการให้หลวงพี่โจท่านลบคลิปออกทั้งหมด และทราบว่าหลวงพี่โจจะเดินทางกลับมาที่วัดในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ และทางสำนักพระพุทธฯก็จะเข้าพิจารณาและทำการพูดคุยอีกทีว่าจะพิจารณากันในเรื่องของพระธรรมวินัย ด้วยความไม่เหมาะควรในเบื้องต้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ราคายางดิ่งกว่า 20 บาทต่อกิโลกรัม กยท.หนุนสถาบันทำโครงการชะลอยางสู้นายทุน
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- ตรัง จากสวนปาล์มตรังสู่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานต้นแบบ ขุดสระน้ำเป็นรูปเลข 9 อารบิก สอดคล้องกับแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะควร ไม่ใช่เรื่องของศาสนกิจในเรื่องของการเผยแผ่ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งทางพระท่านก็ทำไปด้วยในส่วนของท่าน ไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน ว่าที่ภาพออกไปไม่เหมาะควร ส่วนจะไปในโครงการอะไรนั้นเรายังไม่ทราบเช่นกัน แต่ตอนนี้ได้ประสานติดต่อหลวงพี่โจได้แล้ว และทางโน้นก็ตกใจเหมือนกัน ที่กระแสสังคมตีออกมาในลักษณะนี้ บอกแล้วว่าตรงนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะควร ทางเจ้าคณะปกครองก็ได้อบรมข้ามไปทางโน้นแล้ว ซึ่งขณะนี้หลวงพี่โจยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ได้ให้รีบดำเนินการลบคลิปทั้งหมดออกแล้ว หลังจากที่เดินทางกลับมา ก็น่าจะมาดำเนินการพูดคุยในหมู่ของภิกษุสงฆ์กันอีกที ในส่วนของสำนักงานพระพุทธฯ ก็ได้ดำเนินการประสานรายงานผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น แจ้งคณะปกครองสงฆ์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แล้วก็รีบดำเนินการโดยด่วน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดไร่พรุ ม.8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นวัดที่หลวงพี่โจสังกัดอยู่ และ หลวงพี่โจ มีตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ เพื่อสัมภาษณ์เจ้าอาวาส แต่ปรากฎว่าเจ้าอาวาสไปปฏิบัติศาสนกิจที่อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง
.
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้าน ที่เดินทางมาให้อาหารสุนัขและแมวในวัดเป็นประจำทุกวัน
นางอารมณ์ ปิดนุ้ย อายุ 74 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า รู้จักพระโจเป็นอย่างดี เพราะพระโจบวชเรียนเป็นสามเณรอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนปัจจุบันนี้เป็นพระนักเทศน์ ที่เทศนาดี มีแฟนคลับจำนวนมาก เป็นที่รักของชาวบ้าน พระโจยังเปิดหัองเรียนเพื่อสอนธรรมมะให้เด็กๆในละแวกวัด เด็กบางรายที่เคยเกเร ก็กลับมาเป็นเด็กเรียบร้อยขึ้น
ส่วนเรื่องประเด็นดราม่าตนพอทราบบ้าง ซึ่งตนคิดว่าสังคมเดี๋ยวนี้รู้เรื่องราวอะไรเพียงเล็กน้อย ก็พากันวิจารณ์กันสนุกปาก จนเกิดความเสียหาย ตนไม่อยากให้พระดีๆ ต้องมาลาสิกขาเพราะประเด็นโซเซียล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นเพครอบครัวหลวงพี่โจมีฐานะยากจน ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่หลวงพี่โจยังเล็ก แม่มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง รายได้พอเลี้ยงลูกได้ไปวันๆ กระทั่งเจ้าอาวาสวัดไร่พรุเห็นเด็กชายโจประพฤติดี จึงรับบวชเรียนให้เมื่อครั้งอายุเพียง 5 ขวบ ก็ได้ศึกษาธรรมมะตลอดมา ทำให้แม่มีภาระน้อยลง และได้อาศัยข้าววัดประทังชีวิต ทั้งนี้โดยบุคลิกแล้วหลวงพี่โจมีความสุภาพนอบน้อม มีอัธยาศัยดี มีความรู้เรื่องธรรมะค่อนข้างมาก เพราะบวชเรียนมาตั้งแต่เด็ก และด้วยมีบุคลิกเป็นกันเอง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส จึงเป็นที่รักของชาวบ้าน ไม่เว้นแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ และเป็นพระที่เทศนาธรรมสนุก และเริ่มมีชื่อเสียงในช่วงที่โซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่นิยม มี TIKTOK ผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดราม่าจากคลิปดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: