ตรัง- รองผู้ว่าฯตรัง ลงพื้นที่ตรวจติดตามดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทางทะเล เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และร่วมวางแผนการจัดระเบียบเรือบริเวณหน้าถ้ำมรกต ซึ่งมีเรือและนักท่องเที่ยวหนาแน่น ทั้งนี้ พบนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เดินทางมาจากจ.กระบี่ ไม่สวมเสื้อชูชีพขณะลงเรือ จึงได้ตักเตือนเจ้าของเรือ และเตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการเรือท่องเที่ย วทั้งเรือทัวร์ และเรือหางยาวจากจ.กระบี่ในเร็วๆนี้ เพื่อกำหนดมาตรการความปลอดภัยในการเข้ามาท่องเที่ยวเขตอุทยานฯจ.ตรัง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งในช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาล
ที่บริเวณท่าเทียบเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง ประตูสู่ทะเลอันดามัน นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง , การท่องเที่ยวและกีฬาจ.ตรัง , ตำรวจท่องเที่ยวตรัง เดินทางลงพื้นที่ติดตามดูแลความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเลจ.ตรังในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ทั้งที่บริเวณท่าเรือต่างๆทั้งท่าเรือปากเมง จุดกางเต้นท์ภายในเขตอุทยานฯ ท่าเรือควนตุ้งกู หน้าถ้ำมรกต และที่เกาะกระดาน โดยมีนายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำผู้ประกอบการ เรือนำเที่ยว ไกด์นำเที่ยว และพบปะกับนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการเก็บขยะที่นำไปกลับขึ้นฝั่ง เพื่อร่วมกันรักษาความสะอาด จากนั้นได้เดินทางไปพบกับนักท่องเที่ยวบริเวณจุดกางเต้นท์ ภายในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่ในปีนี้พบว่านักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ และต่างจังหวัดจำนวนมากเดินทางมาจับจองพื้นที่ เพื่อกางเต้นท์ฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั้งนี้ ทางอุทยานฯจัดกิจกรรมส่งเสริมการเก็บขยะกลับบ้าน โดยนักท่องเที่ยวสามารถนำขยะที่ได้จากการเข้าพักและกางเต้นท์มาชั่งน้ำหนักและจับสลากรับของขวัญปีใหม่ จากนั้นให้นำขยะกลับบ้านหรือไปจำหน่ายต่อไป
จากนั้นทางคณะรองผู้ว่าฯตรัง ได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าถ้ำมรกต แหล่งท่องเที่ยวเป้าหมายสำคัญอีกจุดหนึ่งของนักท่องเที่ยว ซึ่งพบว่าหนาแน่นไปด้วยเรือทัวร์ขนาดใหญ่ และเรือหางยาวทั้งจากในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯและคณะได้ร่วมกันดูความเรียบร้อยในการจัดระเบียบเรือ การเข้าภายในถ้ำ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเขตอุทยานฯ จึงได้ร่วมกันวางแผนในการจัดระเบียบเรือ หรือการจราจรเรือบริเวณหน้าถ้ำมรกต โดยเตรียมวางทุ่น กำหนดจุดจอดเรือแยกประเภทระหว่างเรือทัวร์ขนาดใหญ่ และเรือหางยาวขนาดเล็ก เพื่อความคล่องตัว และปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่อาจเกิดอันตรายจากใบพัดเรือขณะลอยตัวในน้ำ ทั้งนี้ พบนักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วนจาก จ.กระบี่ ไม่สวมเสื้อชูชีพขณะลงเรือและลงเล่นน้ำ จึงได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการ และทางอุทยานฯเตรียมเรียกผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวจากจ.กระบี่ที่เข้าท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯหาดเจ้าไหม จ.ตรัง มาประชุมร่วมกัน เพื่อกำหนดมาตรการความปลอดภัย หากเข้ามาเที่ยวในเขตอุทยานฯจ.ตรัง ส่วนที่เกาะกระดานก็เช่นเดียวกันพบว่าหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว และเรือจำนวนมากที่มาจากทั้งในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.สตูล และจ.กระบี่
นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง บอกว่า ลงพื้นที่ติดตามาตรการความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล ทั้งที่ท่าเทียบเรือ บริเวณหน้าถ้ำมรกต และเกาะต่างๆ เน้นย้ำความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ บริเวณหน้าถ้ำมรกต พบนักท่องเที่ยวจากกระบี่บางส่วนไม่สวมชูชีพกระโดดลงเล่นน้ำ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตักเตือนผู้ประกอบการ ในส่วนนักท่องเที่ยวจ.ตรังทราบกติกาดี ก็จะดูการอำนวยความสะดวกของผู้ประกอบการ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ชื่นชมว่าการบริการดี และเจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำดีมาก รองลงมาคือ เน้นย้ำเรื่องขยะ เพราะการท่องเที่ยวจังหวัดตรังเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มาท่องเที่ยวมีขยะเท่าไร ก็ต้องนำกลับทั้งหมดไม่ให้มีขยะตกค้าง ส่วนปริมาณนักท่องเที่ยวพบว่ามีจำนวนมาก แต่จะมากยิ่งขึ้นในวันที่ 31 ธค.เพราะนักท่องเที่ยวไทยงดเว้นค่าธรรมเนียม ประกอบกับฝั่งอันดามันไม่มีคลื่นลม เพราะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวจะเข้ามาเยอะมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างเต็มที่ เน้นมาตรการความปลอดภัยเคร่งครัด
