ตรัง ชง 7 โครงการ 253 ล้าน เวทีครม.สัญจรระนอง ผวจ. แย้ม อาจมีข่าวดีปรับปรุงท่าเรือท่องเที่ยวสู่เกาะกระดาน ส่วนโครงการอื่นหวังครม.ดันเข้างบกระทรวงต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตรังว่า เมื่อเร็วๆนี้ในการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชนจ.ตรัง(กรอ.ตรัง) ซึ่งมีนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจ.ตรังเป็นประธาน ทีาประชุมได้ข้อสรุปเตรียมเสนอโครงการเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 1/2567 ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2567 ณ จังหวัดระนอง รวม 7 โครงการ งบประมาณรวม 253 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือควนตุ้งกู บ้านควนตุ้งกู ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 2.โครงการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมอย่างครบวงจร ด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV 3.โครงการปรับปรุงโป๊ะท่าเทียบเรือหาดยาวและสิ่งก่อสร้าง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 4.โครงการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง เป็นไฟฟ้ากิ่งคู่ เสาสูง 9 เมตร (กะปาง-ห้วยนาง, ห้วยนาง-ต้นม่วง, นาวง-ห้วยยอด) 5.โครงการปรับปรุงถนนทางหลวงหมายเลข 4264 ควบคุม 0100 ตอน บ้านช่อง-หาดเลา ระยะทาง 5.35 กิโลเมตร และ 6.โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายากจังหวัดตรัง ระยะที่ 2 และ 7.โครงการพัฒนาสนามกีฬาเทศบาลนครตรังสู่มาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการที่จังหวัดเสนอมีจำนวนมาก แต่ปี 2567 แต่ละจังหวัดจะได้รับงบประมาณเพียง 50 ล้านบาท จ.ตรังจึงต้องจัดสรรตามความเร่งด่วน อาทิ 1.โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือควนตุ้งกู งบประมาณ 20 ล้านบาท เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือที่มีความสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้สัญจรไปยังเกาะไหง เกาะลิบง และเกาะกระดาน ซึ่งถูดจัดอันดับเป็นชายหายที่ดีที่สุดในโลก 2.โครงการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสู่มาตรฐานการท่องเที่ยว คือการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้มีความปลอดภัย งบประมาณ 10 ล้านบาท และ 3.โครงการปรับปรุงโป๊ะท่าเทียบเรือหาดยาว โดยจะมีการก่อสร้างห้องน้ำและหลังคา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่จะไปเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล จะมาลงเรือที่ท่าเรือแห่งนี้
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจ.ตรัง เปิดเผยว่า หน่วยงานกลางคือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) สำนักงบประมาณ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดกรอบของโครงการอยู่ในวงเงินประมาณ 50 ล้านบาท และเป็นโครงการที่มีความพร้อม เช่น มีแบบแปลน การขอใช้พื้นที่เรียบร้อย เป็นโครงการที่มีความจำเป็น ต้องมีระยะเวลาแล้วเสร็จในเวลา 1 ปี ส่วนโครงการของกลุ่มจังหวัดนั้นเป็นหน้าที่ของหัวหน้ากลุ่มจังหวัด ที่จะเรียงลำดับความสำคัญ ซึ่งสภาพัฒน์เป็นหน่วยงานกลางเขาจะดูให้ วิเคราะห์ความเหมาะสมต่างๆให้ ตอนนี้หน่วยงานกลางได้ลงพื้นที่โครงการและความเหมาะสม เบื้องต้นโครงการที่จ.ตรังเสนอไป 50-60% เป็นโครงการที่ผ่านการประชุม กรอ. ส่วนที่เหลือเป็นความคิดเห็นของสภาพัฒน์ และ สำนักงบประมาณที่ให้เราปรับปรุงเล็กน้อย และสุดท้ายก็อยู่ที่มติ ครม.ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งเท่าที่ตนทราบ เช่น โครงการซ่อมแซมท่าเรือกันตัง งบประมาณ 20 ล้านบาท น่าจะได้รับการคัดเลือก
นายทรงกลดกล่าวด้วยว่า ส่วนโครงการอื่นๆที่เสนอไป หากครม.ยังไม่อนุมัติ เราก็ต้องการให้ ครม.ช่วยผลักดันให้กระทรวงต่างๆที่ดูแล นำไปจัดในโครงการงบประมาณของกรม หรือ กระทรวงนั้นๆ โดยมีหน่วยงานระดับกรม กระทรวง เป็นคู่สัญญากับผู้รับจ้าง เพราะบางโครงการที่เราเสนอไปมีวงเงินสูง หากเราเสนอไปในช่องทางของงบจังหวัด เราก็ได้เงินมาไม่เยอะ หรือ วงเงินที่เสนอเกินกรอบวงเงินจังหวัด จึงอยากให้ผลักดันผ่านงบกระทรวงจะดีกว่า
