ตรัง-ผบช.ภ.9 ลุยเดินหน้าปราบอาชญากรรมเยาวชน-แก๊งป่วนเมือง เน้นงานป้อง-ปราบ ควบคู่ทำความเข้าใจ ลั่น ลูกตำรวจต้องเป็นแบบอย่าง ขานรับนโยบายปบ.ตร. ตำรวจยุคใหม่ ไม่อุ้มหาย-ทรมานผู้ต้องหา เน้น นิติวิทยาศาสตร์ พยานหลักฐาน ไม่ข่มขู่บังคับเอาคำรับสารภาพ เชื่อ ไม่มีอาชญากรรมไหนไม่ทิ้งร่องรอย ยัน รปภ.โรงเรียนหลังยกเลิกครูเวร เป็นหน้าที่ แต่ตำรวจแค่ช่วยบูรณาการทุกหน่วยงาน ให้โรงเรียนเป็นของคนในชุมชนทุกคน
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง อ.เมือง จ.ตรัง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ให้สัมภาษณ์ถึงการกวนขันปราบปรามอาชญากรรมกลุ่มแก๊งป่วนเหมืองในพื้นที่ โดยเฉพาะอาชญากรรมเยาวชนตามนโยบายพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ว่า ทุกวันนี้ปัญหาสังคมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเด็กหรือเยาวชนที่บางส่วนเพราะความคึกคะนอง หรือบางส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจเราต้องเข้าไปดูแลในทุกมิติ ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การประชาสัมพันธ์ การทำความเข้าใจกับชุมชน ตอนนี้ตนได้ให้ความสำคัญกับครูแดร (ครูD.A.R.E.) เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนเข้าสู่กระบวนยาเสพติด ส่วนเรื่องอาชญากรรม แก๊งป่วนเมือง แก๊งรถซิ่ง ซึ่งพบมากบนทางหลวงหรือเส้นทางหลัก มีอยู่ทุกพื้นที่ ตนพยามกำชับและให้วางมาตรการป้องกันที่พบมาก เช่น จ.ยะลา จ.สงขลา ถือว่าเขาทำได้ดี มีการติดตามตัวทั้งแต่ต้นทาง ติดตามพฤติกรรมถึงบ้าน และมีการพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็ก ในส่วนของบุตรหลานเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง เราได้ให้นโยบายว่า เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะเราเป็นครอบครัวผู้รักษากฎหมาย พ่อแม่ก็ต้องดูแลอบรมบุตรหลาน หากมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น เราก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนอยากให้ใช้มาตรการป้องกันก่อน และ ใช้มาตรการด้านกฎหมายเป็นเรื่องสุดท้าย แต่การบังคับใช้กฎหมายไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นใคร เราก็บังคับกฎหมายเหมือนกัน ซึ่งตนได้เน้นย้ำนโยบายของผบ.ตร. เรื่องยาเสพติด เรื่องเด็กและเยาวชน เรื่องอาชญากรรม
ผบช.ภ.9กล่าวถึงแนวทางการทำงานสืบสวนสอบสวนใหม่ตามนโยบายสำนักงานจำรวจแห่งชาติ(สตช.)ของตำรวจภูธรภาค 9 โดยยึดข้อกฎหมาย สิทธิมนุษยชนตามพ.ร.บ.ป้องกันการอุ้มหาย ว่า ตอนนี้โลกมันไปไกลมาก มีนิติวิทยาศาสตร์ มีเทคโนโลยี มีการสอบสวน มีกล้องวงจรปิด มีประชาชนที่คอยเป็นหูเป็นตา ดังนั้นเราต้องทำงานอย่างมืออาชีพ จะได้อะไรมาก็แล้วแต่ แต่ต้องได้มาจากความบริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้าได้มาแบบผิดๆความยุติธรรมก็จะบิดเบี้ยว และจะเป็นปัญหาต่อๆไปในอนาคต ดังนั้นการได้มาซึ่งคำรับสารภาพ ต้องเป็นคำรับสารภาพที่จำนนด้วยพยานหลักฐาน ด้วยความสมัครใจ เพราะไม่มีการกระทำความผิดใดที่ไม่ทิ้งพยานหลักฐานไว้ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันหาให้เจอ
ข่าวน่าสนใจ:
ผบช.ภ.9 ยังกล่าวถึงแนวทางการบูรณาการรักษาความปลอดภัยโรงเรียนภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติยกเลิกครูเวร ว่า ในการดำเนินการของฝ่ายตำรวจเรื่องเวรโรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนกังวลว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าโรงเรียนนั้นไม่ใช่ แต่เราจะต้องทำอย่างไรให้โรงเรียนเป็นของชุมชน ชุมชนรักโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเข้าไปดูแล ทำโรงเรียนให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งอะไรที่เป็นการดูแลความสงบปลอดภัยของสังคม เจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีทำ และทำอย่างมีประสิทธิภาพ หากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอ เราก็ดึงภาคีเครือข่ายมาร่วมด้วยความสมัครใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: