ตรัง ชายพิการสุดทน ปีนหอนาฬิกาตรังซ้ำสอง ประเดิมหลังทน.ตรังทาสีใหม่เตรียมต้อนรับตรุษจีน “หลวงไข่” อดีตพระพิการ เรียกร้องความเป็นธรรมคดีแจ้งความฟ้องร้องตำรวจไม่คืบ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นายฌานิตย์ หรือ หลวงไข่ ฤทธิฉิม อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นชายขาพิการมาตั้งแต่กำเนิด อดีตเคยบวชเป็นพระ 9 พรรษา และชอบธุดงค์ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังหุ้มส้น สวมหมวกแก๊ปสีดำ และสะพายเป้ ได้หวนกลับมาปีนขึ้นหอนาฬิกาเมืองตรัง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คจ.ตรังซ้ำอีกครั้ง จากที่เคยมาปีนแล้วเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้นายฌานิตย์ปีนขึ้นไปแล้วประมาณ 3 เมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง 5-6 นายที่อยู่ใกล้เคียงจะรีบเข้าระงับเหตุได้ทัน พร้อมเจรจาเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ และเมื่อลงมาถึง นายฌานิตย์ ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจมาปีนหอนาฬิกาเมืองตรังอีกครั้งในวันนี้ ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 ตนได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ร.ต.ต.การุณ จันแสง อดีตตำรวจนอกราชการ พร้อมพวก ในข้อหา พยายามฆ่าชิงทรัพย์ คนพิการ คือ พระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งมีราคาหลาย 10 ล้านบาท ที่เจ้าของตั้งใจน้อมเกล้าถวายเพื่อเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน และรื้อคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพยายามฆ่า ปิดคดีหมิ่นประมาท ที่วัดทุ่งนา ม.2 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค.2551 โดยมี ว่าที่ ร.ต.อ. นรชัย แก้วหนู รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรังในขณะนั้นได้รับแจ้งความเป็นเจ้าของคดี และจนถึงขณะนี้ตนรู้สึกว่าก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ผ่านโต๊ะแถลงข่าว
นายฌานิตย์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้มีการดำเนินคดี เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ อัยการยกฟ้องและตอนนี้ตนก็ได้ รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เตรียมฟ้องร้องด้วยตนเองเนื่องจากคดียังไม่ขาดอายุความ และอยากให้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจช่วยให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย ที่ได้เรียกร้องเพราะมีผลกระทบเกิดขึ้นมา 2 ฝ่ายแล้ว ทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครอง เนื่องจากมีเอกสาร ลงวันที่ 9 ม.ค. 2567 เป็นเอกสารแถลงข่าวแก้ต่างของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และหนังสือชี้แจงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง ซึ่งตัวเองเชื่อว่า ข้อมูลต่างๆ มาจากคู่กรณีของตน แล้วที่ตนได้มาขึ้นปีนหอนาฬิกาอีกในวันนี้ ทุกฝ่ายเข้าข้างคู่กรณีของตน แล้วมารังแกประชาชนคนพิการ ตนทนไม่ได้จึงมาปีนหอนาฬิกาอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและเปิดเผยความจริง อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินคดีด้วย และขอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจบ้านตัวเองด้วย
ทั้งนี้นายฌานิตย์ ได้แสดงหลักฐานเอกสารต่างๆด้วย อาทิ เอกสารฟ้องร้อง , เอกสารแจ้งความดำเนินคดีปี 2551, ปี 2565 , ภาพข่าวหนังสือพิมพ์ที่โดนยิงถล่มเมื่อปี พ.ศ.2551, ใบอนุญาตอาวุธปืนให้มีและใช้อาวุธปืน , ใบตรวจสอบพระแท้สมเด็จพระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม พิมพ์ทรงพิมพ์ใหญ่พระประทาน พร้อมโชว์พระสมเด็จองค์ดังกล่าว ทั้งนี้สำหรับหอนาฬิกาตรัง เพิ่งได้รับการซ่อมแซมทาสีใหม่โดยเทศบาลนครตรังเสร็จหมาดๆ หลังจากตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เมื่อช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา ที่มีการนำพญานาคสัญลักษณ์ปีมะโรง มาตกแต่งทั้ง 4 ทิศของหอนาฬิกาตรังว่าไม่เข้ากับบริบทวัฒนธรรมภาคใต้ แทนที่จะซ่อมแซมทาสีเพราะมีสภาพทรุดโทรม กระทั่งเทศบาลนครตรังได้ซ่อมแซมด้วยการทาสีขาวแล้วเสร็จไม่ถึงสัปดาห์ ก่อนที่นายฌานิตย์จะหวนกลับมาปีนซ้ำอีกครั้งในวันนี้ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะผ่านการซ่อมแซมทาสีใหม่แล้ว แต่เข็มนาฬิกาทั้งเข็มสั้นและเข็มยาวของหอนาฬิกาตรังกลับหยุดนิ่ง ไม่หมุนอย่างปกติ โดยหยุดเสียอยู่ที่เวลา 08.30 น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: