จ.ตรัง ยังคงเร่งแก้หนี้นอกระบบ โดยยังคงเปิดรับลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบทุกวันทั้ง 10 อำเภอ ไปจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ตามนโยบายรัฐบาล
ล่าสุด ที่อาคารอเนกประสงค์เทศบาลนครตรัง จ.ตรัง จ.ตรังได้เปิดตลาดนัดแก้หนี้ในระดับจังหวัด โดยนายมานิตย์ ท่าจีน จ่าจังหวัดตรัง บอกว่า นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ 1 ธันวาคม 2566 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2567 จ.ตรังมีลูกหนี้นอกระบบมาลงทะเบียน จำนวน 2,260 ราย มูลค่าหนี้ 131,077,589 ล้านบาท ระบุชื่อเจ้าหนี้ไว้ประมาณ 1,774 ราย ผลการดำเนินการแก้ไข จำหน่ายเรื่องจำนวน 228 ข้อพิพาท ลูกหนี้และเจ้าหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน 149 ข้อพิพาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 131 ข้อพิพาท มูลค่าหนี้ก่อนไกล่เกลี่ยจำนวน 12,724,500 บาท มูลค่าหนี้หลังไกล่เกลี่ย จำนวน 11,875,600 บาท ยุติเรื่องเนื่องจากไม่สมัครใจไกล่เกลี่ยต่อจำนวน 29 ข้อพิพาท ยุติเรื่องเนื่องจากประสงค์ให้หน่วยงานอื่นดำเนินการไกล่เกลี่ยแทน จำนวน 2 ข้อพิพาท โดยตลอดระยะเวลาที่เปิดรับลงทะเบียนทุกวันทั้ง 10 อำเภอ แต่จ.ตรัง จะดำเนินการเชิงรุกในลักษณะคู่ขนานกับการรับลงทะเบียน โดยการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ใน 3 ช่องทาง คือ ถ้าเป็นหนี้ที่พอคุยกันได้ในระดับหมู่บ้าน ก็ใช้ในรูปแบบของคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้ไกล่เกลี่ย , ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ก็ใช้ช่องทางการไกล่เกลี่ยในรูปแบบคณะกรรมการไกล่เกลี่ยระดับอำเภอ และทุกอำเภอจะมีการออกหน่วยสัญจรไปในตำบลหรือหมู่บ้าน สัปดาห์ละ 1 วัน หรืออำเภอละ 4 ครั้งต่อเดือน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชน และเปิดตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัด เดือนละ 1 ครั้ง โดยมีการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สถาบันการเงิน คือ ธนาคารออมสินมาร่วมในการแก้ปัญหาในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งการแนะนำอาชีพ ทั้งนี้ นอกจากมีเจ้าหนี้ปล่อยกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกำหนดแล้ว ยังมีเจ้าหนี้ที่เก็บดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด แต่ลูกหนี้ไม่มีวินัยในการจ่ายหนี้ก็มี ซี่งทางจังหวัดไม่ได้ดูเฉพาะปัญหาของลูกหนี้เท่านั้น แต่ดูปัญหาของเจ้าหนี้ด้วยมาหาทางไกล่เกลี่ยกัน
ด้านลูกหนี้รายหนึ่งที่เดินทางมาเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ บอกว่า ตนเองเป็นหนี้มาตั้งแต่ปี 2564 จำนวนเงิน 80,000 บาท โดยดอกเบี้ยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ 5 แต่ที่ผ่านมาจ่ายได้แต่ดอกเบี้ย ไม่เคยได้ผ่อนเงินต้นคืนเพราะไม่ทัน ทำให้ผ่านมาประมาณ 4 ปี เงินต้นก็ยังเท่าเดิม โดยจ่ายดอกมาได้ประมาณ 30,000 บาท มาวันนี้พร้อมเจ้าหนี้สามารถตกลงกันได้ โดยจะขอจ่ายแต่เงินต้นคืน ทำให้ตนเองรู้สึกดีใจ โดยตนเองจะจ่ายคืนเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งเจ้าหนี้ของตนเป็นคนใจดี ที่ผ่านมาไปทวงตนเองบ้าง แต่เมื่อทวงแล้วไม่ได้ก็จะกลับ ไม่เคยด่าว่าตนเองสักครั้ง หลังจากนี้จะทยอยผ่อนคืนเงินต้นให้ได้ทุกเดือน
ด้านคุณป้า เจ้าหนี้รายนี้ อายุ 69 ปี บอกว่า ตนเองปล่อยเงินกู้ตามกฎหมายไม่ได้เกินที่กฎหมายกำหนด ลูกหนี้มีหลายราย ส่วนใหญ่ให้กู้รายละ 4,000 -5,000 บาท แต่มีหลักแสนประมาณ 1-2 ราย ทั้งนี้ ลูกหนี้ตนหลายรายก็ผ่อนให้ตามปกติ หลายรายเป็นหนี้รายวันกับเจ้าหนี้รายอื่นด้วย ทำให้ไม่ได้จ่ายให้ตนเอง เพราะขอไปจ่ายให้หนี้รายวันก่อนเพราะดอกเบี้ยแพง บอกว่าค่อยมาผ่อนป้า แต่ก็ไม่ได้ผ่อน จึงค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ผ่อนจ่ายให้ตนเอง จึงได้มาเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยสำหรับคนที่ไม่ได้ผ่อน หลังจากนี้ตนเองก็จะหยุดแล้ว เพราะทำมานานแล้วตั้งแต่ 2551 เพราะเหนื่อยไปเก็บก็ไม่ได้ และด่าก็ไม่เป็น ครั้งนี้มาไกล่เกลี่ยกันประมาณ 3 ราย ตนขอเงินต้นคืนเท่านั้น บางคนก็ขอผ่อนเดือนละ 1,500 บาท แต่บางคนก็ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท ที่มากๆไม่กี่คน แต่ที่มีหลายรายๆละ 4,000-5,000 บาท แต่เขาไม่มา ตนเองปล่อยกู้ตามกฎหมาย เป็นเงินที่เก็บสะสมมาจากการกรีดยาง มีสวนปาล์มเล็กน้อย ส่วนตัวไม่เคยติดหนี้ใครมาก่อน ไม่เคยกู้เงิน
