ตรัง-อลหม่าน! เพลิงโหมโรงหนังเก่าแห่งสุดท้าย “เพชรรามา” กลางย่านเศรษฐกิจเมืองตรัง ชาวบ้านเผย พบชายเสียสติเข้าพักอาศัย ขอซื้อไฟแช็คก่อนหน้า 2 วัน
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง รับแจ้งเหตุเพลิงใหม่อาคารโรงภาพยนตร์ร้าง เพชรรามา ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งตั้งอยู่กลางชุมชนเมือง ล้อมรอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า ศูนย์อาหาร โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และย่านเศรษฐกิจสำคัญ เมื่อได้รับแจ้งจึงระดมเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงจำนวน 2 คัน เข้าดับไฟอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบสภาพอาคารโรงภาพยนตร์ร้าง เป็นอาคารคอนกรีต สูง 3 ชั้นขนาดใหญ่ ขนาดพื้นที่รวมเกือบ 2 ไร่ มีควันพวยพุ่งรุนแรงจากบนชั้น 3
ของอาคาร ซึ่งเป็นห้องฉายภาพยนตร์เก่าที่ปัจุบันมีสภาพทรุดโทรมไม่มีหลังคาปกคลุม จึงเร่งทำการเข้าฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางชาวบ้านในพื้นที่ที่ต่างแตกตื่นตกใจ และเข้ามามุงดูด้านล่างเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบริเวณภายในห้องฉายภาพยนตร์บนชั้น 3 ของอาคาร เป็นลานกว้าง มีต้นไม้และหญ้าแห้งปกคลุมเป็นจำนวนมาก ทำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ประกอบกับอากาศร้อนแล้ง และมีลมแรง ทำให้เปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่นับสิบนายใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงให้ทั่วบริเวณอาคาร เพื่อป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก
ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุชาวบ้านรอบๆดำเนินชีวิตกันตาnah มปกติ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เที่ยงจึงมีผู้คนแวะเวียนเข้ามารับประทานอาหารกลางวันยังศูนย์อาหารเพชรรามาซึ่งอยู่ติดกับโรงภาพยนตร์และร้านอาหารอื่นๆบริเวณโดยรอบเป็นจำนวนมาก กระทั่งมีคนสังเกตุเห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นจากชั้นบนสุดของอาคาร ทั้งนี้โรงภาพยนตร์เพชรรามา เป็นโรงภาพยนตร์เก่าแบบสแตนด์อะโลนด์แห่งสุดท้ายของจ.ตรังที่ยังไม่ถูกรื้อทิ้ง ก่อสร้างเมื่อปี 2519 หรือกว่า 48 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นทรัพย์สินรอจำหน่ายภายใต้การดูแลของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม่ในครั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะเป็นอาคารร้างที่ไม่มีไฟฟ้า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีชายเร่ร่อนเข้ามาพักอาศัยอยู่ภายในใต้ถุนด้านล่างอาคารหลายปี แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเจ้าหน้าที่พม.มานำตัวไปดูแลรักษาแล้ว กระทั่ง 2 วันก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้มีชายวัยกลางคนเสียสติอีกรายหนึ่งเข้ามาเดินป้วนเปี้ยนในบริเวณดังกล่าวและเข้าไปขอซื้อไฟแช็คจากร้านค้า แต่เจ้าของร้านประเมินแล้วดูท่าทางมีมติไม่สมประกอบจึงไม่ขายให้ ชายคนดังกล่าวจึงเดินเข้าไปพักอาศัยภายในตัวอาคาร พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษขยะนำไปกองสุมไว้บริเวณบันไดทางขึ้นไปยังห้องฉายภาพยนตร์ กระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น เมื่อเพลิงสงบแล้วตรวจสอบพบว่าข้าวของเครื่องใช้และเศษขยะต่าง ๆ ยังคงอยู่ แต่ตัวชายคนดังกล่าวได้หายตัวไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.เมืองตรัง ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่เบื้องต้น เพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้ามาตรวจสอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาต้นตอของสาเหตุเพลิงใหม้ในครั้งนี้ต่อไป
