ตรัง-ชายชาวสวิสทำร้ายป้าชาวตรังสาหัส ปฏิเสธการประกันตัว ขอนอนเรือนจำ เมียหอบ 5 หมื่นเก้อรอประกัน แถมถูกตัดความสัมพันธ์ ลูกคนเจ็บ จี้ตร.เพิ่มข้อหาพยายามฆ่า เหตุต่อยทำร้ายรุนแรง เจตนาใช้เข่ากดคอ ตร.ท่องเที่ยวเผย ยื่นถอนวีซ่าทำได้ตามกระบวนการ ตร.ประสานทุกด่านตม.หากได้รับประกัน ห้ามออกนอกประเทศจนกว่าคดีสิ้นสุด
วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า จากกรณีชายชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 60 ปี ซึ่งพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง โดยถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ทราบชื่อตามหนังสือเดินทาง ระบุชื่อ Mr.Straumann Dietermatthias ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางนัฎชนันท์ ขิกขำ หรือ แม่รี อายุ 58 ปี อาการสาหัสรุนแรงกลางห้างดังภายในเขตเทศบาลนครตรัง จนจมูกหัก ตาบวม หลังบวม มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเนื่องจากจากจมูกหัก ต้องพักรักษาตัวไม่น้อยกว่า 1 เดือน โดยผู้บาดเจ็บและญาติยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัว Mr.Straumann ไปยัง สภ.เมืองตรัง และสอบสวนร่วมกับ เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่ Mr.Straumann ไม่ยอมปริปากให้การใดๆ ทำให้การสอบสวนกินเวลานานข้ามคืน สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพิ่มข้อหาขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเจ้าตัวไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือและลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหาใดๆในเอกสาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังชั่วคาวผัดแรกเป็นเวลา 12 วันแล้วเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งติดตามไปที่ศาลจังหวัดตรังในขั้นตอนการฝากขังชั่วคราว ด้วยว่า ในระหว่างการไต่สวนพิจารณาฝากขังนั้น ศาลจังหวัดตรังได้อนุญาตให้ผู้ต้องหาใช้ล่ามพิเศษ เป็นชาวเยอรมัน และศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาสามารถประกันตัวได้ โดยกำหนดวงเงินประกันจำนวน 50,000 บาท ซึ่งต่อมาภรรยาของผู้ต้องหาได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดตรังด้วย โดยยืนยันว่าเลิกความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากับผู้ต้องหามานานแล้ว พร้อมยื่นหลักทรัพย์วงเงิน 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลืออดีตสามีในการขอประกันตัว แต่ตัวผู้ต้องหาเองซึ่งเป็นอดีตสามีได้ปฏิเสธรับความช่วยเหลือ และยืนยันไม่ต้องติดต่อสถานทูต หรือติดต่อญาติ และขอเข้าเรือนจำเท่านั้น ในที่สุดจึงไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับการประกันตัวในภายหลัง แต่เนื่องจากเป็นคดีอาญาทำร้ายร่างกายรุนแรง พนักงานสอบสวนได้ประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ห้ามมิให้ผู้ก่อเหตุเดินทางออกจากประเทศไทยทุกด่าน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ชายชาวสวิสเซอร์แลนด์คนดังกล่าวซึ่งพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง ถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ จากคดีที่เกิดขึ้น ในเรื่องวีซ่า สามารถเพิกถอนได้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเพิกถอนเนื่องจากเป็นอำนาจของตม. และวีซ่ายังไม่หมดอายุ โดยจะหมดในเดือน 14 พฤศจิกายนนี้ ในส่วนกรณีชาวสวิสที่ภูเก็ตนั้นทางจังหวัดภูเก็ตได้ขอเพิกถอนวีซ่า แต่ในส่วนของจังหวัดตรังนั้นอยู่ในกระบวนการชั้นศาลจังหวัดตรัง และผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมปริปากแต่อย่างใด ขึ้นอยู่ที่อำนาจของศาลพิจารณา แต่หากมีผู้ยื่นร้องขอเพิกถอนวีซ่าก็สามารถทำได้ เพราะเป็นวีซ่าวัยเกษียณใช้ชีวิตบั้นปลายเหมือนกัน
ข่าวน่าสนใจ:
นายกฤตพงศ์ ขิกขำ ลูกชายของนางนัฎชนันท์ ผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่า จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามกังวลเรื่องของคดีว่าจะไปถึงไหนอย่างไร และมองว่าข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น เบาเกินไป เพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหากระทำรุนแรงเข้าข่ายพยายามฆ่าได้ เพราะมีการใช้เข่ากดบริเวณลำคอ ทำให้หายใจไม่ออก และรัวกำปั้นชกต่อยบริเวณใบหน้าไม่ยั้งไม่ต่ำกว่า 20 หมัด ทำให้มารดาได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณใบหน้า อยากให้ตำรวจแจ้งข้อหาให้หนักขึ้น เป็นพยายามฆ่า เพื่อจะได้ไม่ออกมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก ขณะที่แม่แพทย์ระบุว่า ยังคงต้องรักษาตัวต่อไปอีกนานไม่ต่ำกว่า 4- 6 อาทิตย์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: