อีกไม่นานก็จะเปิดเทอมใหม่แล้ว พบว่าผู้ปกครองเริ่มพาบุตรหลานออกมาเลือกซื้อชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋าและอุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนกันแล้ว ด้านร้านค้า ระบุ ปีนี้สภาพเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนขาดกำลังซื้อ ปกติจะคึกคักตั้งแต่เริ่มต้นเดือนเมษายน แต่ปีนี้เริ่มออกมาหาซื้อหลังสงกรานต์ผ่านไปแล้ว และพบว่าประหยัดกันมากซื้อแต่ที่จำเป็นเท่านั้น ขณะนี้ราคาสินค้าปีนี้ไม่ได้มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด
เช่น ที่ร้านฮั่วมุ้ย ถนนท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรังนางสาวอุบล วัชโรทยางกูร เจ้าของร้าน บอกว่า ที่ร้านขายแต่ชุดนักเรียน โดยต้นทางปีนี้เสื้อผ้า ชุด นร.ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ทางร้านก็ไม่ได้ปรับขึ้น ส่วนปริมาณสินค้าที่สั่งมาขายจะดูยอดการขายของปีที่แล้ว แต่สั่งมาน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ดี คนขาดกำลังซื้อ สังเกตจากเมื่อปลายที่แล้ว ปกติช่วงเปิดเทอม 2 จะมีคนมาซื้อชุดนร.เพิ่ม แต่ปีนี้น้อยมาก ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ร้านค้าต่างๆ ปิดตัวกันมาก โดยผู้ปกครองซื้อก็น้อยลง เมื่อก่อนเคยซื้อคนละ 3 ชุด ปีนี้ซื้อแค่คนละ 1-2 ชุด ประหยัดกันมาก นอกจากนี้ ฝากไปถึงผู้ปกครองดูแลบุตรหลานเรื่องอาหารการกิน เพราะสังเกตพบว่าเด็กตัวจะใหญ่ขึ้นมากทุกปี ไม่ใช่โตตามอายุ แต่เป็นภาวะอ้วน เสื้อผ้าต้องใช้ชุดใหญ่ขึ้น หากใช้ไซส์ใหญ่ขึ้นราคาก็จะสูงขึ้น
เช่นเดียวกับที่ร้านนครรัตน์ ถนนท่ากลาง เขตเทศบาลนครตรัง นางยุพา เพ็ชรคง เจ้าของร้าน บอกว่า ปีนี้ทั้งชุดนร. กระเป๋า รองเท้า จากต้นทางก็ไม่ได้มีการปรับราคา เช่นเดียวกับทางร้านก็จะขายราคาเดิมไม่มีการปรับราคาเช่นกัน ขายตามราคาป้ายที่มีอย่างชัดเจนโดยให้ลูกค้าดูว่าแต่ละไซส์ แต่ละขนาดนั้นราคาเท่าไร ซึ่งเป็นราคาเดียวกันทั้งหมด แต่จะลดเปอร์เซ็นต์ให้ลูกค้า เช่น 10 % หรือ 15 % ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้นคนยังมาซื้อน้อย ยังต้องรอดูต่อไปปลายเดือนว่าบรรยากาศจะคึกคักหรือไม่ ทางร้านก็ลงทุนเตรียมสินค้าไว้ครบ ทั้งกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ซึ่งเสื้อผ้านั้นจะต้องให้มีทุกไซส์ ทุกขนาด เพื่อให้ลูกค้ามาแล้วได้ครบ ไม่เช่นนั้นจะขายยากหากไม่มีไซส์ให้ ร้านค้าก็มีหลายร้าน ต้องแข่งขัน เศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าก็มีการสำรวจร้านก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะต้องประชาชนประหยัด
ด้านผู้ปกครอง ซี่งมีลูก 2 คน เรียนโรงเรียนเอกชน บอกว่า เปิดเทอมต้องเตรียมเงินไว้มากพอสมควรรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ไม่รวมค่าเรียนพิเศษ ส่วนเสื้อผ้า รองเท้า ก็ซื้อที่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนหรือจำเป็นต้องซื้อเพิ่มเท่านั้น เช่น รองเท้าต้องเปลี่ยน เพิ่มชุดยุวกาชาด แต่เสื้อผ้ายังสามารถใช้ชุดเดิมได้ ก็ไม่ต้องซื้อ แต่เปิดเทอมใหม่ก็ต้องเตรียมเงินไว้มากพอสมควร
เช่นเดียวกับผู้ปกครองอีกราย พาหลานๆมาซื้อเสื้อผ้า บอกว่า หลานชายขึ้นชั้นป.1 ต้องซื้อใหม่หมด เสื้อผ้าต้อง 2 ชุด ไว้เปลี่ยน ส่วนหลานสาวขึ้นชั้น ป.4 ซื้อแต่ชุดยุวกาชาด ส่วนเสื้อผ้าใช้ของปีที่แล้ว ซึ่งยังใช้ได้ ไม่ต้องซื้อใหม่ ต้องประหยัดอะไรที่ใช้ได้ก็ใช้ไปก่อนเศรษฐกิจไม่ดี หรือซื้อชุดใหม่ก็เลือกให้ไซส์ใหญ่กว่าตัวเล็กน้อย เพื่อปีหน้าสามารถใช้ได้ต่อ เปิดเทอมทีต้องเตรียมเงินไว้มากพอสมควร
