X

ตรัง ร้อนจัดกุ้งอ่อนแอ-โตช้า เกษตรกรเคราะห์ซ้ำกุ้งราคาตกต่ำ

ตรัง-สภาพอากาศร้อนจัดทำกุ้งอ่อนแอ โตช้า และเกษตรกรยังเคราะห์ซ้ำกุ้งราคาตกต่ำลงกก.ละ 50-100 บาท ทำเกษตรกรเดือดร้อนหนักขาดทุนหลายแสนบาทต่อครั้ง ทำหลายคนหยุดเลี้ยง กระทบเป็นลูกโซ่

สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในจ.ตรัง ประสบปัญหากุ้งอ่อนแอ โตช้า และในห้วงระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ยิ่งเคราะห์ซ้ำ เนื่องจากราคากุ้งตกต่ำลงมากกก.ละ 50-100 บาท ทำเดือดร้อนอย่างหนัก ขายกุ้งไม่ได้ต้องทนเลี้ยงนานกว่าเดิม หลายรายชะลอการเลี้ยงรอดูราคาต่อไป ทำเกษตรกรเลี้ยงกุ้งเหลือน้อย กระทบเป็นลูกโซ่ทั้งผู้เลี้ยง คนจับกุ้ง คนงาน รวมทั้งแพรับซื้อ เกษตรกรหลายรายต้องยืดเวลาการเลี้ยงออกไปนานกว่าเดิม เพราะไม่มีคนซื้อทำยิ่งขาดทุนหนักบางรายต้องทยอยจับขาย เพราะขายออกไม่ได้

บางรายอย่างเช่น นายเซ่ง แซ่อุ้ย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในพื้นที่ ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง บอกว่า เลี้ยงกุ้งไว้ทั้งหมด 3 บ่อ แต่ตอนนี้หยุดเลี้ยงไป 2 บ่อ เหลือที่เลี้ยงอยู่ 1 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ปริมาณกุ้งที่จะได้ประมาณกว่า 14 ตัน ทั้งนี้ เลยเวลาจับกุ้งมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ โดยกุ้งประสบปัญหาทั้งสภาพอากาศร้อนจัด กุ้งอ่อนแอ โตช้า และยังต้องมาประสบปัญหากุ้งราคาตกต่ำ และขายไม่ได้ ซึ่งเมื่อเลยเวลาจับขายนั้น ทำให้แต่ละวันต้องเสียค่าใช้จ่ายวันละกว่า 10,000 บาท โดยอาหารยังมีราคาแพงตกกระสอบละ 1,200 บาท เฉพาะบ่อนี้ขาดทุนไปแล้วกว่า 3 แสนบาท เหตุที่ขายไม่ได้เพราะไม่มีคนซื้อ ทำให้ต้องทยอยจับขาย วันนี้ประมาณ 8 ตัน เหลืออีกประมาณ 6 ตัน ยังค้างอยู่ในบ่อ โดยราคาขายวันนี้เป็นกุ้งขนาด 45 ตัว/กก. ได้ราคากก.ละ 150 บาท ความจริงจะต้องขายได้ประมาณกก.ละ 250 บาท ทำขาดทุนกก.ละ 100 บาท ตอนนี้สถานการณ์เหมือนกันหมดทุกรายมานานประมาณ 3 เดือนแล้ว ครั้งก่อนขาดทุนไปประมาณ 5 แสนบาท ตอนนี้เหลือเลี้ยง 1 บ่อ ส่วนอีก 2 บ่อ เลิกประมาณ 2 เดือนแล้ว หลังจากนี้ต้องคิดดูอีกทีว่าจะเลี้ยงต่อหรือจะหยุดเลี้ยงก่อน หรือหากเลี้ยงก็จะเลี้ยงไม่มาก เพราะมีลูกน้องต้องดูแล อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเรื่องราคากุ้งตกต่ำ เชื่อสาเหตุมาจากปัญหาการนำเข้ากุ้ง และให้ช่วยเหลือเรื่องปัจจัยการผลิต ทั้งอาหาร เคมีภัณฑ์ต่างๆที่มีแต่ปรับราคาขึ้น ไม่ได้ลดลงเลย ตอนนี้เกษตรกรเลิกเลี้ยงไปจำนวนมาก เดือดร้อนมาก ถ้าราคาอยู่ได้ชาวบ้านก็อยู่ได้ ปัญหาเชื่อว่าเกิดจากการนำเข้ากุ้งรัฐควรดูแลปัญหาอย่างจริงจัง

เช่นเดียวกับนายมุสา มะเพ็ง อาชีพรับจ้างจับกุ้ง บอกว่า ขณะนี้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อน ทั้งสภาพอากาศร้อนจัดทำกุ้งอ่อนแอ ป่วยง่าย โตช้า ขณะที่ราคากุ้งตกต่ำมากที่สุดเป็นครั้งประวัติศาสตร์ เป็นมานานแล้วประมาณ 3 เดือน โดยกุ้งขนาด 45 ตัว/กก.เหลือกก.ละ 145-150 บาทเท่านั้น จากเดิมกก.ละ ไม่ต่ำกว่า 200 ราคา ขณะที่กุ้ง ขนาด 100 ตัว/กก. ตอนนี้เหลือกก.ละ ไม่ถึง 100 บาท ตนเองไปจับกุ้งทั่วภาคใต้พบว่าคนเลี้ยงลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้คนเลี้ยงหายไปประมาณ 30-50% เหมือนบ่อนี้บอกว่าถ้าราคาเป็นแบบนี้คงจะไม่เลี้ยง ทั้งนี้ กุ้งราคาตกกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งคนเลี้ยง คนจับ และแพรับซื้อ ในส่วนของตนซึ่งรับจับกุ้ง งานหายไปมาก กระทบหมด จากเดิมมีงานจับกุ้งทุกวัน ตอนนี้จับๆหยุด บางวันไม่มี เมื่อมีงานน้อย เพราะคนเลี้ยงเหลือน้อย ก็จะกระทบคนงานของตนด้วยหลายชีวิตพัวพันเป็นลูกโซ่ โดยสาเหตุที่เจ้าของแบ่งขาย เนื่องจากรอราคาขายไม่ได้เพราะขาดทุน แต่จับครั้งนี้ก็ยอมขาดทุน เพราะประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด ขณะที่กุ้งมีจำนวนมากในบ่อต้องทยอยปล่อยขายในราคาต่ำกว่าทุน เพราะหวั่นกุ้งจะเสียหายมากกว่านี้ เพราะความหนาแน่นและสภาพอากาศร้อนจัด จึงยอมจับขายในราคาที่ขาดทุนรัฐควรจะเร่งดูแลเกษตรกร เพราะตอนนี้คนเลี้ยงกุ้งเหลือน้อยลงทุกที

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน