ตรัง-เกิดกระแสในโซเชียลมีเดียอีกครั้ง เมื่อเพจดังโพสต์ข้อความ นร.หญิง โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง โร่ฟ้องเพจ แต่งหน้าไปโรงเรียน โดนรร.ไล่ออก เกินกว่าเหตุหรือไม่ ขณะที่ชาวโซเชียลเสียงแตก มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ตามหาจ้าละหวั่นรร.ไหน
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า เกิดกระแสดราม่าขึ่นในโลกโซเชี่ยลเป็นเรื่องราวระหว่างครูกับนักเรียน ประเด็นนักเรียนแต่งหน้าไปโรงเรียน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง และมีการแชร์สนั่นในโซเชียล!!! เมื่อเพจดัง เจ๊ม้อยv+ โพสต์ข้อความ โดยอ้างว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักเรียนหญิงคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยโพสระบุว่า “ทางโรงเรียนก็ควรออกมาชี้แจงนะคะว่าข้อเท็จจริงประการใดน้องขอให้จบเทอมก่อนแล้วค่อยลาออกก็ไม่ยอมแบบนี้ก็ไม่สมควรนะคะ…
นักเรียนสาวสุดช้ำ!! โดนเชิญผู้ปกครอง ให้เซ็นใบลาออก ทางโรงเรียนย้ำไม่ต้องมาอีก อ้อนวอนขอจบเทอมก็ไม่เป็นผล เหตุเพราะแต่งหน้าไปโรงเรียน ยอมรับว่าเคยทำผิดแต่ปรับปรุงตัวเองมาตลอด”
ซึ่งหลังจากที่เพจดังกล่าวโพสต์ข้อความไปได้เพียง 3 ชม.(ณ เวลา 21.30 น. ของวันที่ 4 ก.ค.67) มีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกว่า 219 ความคิดเห็น แชร์กว่า 400 ครั้ง และกดถูกใจโพสต์ กว่า 1000 ครั้ง
โดยบรรดาผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างเข้ามาคอมเมนต์และสอบถามกันเป็นจำนวนมากว่าเหตุเกิดที่ไหนอย่างไร ซึ่งบางคอมเม้น ก็มีทั้งเห็นด้วยและก็มีเสียงแตก โดยมีบางคอมเม้นก็ว่า ก็มีว่าครูบ้าอำนาจ ครูทำเกินกระทรวงไม่เห็นว่าอะไร บางคอมเม้นก็มีโพสต์ว่า คนผิด ไม่เคยมีใครยอมรับผิดหรอกดูกันตอนจบว่ามีอะไรเกินที่เด็กพูดมามั้ย ครูหลายคน ไม่ใช่คนเดียวครูมีแต่ง้อให้เด็กมาจบ ถ้าไม่เหลือทนคงไม่ทำหรอก อนาคตเด็ก แต่ถ้าเด็กไม่เอา ช่วยไม่ได้ ส่วนรวมต้องมาก่อน ซึ่งต่างก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แล้วก็มีบางคอมเมนต์ที่บอกว่าเป็นโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง
นอกจากนี้ ยังมีคอมเม้นต์ของเพจได้โพสต์ภาพข้อความจำนวน 2 ภาพ ซึ่งเป็นภาพข้อความสนทนากับเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าวกับเพจ ระบุ “เรื่องทัณฑ์บนก็ว่าไปตามเรื่องแต่การให้เด็กออกกลางคันสมควรไหม” โดยในภาพบทสนทนาดังกล่าว มีข้อความ พี่เด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าวระบุว่า “คือก่อนหน้านี้หนูติดทัณฑ์บนไว้แต่หนูไม่ได้ทำตัวแบบนั้นแล้ว ที่ผ่านมาคือปรับตัวมาตลอดไม่เคยกลับไปทำอย่างนั้น เพราะตอนติดทัณฑ์บนคือโดดเรียน แต่พอหลังจากนั้นก็ตั้งใจเรียนนะคะ แต่เมื่อวานตอนเข้าแถวครูเขาก็เดินมาถามเพื่อนหนูว่าตัดผมเพิ่มไหม และหนูนั่งก้มหน้าอยู่ตอนนั้นครูเขาก็ให้หนูแหงนหน้าขึ้นแล้วบอกให้หนูไปพบที่ห้องกิจนักเรียน” ส่วนอีกภาพมีข้อความว่า “แต่ตอนที่หนูไปหนูไม่ได้คิดอะไรเพราะแค่แต่งหน้าเหมือนปกติที่ทามาแล้วเขาก็พูดกับหนูแบบดุๆ แล้วบอกให้เชิญผู้ปกครองมา หนูก็ตอบกลับไปว่าแล้วทำไมคนอื่นแต่งได้สิทธิเด็กก็เท่าเทียมกันทำไมต้องโดนแค่หนูเขาบอกว่าก็หนูเคยมีวีรกรรมมาแล้ว แล้วหนูก็บอกว่าแต่หนูไม่ได้ทำแบบนั้นแล้วตอนให้เซ็นใบปิดทัณฑ์บนก็ไม่ให้หนูอ่าน บอกแค่ว่ารีบๆ เซ็นแล้วก็มีปากเสียงกันเล็กน้อย แล้วเขาบอกหนูเถียงเขา แล้วหนูบอกว่าแค่อธิบายให้ฟังทำไมคนอื่นทำได้หนูถึงทำไม่ได้ สิทธิเหมือนกันหมด แล้วหนูก็พูดกับเพื่อนว่าหนูรอดูทวิตเตอร์นะ แต่ตอนนั้นคือหนูพูดหยอกกันแต่ครูก็บอกว่าหนูขู่เขา แล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปหนูแล้วน้ำเสียงคือพูดดีแต่ก่อนจะหยิบขึ้นมาคือพูดกับหนูคนละคนเลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป เป็นจำนวนมาก และจนขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฏ เรื่องดังกล่าวในข้อเท็จจริง หรือมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางเด็กผู้ร้องเรียนรวมถึงโรงเรียนที่ถูกกล่าวอ้างถึงออกมาชี้แจงต่อโพสต์ดังกล่าวแต่อย่างใด รายละเอียดคืบหน้า จะรายงานต่อไป
ทั้งนี้สำหรับพื้นที่จังหวัดตรังในช่วงใกล้ๆ กันนี้ เกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่องกันหลายเหตุการณ์ โดยก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุการณ์นักเรียนตกจากอาคารเรียนเสียชีวิต เหตุการณ์นักเรียนถูกไฟฟ้าช็อต เสียชีวิตคาตู้น้ำดื่ม รวมถึงกระแสดราม่าในครั้งนี้
