ตรัง-ตรังผวากันยายนนี้ขึ้นค่าไฟ ทวงสัญญาหาเสียง ไหนว่าเข้ามาแก้ปัญหาพลังงานก่อน ขึ้นถี่-เยอะ ประชาชนรับเคราะห์แน่ สินค้าขึ้นราคาตาม ร้านซักรีดแบกภาระไม่ไหวเล็งขึ้นราคาตัวละ 5 บาท ขณะที่ร้านตัดผมโอดศก.ไม่ดีลูกค้าหาย 30% หากค่าขึ้นไฟต้องขึ้นราคาสระไดร์ วอนรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 จากกรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกมาระบุต้นทุนค่าเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าของไทยในขณะนี้สูงขึ้น เมื่อรวมกับการที่ต้องทยอยคืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงค้างชำระในงวดก่อนหน้าให้กับกฟผ. จึงส่งผลให้ค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ ต้องปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(ค่าเอฟที) ต้องปรับขึ้นในระดับ 46.83-182.99 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บงวดเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.65-6.01 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวด พฤษภาคม-สิงหาคมซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาท
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าภายในเขตเทศบาลนครตรัง ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองจังหวัดตรัง ต่างวิตกกังวลต่อภาระค่าใช้จ่ายของค่าไฟที่จะปรับสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อค่าครองชีพ รายจ่ายในครัวเรือน รวมถึงต้นทุนการทำมาหากินประกอบอาชีพในทุกรูปแบบ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอยู่ในขณะนี้ โดยนางสาวชุติมา หลังแก้ว อายุ 57 ปี เจ้าของร้านซักรีด ภายในเขตเทศบาลนครตรัง(เสื้อชมพู) กล่าวว่า ปกติแล้วร้านซักรีดของตนใช้ไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญทั้งในส่วนของเครื่องซัก-อบผ้า เครื่องรีดผ้า ปั๊มน้ำ ปัจจุบันร้านจ่ายค่าไฟเฉลี่ยเดือนละ 4 พันกว่าบาท จากเมื่อช่วง 4 เดือนก่อนจ่ายเพียง 3 พันบาท เพิ่มขึ้นมาแล้วพันกว่าบาท ส่วนที่จะมีการปรับค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกหลังจากนี้ในเดือนกันยายนนั้น ก็กลัวว่าจะกระทบต่อรายได้ที่ต้องหักลบกับค่าไฟที่ต้องจ่ายมากขึ้น ถ้าเดือนกันยายนนี้ค่าไฟขึ้นจริง ประชาชนคงทำอะไรไม่ได้นอกจากเตรียมตัวจ่ายอย่างเดียว
ข่าวน่าสนใจ:
- ด่วน ! ผู้ประสบอุทกภัย ต้องได้รับเงิน 9 พันจากรัฐบาล
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
“อยากสะท้อนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาลให้มาช่วยประชาชนหน่อย เพราะมันขึ้นเยอะจนประชาชนไม่ไหวแล้ว อย่างอาชีพของตนไม่ใช้ไฟฟ้าก็ไม่ได้ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือด้านต้นทุนพลังงานกับประชาชนด้วย เพราะทุกวันนี้ประชาชนก็ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆกันทุกทางแล้ว อีกทั้ง ข้าวของต้นทุนสินค้าต่างๆก็ปรับราคาขึ้น ทั้งน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งตนก็พยายามคงราคาขายเดิมให้ลูกค้า ยอมรับว่าถ้าเดือนกันยายนนี้ค่าไฟขึ้นจริง คงต้องปรับค่าซักรีดขึ้น จากเดิมตัวละ 10 บาท เพิ่มเป็นตัวละ 15 บาท เพราะแบกภาระไม่ไหว”นางสาวชุติมา กล่าว
ด้านนายเสริมศักดิ์ ติ๊บปะละ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยทำผมแม็คซาลอน ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง (เสื้อขาวใส่เอี๊ยม) กล่าวว่า ร้านของตนจ่ายค่าไฟเฉลี่ยเดือนละ 5 พันกว่าบาท ก็รู้สึกกังวล ถ้าค่าไฟขึ้นจริงในเดือนกันยายนนี้ คงต้องปรับราคาเพิ่มในส่วนของงานสระไดร์ลูกค้าเพราะเป็นงานที่ต้องใช้ไฟฟ้าโดยตรง ที่ผ่านมาก็พยายามประหยัดเต็มที่ เช่น จะเปิดแอร์เฉพาะเวลามีลูกค้าใช้บริการเท่านั้น แต่อยากให้รัฐบาลช่วยชะลอการขึ้นค่าไฟออกไปก่อน และเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มันดีกว่านี้ เพราะตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย ลูกค้าลดลงกว่าแต่ก่อนมากเพราะขาดกำลังซื้อ ปัจจุบันนี้ร้านของตนยอดรายได้ลดลงถึง 30%
ขณะที่ นางปิญพัทธิ์ ไกรเทพ 67 ชาวบ้านเขตเทศบาลนครตรัง(เสื้อน้ำเงินสามแว่น) กล่าวว่า ได้ดูคลิปหาเสียงของพรรคแกนนำรัฐบาล ว่าเรื่องพลังงานต้องจัดการให้ประชาชนก่อนเพราะประชาชนเดือนร้อนเรื่องค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า แต่ทุกวันนี้ทุกอย่างปรับขึ้นตลอด เวลาน้ำมันลดราคา ลดทีละ 30-40 สตางค์ แต่เวลาขึ้น ๆ เกินกว่าส่วนที่ลด รัฐบาลควรเร่งแก้ไขเรื่องค่าไฟค่าน้ำมันแพงโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนตามที่ได้หาเสียงและสัญญากับประชาชนไว้ อย่างราคาน้ำมันของไทยเกิน 40 บาทต่อลิตร แพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก เป็นเพราะอะไร แล้วเดือนกันยายนนี้พอค่าไฟขึ้นประชาชนก็ต้องรับเคราะห์กรรมทุกอย่าง เพราะคนมีหรือไม่มีเงินก็ต้องหาค่าไฟมาจ่ายให้ได้ เพราะไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน ที่ผ่านมาก็ขึ้นมาเยอะแล้ว แล้วปัจจุบันประชาชนก็เดือดร้อนมาก เศรษฐกิจไม่ดี ร้านค้าร้านอาหารขายไม่ได้ ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจทุกวันนี้เกิดเป็นมวลรวมทุกวงการ รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาค่าไฟกับค่าน้ำมันโดยเร็วที่สุด เพราะเมื่อขึ้นราคาแล้ว ค่าขนส่งต่างๆก็ขึ้นตาม สินค้าก็ขึ้นตาม ประชาชนก็เดือดร้อนในที่สุดอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: