ตรัง แห่ประหยัด! ทำบุญเข้าพรรษา พิษเศรษฐกิจลามร้านสังฆภัณฑ์ โอดเงียบกว่าทุกปี ไร้เงาลูกค้า เทียนพรรษาต้องเล็กและถูก ของแพงขายไม่ได้ เชื่อโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเทศกาลไม่คึกคักแล้ว ร้องรัฐบาลช่วยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ถึงบรรยากาศก่อนเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญในพุทธศาสนา โดยวันเข้าพรรษาประจำปี 2567 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 แรม 1 ค่ำ เดือนแปด โดยตลอดระยะเวลาฤดูฝนตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ พระสงฆ์จะมีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่นในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 นอกจากนี้ยังมีการถวายเทียนพรรษาจากสาธุชน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้เทียนจุดให้แสงสว่างในการศึกษาพระธรรมวินัยอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวลงสำรวจบรรยากาศร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ภายในเขตเทศบาลนครตรังตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา โดยพบว่าบรรยากาศหน้าร้านได้จัดวางเทียนพรรษา ซึ่งมีหลายขนาด ตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ แต่บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้จะใกล้ถึงช่วงเทศกาลเข้าพรรษาแล้ว แต่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ซื้อหาเตรียมทำบุญของประชาชนกลับไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆมา หลายร้านไร้เงาลูกค้า พนักงานได้แต่นั่งรอ โดยหลายๆร้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนไม่มีกำลังซื้อในช่วงนี้ จึงต้องประหยัดมากกว่าปกติ
นางกนกวรรณ กิตติปรีชากุล เจ้าของร้าน จ.แหลมทองพานิช 31 ภายในเขตเทศบาลนครตรัง บอกว่า บรรยากาศปีนี้เงียบมาก เหมือนเศรษฐกิจไม่ดี อะไรก็ไม่ดีไปหมด ทำให้เงียบไปหมดเลย ปีที่แล้ว(2566)ยังคึกคักกว่าปีนี้ ยังพอมีบ้างที่คนออกมาจับจ่ายซื้อของ อย่างไรก็ตามในส่วนของเทียนพรรษาปีนี้จะไม่เน้นขายขนาดใหญ่มาก โดยราคาจะเริ่มต้นคู่ละ 120-180-280-600 บาท ซึ่งชาวบ้านเน้นเอาราคาที่ถูกไว้ก่อน ซื้อตามประเพณี โดยเราก็ไม่ได้มีการปรับราคาแต่อย่างใด คาดว่าหลังจากนี้ก็คงไม่คึกคักอีกแล้ว เพราะปกติในช่วงสัปดาห์นี้จะขายดีแล้ว จะมีลูกค้าแวะเวียนกันมาซื้อของไปทำบุญ ซื้อเทียนไปถวายในช่วงวันเข้าพรรษา และปีนี้ทางร้านไม่ได้เตรียมสต๊อกสินค้าไว้เยอะ ตอนนี้ก็หวังแค่ให้ของที่มีอยู่ขายออกก็เป็นพอ
“ยอมรับเลยว่าเงียบมาก อยากฝากสะท้อนไปถึงรัฐบาลว่า เศรษฐกิจไม่ดี อยากให้ช่วยประชาชนด้วย รวมไปถึงในตลาดก็เงียบไปด้วย บรรดาร้านค้าเพื่อนฝูงก็มาบ่นเหมือนกันว่าเงียบมาก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จากแต่ก่อนลูกค้าจะนิยมซื้อของไปทำบุญเป็นชุด เดี๋ยวนี้ก็เลือกแค่ชิ้นเดียว เลือกซื้อตามกำลังในราคาประหยัดมากกว่า” นางกนกวรรณ ระบุ
ด้านนายสมรัฐ ปิยะรัฐ เจ้าของร้านเพ็ญพรรณ จำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ภายในเขตเทศบาลนครตรัง บอกว่า ปีนี้เงียบมากเงียบกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ปีที่แล้วว่าเงียบแล้ว ปีนี้เงียบกว่าอีก คิดว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยกันเลย แม้ทางร้านจะไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด เพราะเน้นขายลูกค้าประจำ และในช่วงนี้สัปดาห์นี้ก็คาดว่าน่าจะไม่คึกคักอีกแล้ว จึงไม่ได้เตรียมสต๊อกของไว้เยอะ เพราะกลัวขายไม่ได้ และปีนี้ก็ยิ่งเงียบเข้าไปอีก และเทียนพรรษาที่เราขายจะเน้นเป็นเทียนคู่ ราคาประหยัด มีราคาเริ่มต้นราคา 120 บาทขึ้นไป เพราะถ้าเน้นเป็นเทียนขนาดใหญ่จะขายไม่ออกเลย เมื่อก่อนที่ลูกค้าเคยถามหาในราคาที่แพงที่สุด แต่ตอนนี้ลูกค้ามานิยมถามหาในราคาที่ถูกที่สุดแล้ว
