ตรัง-สุดต้าน พระมือตบเณร ย่องเงียบลาสิกขาแล้ว ผอ.บ้านพักเด็กตรังฯ นำเณรเข้าแจ้งความ ด้านตำรวจเรียกผู้ปกครองเข้าแจ้งความเพิ่ม เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำละเอียดร่วมสหวิชาชีพ พยานทุกปาก มูลเหตุจูงใจ เผยพระมือตบยังอยู่ในพื้นที่ พ่อพร้อมนำตัวลูกชายพบตร. พบตามคลิป ทำร้ายร่างกาย รอผลเอ็กซ์เรย์
จากกรณีปรากฎคลิป พระตบเณร สนั่นกลางวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ทั้งกดหัว-บีบคอ ชาวบ้าน-ญาติสุดทน ร้องตรวจสอบพฤติกรรมเกี่ยวพันยาเสพติดหรือไม่ พร้อมจี้ฝ่ายสงฆ์พิจารณาโทษ ขณะที่เณรเผย ไปช่วยงานวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง แต่กลับถูกพระต่างวัดทำร้ายตลอด ล่าสุดรุนแรงจนสลบ เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง โดยนายสุขพิชัย เชาวกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง พร้อมด้วยพระครูมหาเขตตารักษ์ (จรัญญา สิริปญฺโญ) เจ้าคณะอำเภอวังวิเศษ และพระใบฎีกาชำนาญ เจ้าอาวาสวัดกมลศรี ได้ร่วมพูดคุยวางมาตรการเยียวยาแก้ปัญหา โดยผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ออกมาระบุคู่กรณีได้ทำการทำบันทึกข้อตกลงเยียวยาแก่สามเณรแล้ว โดยพระยุทธศักดิ์ผู้ก่อเหตุยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา และขอเยียวยาแก่สามเณรเป็นเงิน 10,000 บาท โดยจะจ่ายครบจำนวนในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ขณะที่เจ้าคณะอำเภอวังวิเศษ ระบุคณะปกครองสงฆ์ยังให้โอกาสพระยุทธศักดิ์ได้อยู่เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อและได้มีการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว
อย่างไรก็ตามในโลกโซเชี่ยล มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยากให้คณะสงฆ์ทำการลงโทษขั้นรุนแรง อาทิ จับสึก เพราะพฤติกรรมตามที่ปรากฏในคลิปมีความก้าวร้าวรุนแรงมาก ทั้งการใช้กำลังทำร้าย ไม่สมควรต่อฐานะสงฆ์ และยังมีการกล่าวถ้อยคำหยาบคายรุนแรงถึงขั้นด่าแม่เณรอีกด้วย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากปรากฏคลิปและข่าวออกสื่อ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ได้นำตัวเณรมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สิเกา หลังจากได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่วัดทุ่งใหญ่ ตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นวัดที่สามเณรพงศธร(สงวนนามสกุล) หรือ เณรเบล ผู้เสียหายจำวัดอยู่ และได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกับพระอธิการยุทธศักดิ์ ธรรมปาโล เจ้าอาวาสวัดทุ่งใหญ่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทางวัดทุ่งใหญ่ได้ส่งสามเณรภายในวัดจำนวน 5 รูป รวมทั้งสามเณรเบล ไปช่วยรับกิจนิมนต์ที่วัดกมลศรี หมู่ที่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ตามปกติ เนื่องจากเจ้าอาวาสวัดกมลศรีได้ร้องขอให้ไปช่วยอยู่ประมาณ 2 เดือนเศษ ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 07.00 น. ขณะที่สามเณรเบล ผู้เสียหายอยู่ที่โรงฉัน ได้ถูกพระยุทธศักดิ์ พระลูกวัดของวัดกมลศรี ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากเข้าใจว่าสามเณรเบลกล่าวหาพระยุทธศักดิ์ ว่าไม่ออกไปบิณฑบาต จนเกิดความไม่พอใจ จึงได้ทำร้ายร่างกายสามเณรเบล ตามที่ปรากฏเป็นข่าวและคลิป ซึ่งหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด หัวหน้าบ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จึงได้พาผู้เสียหายมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หลังจากที่พนักงานสอบสวนรับแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ได้ส่งตัวสามเณรเบล ผู้เสียหายไปที่โรงพยาบาลสิเกา เพื่อตรวจร่างกาย หาร่องรอยการถูกทำร้าย และให้แพทย์ลงความเห็นอาการบาดเจ็บประกอบสำนวนการสอบสวน หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการแจ้งสหวิชาชีพ เพื่อเข้าร่วมสอบคำให้การผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน และจะได้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
ด้านพ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สภ.สิเกา เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้กำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาและได้ส่งคลิปเหตุการณ์มายังตน ตนจึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่พบว่าเป็นเหตุการณ์จริง ซึ่งล่าสุดทางหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ได้นำเณรเบลมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับพระผู้ทำร้ายร่างกายแล้ว และตนได้ประสานไปยังผู้ปกครองของเณรเบล ให้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมด้วย ในฐานะผู้ปกครองเยาวชนตามกฎหมาย สำหรับตัวพระผู้ก่อเหตุ ได้ทราบจากทางบิดาของพระว่าได้ทำการลาสิกขาบทแล้วในวันนี้ (24 ก.ค.) จากนั้นจะได้เข้ามาให้ทางตำรวจสอบปากคำต่อไป
ผกก.สภ.สิเกา กล่าวว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวน ตนให้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้สิ้นกระแสความ โดยเฉพาะให้เรียกสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดทุกคน ทั้งตัวเณรเบลโดยมีสหวิชาชีพร่วมสอบ ผู้ปกครองของเณร อดีตพระผู้ก่อเหตุซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในพื้นที่ และพ่อของอดีตพระรับปากจะพาตัวมา นอกจากนี้รวมถึงผู้ที่ถ่ายคลิปดังกล่าว ขณะนี้สอบคืบหน้าไป 3-4 ปากแล้ว ส่วนผลตรวจร่างหายจากโรงพยาบาลสิเกา เบื้องต้นพบว่ายังมีรอยช้ำ แต่ยังต้องรอผลเอ็กซ์เรย์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อสอบปากคำครบทุกปากและรวบรวมพยานหลักฐานจนครบ พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาต่ออดีตพระต่อไป แต่จากที่ปรากฏตามคลิป ก็คือการทำร้ายร่างกาย แต่ต้องสอบสวนเหตุการณ์ สาเหตุ มูลเหตุจูงใจให้ครบถ้วน เรื่องนี้ขอให้สังคมเชื่อใจได้ว่าตำรวจจะทำงานตรงไปตรงมาตามกฎหมาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: