ตรัง ชวนเที่ยวงาน “มหกรรมอาหารปลอดภัย กินดี อยู่ดี วิถีตรัง” เลือกซื้อสินค้า OTOP 70 บูธ ผลผลิตจากโคกหนองนาโมเดล ชุมชนท่องเที่ยว ตื่นตาผลไม้สุดแปลก “มะขามแดง-มะละกอหัวจุก”
เมื่อวันที่31 ก.ค. 67 สำนักงานพัฒนาชุมชมชนจังหวัดตรัง ดำเนินโครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากด้วยทุนชุมชนสู่การกินดี อยู่ดี วิถีตรัง ภายใต้ชื่องาน “มหกรรมอาหารปลอดภัย กินดี อยู่ดี วิถีตรัง” ณ ลานหน้าศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ จังหวัดตรัง โดยมีนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงาน
โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยความร่วมมือกันระหว่างภาคราชการ เอกชนและภาคประชาชนให้คนในชุมชนได้นำภูมิปัญญาที่มีอยู่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้มาตรฐาน ยกระดับสู่ผลิตภัณฑ์ OTOP คุณภาพ อีกทั้งมีการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านการตลาดเพื่อเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์จากชุมชน สู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มช่องทางการตลาดให้ครัวเรือนยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ.ที่สามารถพัฒนาได้ ครัวเรือนเป้าหมาย TPMAP ครัวเรือนตกหล่น ผู้ด้อยโอกาส คนเปราะบาง ครัวเรือน โคก หนอง นา ชุมชนท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ OTOP ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่กิจกรรมที่ 1 เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการฝึกทักษะอาชีพให้แก่ครัวเรือน จำนวน 174 คน ดำเนินการระหว่างวันที่ 17 – 30 กรกฎาคม 2567 และกิจกรรมที่ 2 มหกรรมอาหารปลอดภัย กินดี อยู่ดี วิถีตรัง กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2567 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จำนวน 70 บูธ บูธแสดงและจำหน่ายสินค้า จากครัวเรือนเป้าหมายในกิจกรรมที่ 1 จำนวน 30 บูธ การจัดแสดงนิทรรศการสาธิตและจำหน่ายผลผลิตจากศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา และชุมชนท่องเที่ยว จำนวน 10อำเภอ 20 บูธ กิจกรรมส่งเสริมการขาย “ชั่วโมงทอง” กิจกรรมการสาธิตอาชีพ จาก 10 อำเภอ
การประกวดอาหารพื้นถิ่น 1 สำรับ 5 เมนู จาก 10 อำเภอ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรี ตลอดการจัดงาน
ซึ่งงานดังกล่าวมีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก โดยบูธสินค้าที่ประชาชนสนใจเป็นพิเศษเป็นบูธจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรที่นำผลไม้รูปร่างแปลกตาอย่าง มะขามแดง และ มะละกอหัวจุก มาจำหน่าย ซึ่งลักษณะของมะขามแดงเกษตรกรจากอำเภอกันตังนำมาขาย เป็นแบบฝักอ่อนทานคู่กับน้ำปลาหวาน และน้ำมะขามแดงแช่เย็นดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น ดับกระหายได้ดี
โดยนายสายันต์ สุวรรณรัตน์ เกษตรกรจากตำบลวังวน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง บอกว่า ตนนำต้นพันธุ์มะขามแดงมาจากจังหวัดพิจิตร เพราะเห็นว่าเป็นมะขามที่แปลกตา เปลือกน้องมีสีเขียวเช่นเดียวกับมะขามทั่วไป แต่เนื้อมะขามมีสีแดงเข้ม ตอนนั้นได้ชิมน้ำมะขามแดงก็ติดใจจึงนำมาปลูกที่อำเภอกันตัง ปลูก 5 ปี ก็ให้ผลผลิต ส่วนใหญ่นิยมรับประทานผลอ่อนไม่ว่าจะนำมาแปรรูปเป็นน้ำมะขาม น้ำพริกมะขามแดง หรือทานกับน้ำปลาหวาน เพราะหากเป็นผลสุกเนื้อมะขามก็เป็นสีขาว น้ำตาล เหมือนมะขามทั่วไป สำหรับมะขามแดงตนปลูกไว้ทั้งหมด 50 ต้น เป็นพืชที่ดูแลง่าย ทนต่อสภาพอากาศแล้ง
สำหรับราคาขาย น้ำมะขามแดง ขวดละ 20 บาท มะขามแดงพร้อมน้ำปลาหวาน ชุดละ 30 บาท น้ำพริกมะขามแดง กระปุกละ 20 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสินค้าหรือต้องการเยี่ยมชมสวนมะขามแดง สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-4445712
.
เช่นเดียวกับเกษตรกรจากอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ที่นำผลผลิตจากสวนมาจำหน่ายในงานหลายชนิด เช่น หน่อไม้ ฝัก แตงกวา ผักเหมียง แต่ผลไม้ที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น คือ มะละกอหัวจุก ที่มีลักษณะเด่นตรงที่บริเวณส่วนบนของลูกมีลักษณะเป็นวงกลมสีดำ ผลสุกเป็นสีเหลืองเข้ม รสชาติจะคล้ายกับมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์
นางน้อย ติประดิษฐ์ เกษตรกรตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง บอกว่า มะละกอหัวจุกเป็นมะละกอพันธุ์โบราณ หารับประทานยาก ชาวบ้านนิยมทานผลดิบและห่าม แบบสุกก็อร่อยไม่แพ้กัน รสชาติคล้ายกับมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ เนื้อมะละกอจะเป็นที่เหลืองทาง ชาวบ้านนิยมนำไปแกง หรือ ทำส้มตำ เป็นมะละกอที่มีเนื้อกรอบเหมาะแก่การตำส้มตำ มะละกอหัวไม่ค่อยมีใครผลปลูกกันมากนัก เพราะต้องใช้วิธีเพาะเมล็ด ในมะละกอลูกหนึ่งๆ จะมีเมล็ดน้อยมาก และบางลูกไม่มีเมล็ดเลย ลักษณะพิเศษอีกอย่างที่ไม่เหมือนมะละกอพันธุ์อื่น คือ ผลจากดอกตัวเมียจะมีจุก ส่วนผลจากดอกตัวผู้จะไม่มีจุก สำหรับงานนี้ตนนำมาขายในราคาลูกละ 20 บาท สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทร 061-2066725
