ตร.ภูธรตรัง รับนโยบายนายกฯ-ผบ.ตร. วาระเร่งด่วนปราบยา-คอลเซ็นเตอร์ ผบภ.จว.ตรังมั่นใจ “บิ๊กต่าย” มือปราบ ปี 68 เน้นกวาดล้างรายย่อยหลังระบาดเกลื่อนเมือง เล่นงานฟอกเงิน-ยึดทรัพย์ เผยเดือนเดียวจับหลักแสนเม็ด รวบล็อตใหญ่ 6.4 หมื่นเม็ดซุกร้านขายน้ำแข็งกลางเมือง
ตรัง-ผู้การตร.ตรัง เรียกประชุมหน.สภานี รับนโยบายนายกฯ-ผบ.ตร. วาระเร่งด่วนปราบยา-คอลเซ็นเตอร์ มั่นใจ “บิ๊กต่าย” เชี่ยวชาญปราบอาชญากรรม ออกยุทธการปี 68 เน้นกวาดล้างรายย่อยตัดวงจรผู้ค้าหลังระบาดเกลื่อนเมือง ตามเล่นงานฟอกเงิน-ยึดทรัพย์ เผยเดือนเดียวจับหลักแสนเม็ด รวบล็อตใหญ่ 6.4 หมื่นเม็ดซุกร้านขายน้ำแข็งใจกลางเมือง ตามยึดทรัพย์กว่า 3 ล้าน เผยผลงานศูนย์ปราบอาชญากรรมเทคโนโลยีตรังจับต่อเนื่องบช.ม้า นำเงินคืนปชช. เตือนเจ้าหนี้นอกระบบอย่าตามรีดเงินหมื่นชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 จากกรณีคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) มีมติเลือกพล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็นผบ.ตร.คนใหม่ รวมทั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตร. สั่งกำชับนโยบายเป็นวาระเร่งด่วนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เร่ง ปราบปรามอาชญากรรมโดยเฉพาะยาเสพติด และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดหนักในเวลานี้ ล่าสุดวันนี้(6ต.ค.67) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง(ผบภ.จว.ตรัง) เรียกประชุมระดับรองผบภ.จ.ตรัง พร้อมผู้กำกับการทั้ง 16 สถานีในสังกัดผบภ.จ.ตรัง เพื่อกำชับทิศทางการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีและผบ.ตร.คนใหม่ พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานกวาดล้างอาชญากรรมประจำปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสรุปผลการปฏิบัติกวาดล้างอาชญากรรม ประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายตำรวจจากทุกหน่วยเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง(ผบภ.จว.ตรัง) แถลงภายหลังประชุมว่า ภ.จว.ตรังได้รับนโยบายในการประชุมก.ตร.ที่มีนายกฯเป็นประธานในเรื่องการเร่งปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ ซึ่งได้สั่งการไปยังทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด โดยภ.จว.ตรัง ได้กำหนดนโยบายการปฏิบัติงานของปีงบประมาณ 2568 โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป เราจะเน้นการปราบปรามผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่โดยเฉพาะ เพื่อตัดวงจรการค้าที่แพร่ระบาดไปยังผู้เสพในทุกพื้นที่ โดยจะทั้งติดตามจับกุม ยึดทรัพย์สิน และดำเนินคดีต่อเนื่องเกี่ยวกับฐานความผิดฟอกเงิน หลังจากที่ปีงบประมาณ2567ที่ผ่านมาได้เน้นกวาดล้างเครือข่ายรายใหญ่ไปแล้วมาโดยตลอด แต่ก็ยอมรับว่าปัญหายาเสพติดก็ยังแพร่หลายกันอยู่ ซึ่งเราจะต้องเร่งกวาดล้างอย่างเข้มข้นต่อเนื่องต่อไป
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติงานในเดือนกันยายานที่ผ่านมาซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2567 เจ้าหน้าที่ภ.จว.ตรังได้จับกุมคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมีผลการจับกุม 130 ราย ผู้ต้องหา 133 คน ของกลางยาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 145,693 เม็ด , เคตามีน 2.08 กรัม และน้ำกระท่อมจำนวน 78 ลิตร โดยเฉพาะคดีสำคัญการจับกุมยาบ้า โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา กองกำกับการสืบสวนสอบสวนภ.จว.ตรัง โดยชุดปราบปรามยาเสพติด ได้เข้าจับกุมนายกรวิทย์ (สงวนนามสกุล) และนางสาวกาญจนา (สงวนนามสกุล) ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ได้ที่ร้านขายส่งน้ำแข็งแห่งหนึ่งภายในตลาดแห่งหนึ่งใจกลางเขตเทศบาลนครตรัง พร้อมของกลางยาบ้า 64, 940 เม็ด ก่อนจะขยายผลเข้าตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องหรืออาจได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้แก่ 1. บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท 2.รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียนจ.พัทลุง มูลค่าประมาณ 600,000 บาท และ3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแลมโบ หมายเลขทะเบียน ทะเบียนจ. ตรัง มูลค่าประมาณ 120,000 บาท รวมทรัพย์สินตรวจยึด 3,720,000 บาท
พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวว่า สำหรับวาระเร่งด่วนการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ ทั้งนายกฯและพบ.ตร.ให้ความสำคัญและเร่งรัดโดยตลอด แต่ก็ยังมีการกระทำผิดต่อเนื่อง โดยภ.จว.ตรังจะยกระดับความเข้มข้นในการปราบปรามต่อเนื่อง รวมทั้งการเฝ้าระวัง การประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านหลงเชื่อ ทั้งนี้ภ.จว.ตรังได้มีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะ มีชุดปฏิบัติการสืบสวนติดตามจับกุมโดยเฉพาะ โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีผลงานการติดตามจับกุมมาต่อเนื่อง ทั้งบัญชีม้า ซิมม้า โดยเฉพาะการนำเงินที่ถูกหลอกไปมาคืนชาวบ้านผู้เสียหายโดยเร็ว นอกจากนี้ในช่วงที่รัฐบาลแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้กลุ่มเปราะบาง ทางตำรวจก็ได้ติดตามเฝ้าระวังให้กับประชาชนผู้รับเงิน ทั้งที่ธนาคารและพื้นที่ต่างๆ โดยได้จัดกำลังลงพื้นที่ติดตามดูแลเพื่อดูแลความปลอดภัยป้องกันอาชญากรรมประเภทลักทรัพย์ จี้ชิง ปล้น รวมถึงเฝ้าระวังติดตามเครือข่ายอิทธิพลเงินกู้นอกระบบที่อาจเข้าข่มขู่ติดตามทวงหนี้จากประชาชนหลังได้รับเงินหมื่น ยืนยันว่าปัญหาเรื่องเงินกู้นอกระบบตำรวจจะดำเนินการต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด เราเข้าจะดำเนินการทันที
“ทั้งนี้เชื่อว่านโยบายของผบ.ตร.ท่านใหม่ จะมีความต่อเนื่องสอดคล้อง เพราะท่านเป็นอดีตรองผบ.ตร.ที่กำกับดูแลงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมโดยเฉพาะมาก่อนด้วย”ผบภ.จว.ตรังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: