ภายในสวนยางพาราเนื้อที่ 2 ไร่ ของนางบังอร ยังช่วย เกษตรกรชาวตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง ซึ่งได้ปลูกข่าตาแดงในร่องสวนยางพารา สามารถสร้างรายได้ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และยังขายได้ราคาดีตกกิโลกรัมละ 50-70 บาท ยิ่งเป็นช่วงหน้าแล้งจะขายได้ราคาดี เพราะใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารไทยหลากหลายเมนู มีตลาดรองรับตลอดทั้งปี โดยข่าตาแดงลงทุนปลูกครั้งเดียว สามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ปี และเป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่ต้องให้รดน้ำ ไม่ค่อยมีโรคพืชรบกวน
นางบังอร ยังช่วย กล่าวว่า ตนปลูกข่าตาแดงมา 6 ปีแล้ว ปลูกพร้อมกับยางพาราโดยใช้พื้นที่ว่างร่องสวนยาง เป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า และเป็นการสร้างรายได้เสริม แต่หากมองจริงๆ ถือว่าเป็นรายได้หลักก็ว่าได้เพราะสามารถเก็บผลผลิตได้ทุกวัน แต่ตนเลือกเก็บแบบวันเว้นวัน ได้ผลผลิตต่อครั้งประมาณ 10-20 กิโลกรัม ขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท โดยช่วงหน้าแล้งราคาจะดีตกกิโลกรัมละ 70 บาท หรือบางปีก็ 75 บาท ข่าตาแดงเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะใช้ทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงหมู-เนื้อใส่ข่า แกงคั่วกลิ้ง ต้มข่าไก่ ใส่ต้มยำต้มแซ่บ ลวกจิ้มน้ำพริก เป็นต้น
สำหรับข่าตาแดงที่ตนขุุดได้ในแต่ะครั้งจะทำมาตัดใบ ลอกกาบแข็งออก ล้างทำความสะอาด และตัดแต่งก่อนส่งขายให้แม่ค้า
ซึ่งเข้าตาแดงเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลง่าย ไม่ต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอก แต่ต้องหมั่นตัดแต่งกอข่าไม่ให้แน่นเกินไปเพราะหากในกอมีต้นข่าเยอะจะเสี่ยงที่พวกหมอน หรือหนอนผีเสื้อมาเจาะกิน
ทั้งนี้นอกจากจะปลูกข่าตาแดงแล้ว ตนยังใช้พื้นที่ข้างบ้านประมาณ 1 ไร่ ปลูกผักเหมียงและกล้วยชนิดต่าง ทึ่มีทั้ง กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า ไว้จำหน่ายอีกด้วย โดยการปลูกพืชแบบนี้ทำให้มีรายได้ครอบครัวทุกวัน
สำหรับเกษตรกรที่สนใจสั่งซื้อข่าตาแดงไปขาย นำไปรับประทาน หรือนำพันธุ์ข่าตาแดงไปปลูกสร้างรายได้ สามารถโทรสั่งซื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์ 081-3622735
